"จากกรณีดราม่าหมอปลาบุกวัดหาหลวงปู่แสง" วันที่ 14 พ.ค. 65 การขอขมาและการแถลงข่าวหลังการขอขมาจะประกอบไปด้วย หมอปลา คุณน้ำฟ้า ภรรยา ทนายไพศาล เบลล์ ขอบสนาม และกัน จอมพลัง จากนั้นในเวลา 12.45 น. ทิดไพรวัลย์ได้นำทั้ง 5 บุคคล นำสวดบทสวดนอบน้อมพระพุทธเจ้า เป็นการขอขมาต่อหน้ารูปของหลวงปู่แสง
จากนั้นในเวลา 13.00 น. หมอปลา น้ำฟ้า ทนายไพศาล เบลล์ ขอบสนาม และกัน จอมพลัง ก็ได้ร่วมกันแถลงข่าวขอโทษและชี้แจงในประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น หมอปลาจะขอรับแรงกดดันเอาไว้ทั้งหมด หมอปลาจะเป็นผู้แถลงข่าวเอง ซึ่งคุณน้ำฟ้าก็จะพูดขอโทษต่อการกระทำของตัวเองเช่นกัน
หมอปลาบอกถึงสาเหตุที่เลือกที่จะขอขมาที่บ้านพัก เนื่องจากเกรงว่าจะมีการปะทะกับลูกศิษย์ของหลวงปู่แสง หากต้องเดินทางไปขอขมาที่ จ.ยโสธร แต่หากทางลูกศิษย์เปิดทางให้ ตนก็ยินดีที่จะเดินทางไปขอขมาอีกครั้ง ซึ่งการขอขมาในครั้งนี้ ตนต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถึงเจตนาในการกระทำที่เดินทางไปพบหลวงปู่แสงในวันนั้น
โดยเหตุการณ์หลวงปู่แสง ตนได้ปรึกษานักกฎหมายและทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่าอาจจะมีผลกระทบ และเกิดผลกระทบตามมาในการลงพื้นที่ในอนาคต "หมอปลาพร้อมรับการตรวจสอบ หมอปลาไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย หมอปลาเคารพกฎหมาย หมอปลาอยู่ภายใต้กฎหมาย" จากนั้นหมอปลา ได้ชี้แจงในแต่ละเด็น ดังนี้
1.ชี้แจงเหตุดราม่าที่เกิดขึ้น สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หมอปลาชี้แจงว่าวันที่ตนเดินทางไปยังกุฏิของหลวงปู่แสง ตนได้ติดต่อสำนักพุทธและนายอำเภอเจ้าของพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยอมรับว่าเป็นตนผู้นำและตัดสินใจวางแผนต่าง ๆ เองทั้งหมด ซึ่งแรกเริ่ม ตนได้รับเรื่องร้องเรียนมาว่าถูกลวนลาม ตนจึงได้ส่งทีมงานเข้าไปสำรวจพื้นที่ ซึ่งทีมงานได้มีการพูดคุยกับแม่ชี ซึ่งแม่ชีแจ้งว่าหลวงปู่อาจมีการสัมผัสตัว จากนั้นได้มีการส่งทีมงานเข้าไปครั้งที่ 2 แต่เนื่องจากทีมงานเกิดความกลัว เพราะภายในกุฏิมีพระภิกษุเยอะ ตนจึงวานนักข่าวสาวให้เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย แต่ปรากฏว่าหลวงปู่ได้เรียกนักข่าวสาวให้เข้าไปหา จึงเกิดเป็นคลิปที่ปรากฎขึ้น
ทีมงานที่เข้าไปตรวจสอบข้อมูลในกุฏิหลวงปู่ไม่ใช่ทีมทนายความ เป็นเพียงทีมงานเท่านั้น รอบแรกที่ส่งทีมงานผู้หญิงไปตรวจสอบ เพียงต้องการทราบข้อเท็จจริงเท่านั้น จากนั้นได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง ทีมงานหญิงมีความกังวลจึงได้มีการวานนักข่าวสาวเข้าอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งจะไม่ขอเปิดเผยไทม์ไลน์ ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับหลานสาวของหลวงปู่แสงแล้ว ตนไม่บังคับหรือขอร้องให้อีกฝ่ายให้อภัยหรือไม่ดำเนินคดี ตนมีแต่ความบริสุทธิ์ใจและพร้อมจะอธิบายและขอโทษ
ทั้งนี้เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ได้มีผู้ใหญ่ของสื่อบางสำนักได้ติดต่อมาหาตนเพื่อบอกให้ตนพูดแถลงว่า "มีการวางแผนกับสื่อทุกสำนัก หรือ หลายสำนัก" เนื่องจากสื่อสำนักดังกล่าวทัวร์ลงเยอะ พร้อมกระจายข้อมูลไปยังสื่อสำนักอื่นว่าต้องมีความผิดร่วมกัน ตนได้อธิบายผู้ใหญ่คนดังกล่าวไปว่านักข่าวสาวไม่เกี่ยวข้อง โดยการบังคับให้ตนพูดว่ามีการจัดฉากร่วมกับสื่อทุกสื่อนั้นไม่ถูกต้อง
2.บทลงโทษของสำนักข่าวต้นสังกัดของนักข่าวสาว และการช่วยเหลือรับผิดชอบผลกระทบต่อนักข่าวสาว ตนคิดว่าบทลงโทษนักข่าวสาวให้พ้นสภาพพนักงานนั้นรุนแรงเกินไป เพราะฉะนั้น นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ตนจะไม่ขอร่วมงานใด ๆ กับต้นสังกัดของนักข่าวสาวอีก เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งตนขอกราบขอโทษหลาย ๆ ท่าน และหลายรายการที่ตนรับปากว่าจะร่วมงานด้วยภายใต้ต้นสังกัดของนักข่าวสาว "ผมจะไม่ขอก้าวไปในช่องนี้ เพราะถ้าผมยังเสนอหน้าในช่องนี้แล้วแคทเห็น ก็เท่ากับว่าแคทเป็นเหยื่อหมอปลา ซึ่งผมเป็นคนวานแคทไป"
ตนได้พูดคุยกับนักข่าวสาวแล้ว ตนและทีมงานจะช่วยหางานใหม่ให้ ถ้าหางานไม่ได้และยินดีร่วมงานกับทีมงานของ กัน จอมพลัง ตนก็ยินดี โดยขณะนี้นักข่าวสาวเจ็บช้ำคล้ายถูกตบกลางสี่แยกแล้วถูกทิ้ง จึงขอพักทำใจสักระยะ ทั้งนี้ หมอปลาได้เปรียบเทียบนักข่าวสาวกับสุนัข โดยบอกว่า "แคทเหมือนหมาตัวหนึ่งที่คาบเหยื่อไปให้ แต่เมื่อเจ้าของได้เหยื่อ เจ้าของกลับฆ่าหมาตัวนั้นตาย"
3.ตั้งคำถามต่อลูกษ์ของหลวงปู่แสง และพวกโหนข่าวเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง นอกจากนี้ หมอปลายังได้ตั้งคำถามถึงลูกศิษย์ของหลวงปู่แสงจำนวนหนึ่ง เช่น ส.ส.บางคน ก่อนหน้าที่จะเป็นข่าวพวกคุณอยู่ไหน พอเป็นข่าวพวกคุณกลับออกมาแสดงความคิดเห็น ถ้าพวกคุณแสดงตัวออกมาก่อนหน้านี้ หลวงปู่แสงจะไม่เป็นเหยื่อของลูกศิษย์บางกลุ่มที่หวังจะหาผลประโยชน์จากหลวงปู่ ตนขอวอนนักการเมืองหลายท่านที่นำเหตุการณ์หลวงปู่แสงมาหาเสียง ขอให้นำเวลาไปดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตัวเองดีกว่า
หลังจากได้ลงพื้นที่ตนรับทราบแล้วว่าหลวงปู่แสงป่วยจริง ตนคิดตื้นเกินไป โดยหากการกระทำใดของตนและทีมงานที่ไม่เหมาะสม ตนขอน้อมรับและขอขมาด้วยใจ ซึ่งสื่อไม่ได้รับรู้เรื่องด้วย ตนอยากจะขอความเป็นธรรมให้สื่อเหล่านั้น โปรดอย่ากดดันสื่อเหล่านั้น
