ที่มาของ วันวาเลนไทน์ ไขคำตอบทำไมคนถึงนิยมมอบช็อกโกแลตให้แก่กันในวันแห่งความรัก

14 ก.พ. 66

ส่องคำตอบ ทำไมผู้คนนิยมมอบ "ช็อกโกแลต" เป็นของขวัญให้กันใน วันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ หรือวันแห่งความรัก

ที่มาของ วันวาเลนไทน์

สมัยศตวรรษที่ 3 แห่งโรมัน ของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ของกรุงโรมในประเทศอิตาลี กรุงโรมมีสงครามอยู่บ่อยครั้ง องค์จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 สั่งเกณฑ์ให้ผู้ชายทุกคนไปออกรบ จึงออกกฎห้ามไม่ให้มีการหมั้นหมายและสมรสเพื่อไม่ให้ผู้ชายมีความกังวลใดๆ หากฝ่าฝืนจะถูกประหารชีวิต แต่มีหนุ่มสาวหลายคู่แอบจัดพิธีแต่งงานกันอย่างลับๆ โดยมี “นักบุญวาเลนไทน์” เป็นผู้ประกอบพิธีให้

เมื่อจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ทราบเรื่อง จึงสั่งประหารชีวิตนักบุญวาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงเป็นที่มาของวันวาเลนไทน์ วันระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ ซึ่งต่อมากลายเป็น “วันแห่งความรัก” นั่นเอง

istock-1267370430

ที่มาของการมอบ "ช็อกโกแลต" เป็นของขวัญให้กันในวันวาเลนไทน์

ในสมัยก่อนคู่รักจะต้องเจอกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกัน การให้ช็อกโกแลตจึงเป็นของขวัญแทนความรัก เนื่องจากในสมัยนั้นช็อกโกแลตถือว่าเป็นสิ่งของที่หายาก ราคาแพง จำกัดเฉพาะแค่กลุ่มคนชั้นสูง และช็อกโกแลต ยังหมายถึง ความดึงดูดใจ ความรักที่ลึกซึ้ง หรูหรา เร่าร้อน ดึงดูดใจกันและกันอีกด้วย

ปัจจุบันการมอบช็อกโกแลตเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ กลายเป็นธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นไปแล้ว เริ่มจากบริษัทขนมญี่ปุ่น Mary Chocolate ได้ทำแคมเปญการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายวันวาเลนไทน์ เชิญชวนให้ฝ่ายหญิงซื้อช็อกโกแลตไปมอบให้ฝ่ายชายที่ตนรู้สึกดีด้วย โดยบอกว่านี่เป็นโอกาสเดียวในรอบปี ที่ผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นฝ่ายแสดงความในใจให้กับชายที่ตนรัก ซึ่งได้รับความนิยมมาก จนทำให้บริษัทต่างๆ ออกแคมเปญลักษณะเดียวกัน จนกลายมาเป็นธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมี "วันไวท์เดย์" (White Day) ตรงกับวันที่ 14 มีนาคม หรือช่วงเวลา 1 เดือนหลังจากวันวาเลนไทน์ (14 กุมภาพันธ์) เป็นวันที่ฝ่ายชายจะเป็นผู้มอบของขวัญเป็นการตอบแทนฝ่ายหญิง อาจจะเป็นช็อกโกแลตหรือของขวัญ ซึ่งมีธรรมเนียมอยู่ว่าของตอบแทนวันไวท์เดย์นี้ ควรจะต้องมีมูลค่ามากกว่าของที่ได้รับมาจากผู้หญิง 3 เท่า

ประโยชน์ของช็อกโกแลต

• สารฟีนอลในช็อกโกแลตมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยป้องกันการอุดตันของลิ่มเลือด
• ช่วยให้การทำงานของเยื่อบุผิวดีขึ้น
• มีคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรตไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็ก
• ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเนื่องในช็อกโกแลตมีสารคาเฟอีน
• กระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ช่วยให้อารมณ์ดี ไม่หงุดหงิด ลดความเครียดลงได้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส