ถนนคันคลองมหาราชท้าย "เขื่อนเจ้าพระยา" ขาดสะบั้น มวลน้ำทะลัก ท่วมใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กว่า 2,500 ครัวเรือน ต้องกางเต็นท์นอนบนถนน
14 ต.ค.65 มวลน้ำมหาศาลในแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังทะลักท่วมใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ทำให้ถนนคันคลองมหาราชที่เป็นแนวกั้นน้ำจากแม่น้ำกับพื้นที่การเกษตรและตัวเมืองชัยนาทในพื้นที่ ม.12 ต.ตลุก อ.สรรพยา ถูกกัดเซาะจนขาดเป็นระยะทางกว่า 30 เมตร ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าสู้คลองมหาราชอย่างรวดเร็วและมีแววว่าจะล้นข้ามคันคลองไปเข้าพื้นที่เกษตรที่จะลัดเลาะเข้าถึงตัวเมืองได้
เจ้าหน้าที่ต้องเอารถแบ็คโฮเข้าไปทำคันกั้นป้องกันความเสียหายไม่ให้ขยายวงกว้างเพิ่มเติม ขณะที่การจราจรที่ปกตอเส้นทางสายนี้เป็นส้นเชื่อมจากตัวเมืองชัยนาทไปยัง จ.ตลุก ต.สรรพยา อ.สรรพยา ต้องการเป็นอัมพาตโดนสิ้นเชิง ทางราชการประกาศให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง
โดยผู้ใช้รถที่ต้องการเดินทางไป ต.ตลุก ต.หาดอาษา ต.โพนางดำ ออกให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางสายเอเชียหรือเส้นทางสายชัยนาทสรรพยาแทน ซึ่งถนนในจุดที่ขาดนี้คาดว่าจะยังไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้การได้จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะสิ้นสุดลงเพราะน้ำมีกระแสเที่ยวแรง
ภาพรวมน้ำท่วมที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลางพบว่า น้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์เริ่มลดลง
ล่าสุดเวลา 15.00 น.วัดได้อัตรา 3,002 ลบ.ม./วิ โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาล่าสุดวัดได้+17.67เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง
โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ต.ค.2565 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ได้ลดอัตราการระบายน้ำลงไปผที่ 3,144 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที โดยเขื่อนเจ้าพระยาได้ปักธงแดงเพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์วิกฤตต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 การปรับอัตราการระบายน้ำในเกณฑ์นี้ก็เพื่อรักษาสมดุลของน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนรองรับปริมาณน้ำฝนและเพื่อชะลอน้ำเหนือไว้ในลำน้ำเหนือเขื่อนส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนระดับน้ำขึ้นน้ำเริ่มลดลงวัดได้ 17.34 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางแต่ก็ยังคงเอ่อล้นสูงกว่าตลิ่ง 101 ซม.
ทำให้มีประชาชนพื้นที่ท้ายเขื่อนใน อ.สรรพยา ต้องอพยพขึ้นมาสร้างเพิงพักและกางเต็นท์นอนริมถนนกันมากขึ้น รวมแล้วจนถึงปัจจุบันกว่า 2,500 ครัวเรือน ซึ่งอ.สรรพยามีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 6 ตำบลจากทั้งหมด 7 ตำบล
