องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ปลื้ม "งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565" มีเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศแห่เข้าชมงานล้นหลาม รวมทั้งผู้มีชื่อเสียงและคนดังในโลกโซเชียลจำนวนมาก แม้ว่าจะอยู่ในช่วงโควิด 19 ระบาด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนสนใจในวิทยาศาสตร์ ชวนครอบครัวพาลูกหลานเข้าหาความรู้ในงานมหกรรมวิทย์ฯ 2 วันสุดท้าย พร้อมย้ำนี่คือการสร้างสังคมวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม เพราะวิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญในชีวิตเราทุกคน
ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า การจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติในปีนี้ ได้รับความสนใจจากเยาวชนและครอบครัวเข้าร่วมหาความรู้ในงานเป็นจำนวนมากจากการจัดงาน 7 วันที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ โดยในปีนี้มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จัดแสดงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์หลากหลายมิติ ภายใต้แนวคิด "ศิลปะ วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เพื่อสังคมที่ยั่งยืน" (Art – Science – Innovation for Sustainable Society) ร่วมสร้างองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ไปกับ 5 นิทรรศการวิทยาศาสตร์ไฮไลต์ พร้อมจัดเต็มกิจกรรมสนุกสนานมากมาย ณ อาคาร 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ขณะนี้การจัดงานยังมีอีก 2 วัน จนถึงวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคมนี้ ผมจึงขอเชิญชวนครอบครัว และเยาวชนให้ใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ในการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ รวมทั้งเป็นการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว ทำให้เห็นพรสวรรค์และความสนใจของลูกกับงานมหกรรมวิทย์ฯ' 65 ปีนี้ ที่ อพวช. และหน่วยงานร่วมจัดทุกหน่วยงานตั้งใจจัดขึ้นเพื่อเยาวชนไทยทุกคน
ภายในงานพบกัน 5 นิทรรศการไฮไลต์ อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ (Royal Pavilion) นำเสนอและจัดแสดงพระอัจฉริยภาพของ "พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" รวมทั้ง "พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย" และ "พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย" ตลอดจนนิทรรศการจัดแสดงพระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีคุณูประการต่องานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการศึกษาของประเทศ
นิทรรศการแก้วเปลี่ยนโลก (Through the Looking Glass) บอกเล่าเรื่อง “แก้ว” ในทุกมิติทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน พร้อมจัดแสดงฟองน้ำแก้ว สิ่งมีชีวิตที่มี ซิลิก้าเป็นส่วนประกอบ แก้วอุลกมณี แก้วมูราโนโน่ สนุกกับกิจกรรมประดิษฐ์กล้องคาไลโดสโคป หรือกล้องสลับลาย เพลิดเพลินกับจินตนาการที่มองภาพสะท้อนกระจกภายในกล้อง ส่วน นิทรรศการลอดช่อง ส่องถ้ำ (Cave and Karst) เพราะทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศที่เชื่อมโยงและสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลก ชวนทุกคนเปิดบันทึกการสำรวจถ้ำครั้งแรกในสยามที่สุดตื่นเต้นเสมือนว่าได้เข้าไปสำรวจด้วยตนเอง พร้อมชมสัตว์ถ้ำที่น้อยคนจะได้เห็น
สำหรับ นิทรรศการวิทย์ คิด เพื่อ คุณ (Basic Science for All) ชวนทุกคนเรียนรู้และทำความเข้าใจพื้นฐานธรรมชาติของวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ที่ต่อยอดสู่นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ทำความรู้จัก “น้องโซ่ฟ้า และน้องเวตตี้” หุ่นยนต์ที่ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ดูแลผู้ป่วยโควิด ชม Smart Farming - Plant Factory จำลองการปลูกพืชยุคใหม่แบบระบบปิด ด้าน นิทรรศการนวัตกรรมวันรุ่ง (Tomorrow Land) สนุกสนานไปกับการสร้างโลกแห่งอนาคตในแบบฉบับของตัวเอง และความหวังของเหล่านักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ที่ต้องการให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงใจอนาคตเช่น ตู้กดอวัยวะเทียมซึ่งเป็นชุดโครงร่างภายนอก เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางกายภาพของผู้สูงอายุหรือผู้พิการ ดวงอาทิตย์เทียมสร้างพลังงานไฟฟ้าจากปฏิกิริยาฟิวชั่น บ้านอัจฉริยะสั่งการด้วย Alexa เป็นต้น
พร้อมด้วยกิจกรรมเสวนาด้านวิทยาศาสตร์มากมายที่เปิดโอกาสให้เยาวชนและผุ้สนใจเข้าร่วมงานได้เช่น เสวนา Talkative, Talk กะ ถ้ำ เผยแพร่องค์ความรู้จากงานวิจัยที่ย่อยง่าย สนุก และมีสาระ เพื่อค้นพบความมหัศจรรย์ของถ้ำและคาสต์, เสวนา Matata lab Tale-Bot Pro หุ่นยนต์จิ๋วแต่ความสามารถไม่จิ๋ว สำหรับผู้สนใจเรียนรู้การ Coding แบบ Unplugged ผ่านการเล่นและทำกิจกรรมแบบ Hands-on ที่จะช่วยปลุก ความคิดสร้างสรรค์ และจุดประกายความอยากรู้อยากเรียน, เสวนา ภูมิปัญญาวัยเก๋า "กระดาษจากฟางข้าว" ร่วมสนุกคิด สนุกทำ สืบสานภูมิปัญญา เรียนรู้ขั้นตอนการทำกระดาษจากฟางข้าว และกิจกรรมเสวนาต่างๆ อีกมากมาย
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2 วันสุดท้าย ณ อาคาร 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandnstfair.com หรือ Facebook: NSTFair Thailand (www.facebook.com/nstfairTH)
