“พ่อโบ๊ท” พาลูกชายพบพนักงานสอบสวน ยันไม่เข้าข้าง เผยลูกชายไม่เคยเล่าเรื่องทิ้งกล้องวงจรปิด บอกปกติเห็น ตร. กินข้าวบ้านกำนันนกบ่อยครั้ง
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ตำรวจภูธรภาค 7 เวลา 12.20 น. นายระยอง อินทร์ต้นวงศ์ ซึ่งเป็นพ่อของ “นายโบ๊ท" พนักงานราชการเรือนจำกลางเขาบิน ได้เดินทางมาเป็นเพื่อนลูกชาย เพื่อให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน หลังให้การรับสารภาพได้มีการเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดไปทิ้งน้ำ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นโบ๊ทไม่ได้พูดอะไรให้ตนฟัง เนื่องจากเขาบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยืนยันว่าตนและลูกชายไม่เครียด เนื่องจากเชื่อว่าเขาบริสุทธ์ใจ ทั้งนี้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย หากมีความผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษ และขณะนี้ลูกชายของตนก็ถูกสั่งพักงาน แต่ไม่เป็นใจหากบริสุทธิ์ก็ไม่มีอะไร และจากการพูดคุยกับลูกชาย ตนบอกเขาว่ามีอะไรก็ให้บอกกับทางพนักงานสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา และย้ำว่าให้ว่าตามจริง หากผิดก็ผิด ถูกก็ถูก ซึ่งหากเขาผิดก็ต้องลงโทษ แต่หากถูกหวังว่าศาลท่านจะปราณี ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เข้าข้างลูกชายแต่อย่างใด และตนเองก็ทำงานอยู่ที่เรือนจำเช่นเดียวกัน และทำมานาน 30-40 ปีแล้ว พร้อมกับย้ำว่าหากเขาไม่ได้มีความผิดก็อยากขอความยุติธรรมให้กับลูกชายก้วย
ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าเขาถูกสั่งการหรือไม่ สำหรับการเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดไปทิ้งน้ำ และลูกชายไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามในคืนวันเกิดเหตุทราบว่าลูกชายตนอยู่ในงานจริง แต่อยู่ห่างๆ ส่วนหลังเกิดเหตุลูกชายจะไปเอากล้องวงจรปิดมาอย่างไรนั้นนั้นไม่ทราบ และไม่ได้ถาม
สำหรับการไปบ้านกำนันนกนครปฐมนั้น นาน ๆ จะไปที เช่น 1 เดือนจะเรียกไปกินข้าวที ซึ่งตนก็เคยไป ปกติทางกำนันนกจะเป็นคนโทรศัพท์มาตามให้ไป เพราะบ้านก็อยู่ใกล้ แต่เป็นคนละหมู่กัน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ดูแล และโดยปกติจะพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกินข้าวที่บ้านกำนันนกบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมากำนันนก เขาก็ปกครองและดูแลลูกบ้านดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจาก “โบ๊ท” ให้การกับพนักงานสอบสวนที่บริเวณห้องเสละเวช ต่อมาตำรวจคุมตัวนายโบ้ทออกมาจากห้องประชุม เวลา 12.40 น. ได้พาตัวขึ้นไปยังชั้น 2
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเจ้าตัวว่า “มีใครสั่งให้ไปทิ้งเซิร์ฟเวอร์หรือไม่” แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถาม และจากการสังเกตสีหน้า พบว่า วันนี้นายโบ๊ทมีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด และอิดโรย
