วันที่ 8 พ.ค. 65 จากกรณีนางสาวเจนจิรา สุวรรณ อายุ 53 ปี ร้องเรียนมายังหมอปลา เล่าว่า แม่ชื่อนางน้อย แดนคำสาร อายุ 80 ปี ถูกหลานสะใภ้ชวนไปปฏิบัติธรรม ที่อาศรมแห่งในพื้นที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่ 1 ปีที่แล้ว อาศรมแห่งนี้จะมีเจ้าสำนัก ชื่อ นายโจเซฟ แต่จะให้คนในอาศรม เรียกแทนตนเองว่า "พระบิดา"
โดยอ้างว่า เจ้าตัวเป็นพระบิดาของทุกศาสนา มีความสามารถในการรักษาโรคภัย และเป็นผู้ที่สร้างโลก สั่งสอนให้ลูกศิษย์ที่อยู่ในอาศรมกว่า 30 ชีวิต ให้กินคราบเหงื่อไคล ขี้ไคล ปัสสาวะ อุจจาระ น้ำลาย เสมหะ และก้นบุหรี่ ของพระบิดา ซึ่งทุกคนในนั้นก็ยอมทำตามเพราะเชื่อว่าคือพระโอสถ สามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ รวมถึงโควิด-19 รวมถึงยังมีการเอาดินโคลน อุจจาระ และปัสสาวะของพระบิดาที่ได้ถ่ายทิ้งไว้ หากลูกศิษย์คนใดนำมาพอกตัว ก็สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เช่นกัน โดยไม่ต้องไปหาหมอ
ล่าสุด หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.คอนสาร และทีมงานได้เดินทางไปที่สำนักดังกล่าว เวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อปพร. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 50 คน นำกำลังบุกเข้าไปคุมตัวนายนที เจ้าสำนักทันที
สำหรับลูกศิษย์หญิงแก่ 2 คน ที่ได้โชว์ให้ดูว่าสิ่งปฏิกูลทั้งหลาย เช่น ฉี่ที่พระบิดาฉี่ไว้ เปรียบเสมือนยารักษาโรคได้ทุกโรค ก่อนจะโชว์ก้มกินฉี่ที่พระบิดาฉี่ไว้ในหลุม และบอกว่านี่คือพระโอสถชั้นดี บรรดาลูกศิษย์ที่แห่งนี้ ได้กินกันหมดแล้ว พร้อมกับบอกทีมข่าวว่าคนที่ได้กลิ่นเหม็นและอาเจียน คือคนที่จิตใจไม่บริสุทธิ์ ต่างจากพวกเขาที่ปฏิบัติธรรมดี และศรัทธาต่อพระบิดา จะไม่มีอาการดังกล่าว เนื่องจากไม่มีกลิ่นจากความบริสุทธิ์ในจิตใจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตะลึงลัทธิอุตริซุก 11 ศพอ้างส่งขึ้นสวรรค์ สยองต่อท่อรองน้ำเหลืองประทินผิว (คลิป)
ลัทธิประหลาด ศิษย์กินฉี่-ขี้ไคลโชว์สื่อ อ้างโอสถชั้นดี ตำรวจรวบเจ้าสำนักสอบหวิดปะทะคนศรัทธา (คลิป)
เจ้าลัทธิซกมกโต้ถุยเสลดเป็นยาสั่งศิษย์กินฉี่อึ สาวกฮือขวางเดือด "อย่าจับพ่อกู" (คลิป)
นางลำไย หญิงที่ก้มไปกินฉี่ในหลุมอย่างชื่นใจ เปิดใจว่า ตนเองกินฉี่ของพระบิดามากว่า 10 ปีแล้ว กินทุกครั้งรู้สึกป่วยไข้ ทุกครั้งตนเองก็จะอาการดีขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ และส่วนตัวแล้วจะเลือกกินแต่ฉี่และขี้ไคลของพระบิดาเท่านั้น จะไม่กินอึ ซึ่งพระบิดาไม่เคยบังคับ โดยตลอด 10 ปีที่ตนเองกินมาก็รู้สึกได้ว่าตนเองนั้นค่อนข้างจะแก่ช้า ผิวพรรณผ่องใส ส่วนใครจะมองว่าตนเองกินฉี่เป็นพวกบ้า และมองว่าสกปรก มีเชื้อโรค
ตนเองขอถามกลับว่าตนเองกินมาตั้งนานแล้วยังไม่เป็นอะไรเลย คนที่ไม่กินฉี่นั่นแหละที่เป็นแต่โรคร้าย และติดโควิดกันทั่วโลก ตนเองและลูกศิษย์ ตั้งแต่เกิดโรคโควิด-19 พระบิดาไม่เคยบอกให้ใส่หน้ากากอนามัยในสำนักเลยสักครั้ง และที่ผ่านมา โควิดก็ทำอะไรตนเองไม่ได้ ซึ่งตนเองเชื่อว่าคือพระบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ของพระบิดาที่ปัดเป่าโรคภัยออกไปจากสำนัก
นางย้อย อายุ 60 ปี หญิงที่กินฉี่ บอกว่า ตนมาอยู่ที่สำนักได้กว่า 10 ปีแล้ว ตนเองเป็นชาว จ.บุรีรัมย์ อยากจะมาปฏิบัติธรรมอยู่อย่างสงบในช่วงบั้นปลายของชีวิต สามีของตนตายได้ 6 ปีแล้ว เมื่อมาถึงตนเองรู้สึกเชื่อและศรัทธาพระบิดามาก เพราะตนเองป่วยเป็นโรคหัวใจ และความดัน แต่เมื่อได้กินฉี่ของพระบิดาก็รู้สึกอาการป่วยโรคหัวใจ ความดัน ตนเองดีขึ้น จากนั้นจึงกินฉี่พระบิดามาโดยตลอด และมองว่าฉี่พระบิดานั้นไม่มีเชื้อโรค หรือสกปรก
ตนเองเริ่มกินฉี่พระบิดามาได้ประมาณ 9 เดือนแล้ว ทุกวันพระบิดาจะถ่ายลงหลุมแล้ว ฉี่ของพระบิดาหากเป็นของแท้จะไม่ซึมลงดิน หากเป็นฉี่คนอื่นหรือน้ำจะซึมลงดินหมด ตนเองเรียกฉี่ในหลุมนั้นว่า "องค์ปัสสาวะ"
ส่วนวิธีการกินจะใช้ช้อนตักกินหรือก้มดูดกินจากหลุมก็ได้ แล้วแต่ใครจะถนัด ในหนึ่งวันตนเองจะกินฉี่พระบิดา 1 รอบ ในช่วงเช้า แต่หากวันไหนรู้สึกดี ก็จะกิน 2 ครั้ง นอกจากนี้หากใครติดโควิด-19 พระบิดาก็สามารถรักษาให้ได้ด้วยการเป่าหัว ส่วนบรรดาลูกศิษย์หากอยู่ภายในสำนัก ไม่จำเป็นต้องใส่แมสก์ เนื่องจากพระบิดาปฏิบัติมาเยอะได้ปัดเป่าโรคโควิด-19 ออกไปจากสำนักจนหมดสิ้นแล้ว
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เผยว่า เบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อหลังพบว่า คนในสำนักไม่มีการสวมใส่หน้ากากอนามัย พร้อมพิจารณาข้อกฎหมายอื่น ๆ เพื่อทำการอายัดศพทั้ง 11 ศพ ไปชันสูตรศพ หาสาเหตุที่เสียชีวิตที่ถูกต้อง และพิจารณาในข้อกฎหมายบุกรุกเพื่อที่สาธารณะประโยชน์ด้วยหรือไม่ หากผิดจริงจะมีการรื้อถอนออกทั้งหมด
นอกจากนี้ ขอขอบคุณทีมหมอปลาที่เข้ามาตรวจสอบ ส่วนตัวแล้วไม่เคยทราบมาก่อนว่าในพื้นที่แห่งนี้ มีสำนักปฏิบัติธรรมประหลาดแบบนี้ โดยหลังจากนี้จะจัดการขั้นเด็ดขาดกับสำนักประหลาด
ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับเจ้าสำนัก ล่าสุดตำรวจแจ้งข้อหาเบื้องต้น ฐาน ความผิด เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมโรค และข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า ส่วนข้อหาอื่น ๆ จะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน และจะแจ้งข้อหาเพิ่มในความผิดอื่น ๆ ต่อไป ส่วนคืนนี้นายนที เจ้าสำนัก ต้องนอนคุก ท่ามกลางลูกศิษย์บางส่วนที่คอยเดินทางมาให้กำลังใจหน้าโรงพัก
ด้านรองศาสตราจารย์ นายแพทย์วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ หมอหมู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เปิดเผยว่า การที่ชาวบ้านหลงเชื่อไปกินอุจจาระ ปัสสาวะ เสมหะและขี้ไคลของพระบิดา ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นของเสียที่ขับออกมาจากร่างกาย ในอุจจาระและปัสสาวะมีเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งเชื้อแบคทีเรีย พยาธิ และปรสิต สารเคมีชนิดต่าง ๆ
ส่วนในเสมหะอาจเป็นพาหะตัวอ่อนของพยาธิลำไส้ และโรคทางเดินหายใจหลายชนิด อย่างเช่น วัณโรค อย่างไรก็ตาม การกินสิ่งเหล่านี้มีผลเสียมากกว่าผลดีอย่างแน่นอน และมีความเสี่ยงที่จะรับเชื้อต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย และอาจจะถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือด จนส่งผลต่อชีวิตได้
