ได้เจอกันแล้ว! แม่ประกาศหานักศึกษาฮีโร่ ช่วยปั๊มหัวใจลูกชายจนรอดตาย

7 มี.ค. 66

ตามหาจนเจอ! แม่ประกาศหานักศึกษาฮีโร่ช่วยชีวิตลูกชาย ปั๊มหัวใจจนฟื้นกลับมาได้ ล่าสุดได้เจอกันแล้วคนเจ็บลั่นอยากบวชให้

วันที่ 7 มีนาคม 66 จากกรณีมีผู้ใช้ TikTok ชื่อ pantib888 โพสต์ภาพอุบัติเหตุพร้อมระบุข้อความว่า "ตามหาน้องนักศึกษาที่ช่วยปั๊มหัวใจลูกชายแม่ เหตุเกิดวันที่ 15 ก.พ.66 รถมอเตอร์ไซค์ชนกับปิ๊กอัพระหว่างรอรถโรงบาลลูกชายแม่หัวใจหยุดเต้น คนแถวนั้นบอกว่ามีคนปั๊มหัวใจจนน้องฟื้นขึ้นมา คนช่วยชีวิตน้องเป็นนักศึกษา ครอบครัวแม่อยากเจอมากๆ ค่ะ ตอนนี้น้องปลอดภัยแล้วค่ะ สถานที่เกิดเหตุหน้าร้านตำหรอยพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี "

"ตอนน้องฟื้นมีสติ เล่าให้เขาฟังว่ามีพี่นักศึกษาช่วยชีวิตลูก ปั๊มหัวใจลูก ตอนนั้นลูกหัวใจหยุดเต้นและพอพี่เขาปั๊มหัวใจลูกหายใจเฮือกขึ้นมา พอดีกับรถโรงพยาบาลมาที่เกิดเหตุ เล่าเสร็จเขานอนน้ำตาไหลเอานิ้วชี้ไปที่ตัวเองและที่หัวแม่ เข้าใจว่าน้องเจ็บน้องสั่นหัวและพูดว่าบวชๆๆ พอหมอถอดเครื่องช่วยหายใจออก คำแรกที่พูดคือ “แม่…ลูกขอบวชบวชให้พี่นักศึกษาด้วย” ครอบครัวแม่และญาติๆ อยากเจอน้องนักศึกษามากๆ อยากกอดเขาแน่นๆ แล้วบอกว่า ขอบคุณมากที่พาน้องกลับมาให้แม่ พาหัวใจของแม่และครอบครัวกลับมา” คำพูดมากมายอยู่ในหัวใจพ่อแม่เยอะแยะอยากเจอฮีโร่น้องนักศึกษาคนนี้จริงๆ

ตามหาจนเจอ

ล่าสุดหลังคลิปกลายเป็นไวรัล คุณแม่ของคนเจ็บก็ได้โพสต์ข้อความว่าตามหาน้องนักศึกษาที่ช่วยชีวิตลูกชายพบแล้ว โดยหนุ่มพลเมืองดีอายุ 17 ปี เรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีศรีวิชัยสุวรรณภูมิ(อยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี) ตามหากันเจอแล้ว โทรคุยกันน้อง ขอบคุณน้อ งและจะพาลูกชายและครอบครัวไปขอบคุณน้องด้วย

ตามหาจนเจอ

ต่อมาเมื่อเวลา 12:45 น. วันที่ 7 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่มูลนิธิกุศลศรัทธาท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พบกับนายคณาศักดิ์ นาคเต หรือ น้องฟิล์ม อายุ 17 ปี นักศึกษาระดับปวช.วิทยาลัยเทคโนโลยีศรีวิชัยสุวรรณภูมิอยู่บ้านเลขที่ 151/5 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าโรงช้าง อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เล่าว่า

ตามหาจนเจอ

วันเกิดเหตุช่วงเวลา 15.40 น. ตนเองเลิกเรียนพอดี ขับรถจยย.จะกลับบ้าน และเห็นเหตุการณ์ เลยเลี้ยวรถกลับมาและเรียกผู้บาดเจ็บแต่นิ่งไม่ตอบสนองใดๆ ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีไทยมุงจำนวนมาก แต่ไม่มีใครสามารถช่วยน้องได้ จึงได้โทรหานายสุธินันท์ ช่วงชู รองหัวหน้ากู้ภัยฯว่ามีเหตุดังกล่าว จึงได้รับคำแนะให้ทำ CPR ตน จึงปั๊มขึ้นประมาณ 30 ครั้งในเวลาไม่ถึง 2 นาที จนผู้บาดเจ็บรู้สึกตัวเฮือกขึ้นมาประกอบกับรถโรงพยาบาลมาถึงพอดี

ตามหาจนเจอ

ทั้งนี้ตนเองรู้สึกดีใจ ที่สามารถช่วยได้อีก 1 ชีวิต ให้กลับหาครอบครัว โดยตนเองทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครกู้ภัยมาประมาณ 3 ปี ตามพ่อและพี่ชายอีก 2 คน ที่ทำกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือสังคม

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส