จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความไว้ว่า "ขอโทษ นะซูม ครีม ทำทุกอย่างพังอีกแล้ว วันเวลาของความสุข ไม่มีอีกแล้วครีม ยิ่งดิ้นที่จะเป็นเมียที่ดี ครีมก็ยิ่งพลาด จนพลาดครั้งใหญ่สุดในชีวิต ทุกเรื่องที่เกียวกับครีม ชุม และ ครอบครัวเราไม่เคยรับรู้ อยากอยู่ จนถึงวันที่ รถบัส เรียกแม่ได้ ครีม ก็ ไม่สามารถ ทำมันให้เป็นจริงได้ พยามแก้ไข้ ก็ เหมือนเดิม วน ทำผิดซ้ำๆ เรารักเทอมาก เรามีความสุขที่ได้ ช่วยเทอจ่ายโน้นนี้นั้นทั้งๆที่เทอก้อเลี้ยงเราได้ตลอด เราดิ้นทำไม ไม่รู้ เราทำอีกหลายๆคนผิดหวังจน เรา รับตัวเองไม่ได้ แล้ว เราอยากสู้ต่อ แต่มันหมดเวลาของความสุขแล้ว" และหญิงสาวรายนี้ก็หายตัวไปพร้อมรถฟอจูนเนอร์สีขาว ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 19 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา จนครอบครัวโพสต์ประกาศตามหา หญิงสาวคนดังกล่าว และพบว่ารมควันเสียชีวิตภายในรถยนต์ อยู่ภายในวัด
วันที่ 20 เม.ย. 65 ทีมข่าวเดินทางมายังงานศพของนางสาววิจิตรา ที่วัดแสงสิริธรรม ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ญาติ ๆ โดยเฉพาะนายภาณุพงศ์ เรืองมาลัย ผู้เป็นสามี พาศพภรรยากลับมาทำพิธีรดน้ำศพ และสวดอภิธรรม โดยร้องไห้ตลอดเวลาที่ญาติๆ เข้ามาร่วมไว้อาลัย และยังได้พาลูกชายวัย 4 ขวบ มารดน้ำศพแม่ด้วย
นายภานุพงศ์ เผยว่า ปกติตนดูแลภรรยา ไม่ได้ให้เขาทำงานอะไรเลย เมื่อวานก็สังเกตเห็นภรรยามีใบหน้าเศร้าหมอง ตนถามก็ไม่บอกกล่าวอะไร แต่ไม่กล้าจี้ถาม เพราะกลัวว่าจะทะเลาะกัน พอช่วงบ่ายแฟนได้ขับรถยนต์ออกไปข้างนอก ส่วนตนก็ทำงาน
ช่วงบ่ายภรรยาส่งข้อความมาในแชตมาว่า "ขอร้อง ให้เราจากไป เราเป็นเมีย เป็นลูก เป็นเมียที่ดีไม่ได้ และยังระบุว่า เรามีหนี้เกิน 30 ล้านจากบ้านออมเงิน และแชร์" ตนก็ได้ส่งข้อความกลับไปบอกภรรยาว่า "อย่าตายนะ อย่าทิ้งเรากับลูกไปเลย เราพร้อมช่วยทุกอย่าง"
สาเหตุที่ภรรยาตัดสินใจจบชีวิต น่าจะเป็นเพราะความเครียดเรื่องแชร์ อย่างที่เขาแจ้งทุกคนผ่านทางเฟซบุ๊ก แต่ยืนยันว่าตนเองนั้นไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย และภรรยาเองก็รู้ว่าตนไม่ชอบให้เกี่ยวข้องกันเรื่องนี้ ภรรยาจึงไม่กล้าบอก พอมีปัญหาก็ไม่กล้าปรึกษา แล้วตัดสินใจไปเอง เรื่องนี้ยืนยันว่าไม่ติดใจ เชื่อว่าภรรยาฆ่าตัวตายจริง ๆ ตามหลักฐานผ่านแชต และลักษณะท่าทางของภรรยา และเพื่อน ๆ ที่วงแชร์ยอมรับกับตนเอง สำหรับภรรยาอายุแค่ 29 ปี ไม่น่าคิดสั้นแบบนี้ และมีลูกชายด้วยกัน 2 คน อายุ 4 ขวบและ 3 ขวบ ตนต้องบอกกับลูกว่าแม่ไปสวรรค์แล้ว แต่ลูกก็ยังไม่เข้าใจ
ลูกแชร์ของผู้ตายคือนายต้น (นามสมมติ) บอกว่า ก่อนที่ผู้ตายจะฆ่าตัวตาย ได้ส่งข้อความบอกขอโทษ ลาคนในกลุ่มแชร์ที่เล่นกัน ทำให้ลูกแชร์ต่างตกใจ และปลอบใจผู้ตาย ห้ามปรามไม่ให้มีการฆ่าตัวตาย โดยลูกแชร์ทุกคนเข้าใจในสถานการณ์ และมั่นใจในตัวเท้าแชร์คนนี้ ทราบดีว่าผู้ตายไม่ได้โกง แต่มีลูกแชร์คนอื่น ๆ ที่โกง เปียร์ปก่อนแล้วไม่ยอมจ่ายคืน แต่ก็ไม่ทัน เพราะเท้าแชร์ตัดสินใจเร็วมาก คิดจบชีวิตตนเอง พอทุกคนพยายามติดต่อก็ติดต่อไม่ได้แล้ว ส่วนตนก็รีบเดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี เพื่อช่วยตามหาเท้าแชร์
พอตนเห็นเท้าแชร์โพสข้อความตัดพ้อ ตนเองคิดว่าไม่อยากได้เงินคืนเลย อยากให้เท้าแชร์มีชีวิตอยู่มากกว่า อย่างตนเองลงไป 50,000 บาท ยังไม่เปียออกมา เก็บไว้กินดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ ซึ่งได้ดอกมาเกือบ 20,000 บาทแล้ว แต่ต้นก็ยังอยู่ในกอง เท่ากับว่าตอนนี้ตนขาดทุนไป 30,000 บาท ก็ไม่คิดอยากได้เงินคืน เพราะต้องสูญเสียเท้าแชร์ไป แต่ส่วนตัวไม่รู้จริง ๆ ว่าใครเป็นคนที่โกงแชร์ โดยพอจะทราบมาว่ามีประมาณ 2 เจ้าที่ได้เงินไปหลักล้าน แล้วไม่ส่งแชร์ ทำให้เท้าแชร์ไม่มีเงินหมุน จนคิดสั้น แต่ยืนยันว่าเงินไม่น่าจะถึง 30 ล้านบาท เท่าที่ทราบ 10 ล้านบาทได้
