จากกรณีเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 มี.ค. 65 สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีเหตุนายเลิศลาภิศ แย้มชุมพร อายุ 60 ปี อาชีพขับวินฯ อดีตสามียิงอดีตภรรยา และเพื่อนเสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางสาวสุชาดา ตรีโอษฐ์ หรือ สุ อายุ 54 ปี และนายจณุกิตติ์ พงศ์ญพัฒน์ อายุ 49 ปี เหตุเกิดบริเวณข้างบ้านใน ม.1 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ล่าสุด ร.ต.ท.พิสิษฐ์ จองจารูวงศ์ ร้อยเวร สอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ขอศาลออกหมายจับนายเลิศลาภิศ แย้มชุมพร อายุ 60 ปี
ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เเละพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถจับตัวคนก่อเหตุได้
จากการสอบถาม นางเชาร์ วงษ์มณี พยานในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวานนี้คนก่อเหตุมาที่บ้านของตนก่อน จากนั้นได้ขอให้น้องสาวของตน คือนางประชวน โทรหานางสาวสุชาดา เพื่อช่วยเคลียร์ ง้อขอคืนดี เเต่ฝ่ายหญิงกลับปฏิเสธ เพราะเข็ดไม่อยากกลับไปคืนดีอีกแล้ว ฝ่ายคนก่อเหตุได้ยินแบบนั้นจึงกลับออกไป ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าคนก่อเหตุเคยทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงหรือไม่
จนเวลา 20.00 น. นางสาวสุชาดา คนตาย นั่งเเท็กซี่มาที่บ้านตนมาคุยกับน้องสาว หลังจากนั้นไม่นานนายเลิศ คนก่อเหตุ ก็ตามมาจะง้อ มานั่งกินข้าวด้วยกัน ฝ่ายหญิงจึงได้โทรตามนายจณุกิตต์ คนตาย ให้มาด้วย จากนั้นทั้ง 3 คนก็นั่งอยู่ด้วยกัน ก็มีการคุยกันธรรมดา แต่นายเลิศกับนางสาวสุชาดาไม่ค่อยคุยกันมากนัก ส่วนตนเองก็นั่งอนู่บนเก้าอี้ ส่วนน้องสาวก็เดินไปเดินมา
จากนั้นเวลา 02.00 น. ของวันที่ 9 มี.ค.65 ตนจึงบอกให้ทุกคนเเยกย้ายเพราะดึกเเล้ว พรุ่งนี้ต้องทำงาน จากนั้นนายจณุกิตต์ เดินไปเข้าห้องน้ำ ในช่วงนี้เองที่คนก่อเหตุเดินมาด้านหลังตน ทำทีดื่มน้ำ ก่อนจะใช้ปืนยิงไปที่นางสาวสุชาดา หลังจากนั้นนายจณุกิตต์ออกมาเห็นได้เข้าไปแย่งปืน ส่วนตนเองได้หนีเข้าไปหลบในห้องน้ำ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก จากนั้นก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ขับออกไป
ตนเเอบดูว่าคนก่อเหตุออกไปแล้ว ตนจึงได้ออกมาดู พบว่าทั้ง 2 คนที่ถูกยิงยังคงนอนหายใจรวยริน นอนจมกองเลือด อยู่คนละทาง โดยฝ่ายหญิงยังคงนั่งที่เดิม คือนั่งหลังพิงเสาสีเหลือง ส่วนฝ่ายชายไปนอนอยู่ที่พื้นปูน จากนั้นเพื่อนบ้านก็เข้ามาช่วย ตนรู้จักกับกลุ่มคนทั้ง 3 เพราะอยู่ในชุมชนเดียวกัน เเละรู้จักสนิทสนมกันมานาน ตนถือเป็นพี่ที่น้อง ๆ เคารพ ทุกคนนิสัยดี ไม่มีเรื่องยาเสพติด เหล้าก็ไม่ดื่ม ซึ่งตอนที่ทั้ง 3 คนมานั่งที่บ้านของตนเมื่อวานนี้ ทุกอย่างก็ปกติ มีการพูดคุยกันธรรมดา เเต่ฝ่ายหญิงจะไม่ค่อยคุยกับคนก่อเหตุมากนัก จะเป็นฝ่ายชาย ผู้ตายที่คุยกับคนก่อเหตุ เเต่เรื่องที่คุยก็เป็นเรื่องทั่วไป
เท่าที่ทราบฝ่ายหญิงเเละคนก่อเหตุเคยคบกันมาประมาณ 1-2 ปี เเต่ก็จะรัก ๆ เลิก ๆ เเต่ตนเองก็ไม่มั่นใจเช่นกัน ว่าสุดท้ายเเล้วทั้งคู่เลิกรากันตอนไหน หลังจากนั้นทราบอีกครั้งคือ ฝ่ายหญิงไปสนิทสนมกับนายจณุกิตต์ เเละน่าจะมีการคบหากันมาประมาณ 5 เดือนได้ ซึ่งตนเองเห็นว่าทั้งคู่มาที่บ้านตนได้ประมาณ 7 ครั้งเเล้ว ตอนเเรกตนก็ไม่รู้มาก่อน เเต่มาจับสังเกตได้ภายหลังคาดว่าคนก่อเหตุก็น่าจะรู้ช่วงหลัง ๆ เช่นกัน ตนคาดว่ สาเหตุในครั่งนี้ น่าจะมาจากความหึงหวงเเละความเเค้นที่ง้อไม่สำเร็จ บวกกับถ้าตัวเองไม่ได้คนอื่นก็ได้ต้องไม่ได้ครอบครอง ทำให้นายเลิศลงมือก่อเหตุ ประกอบกับนายเลิศซื้อสร้อยเเหวนเงินทองให้กับนางสาวสุชาดา จำนวนมาก หมดไปเยอะ เพราะรักมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ยังเก็บเงิน 30,000 บาท เพื่อไปซื้อสร้อยข้อมือให้ฝ่ายหญิง เเต่ฝ่ายหญิงไม่อยากรับ เพราะเวลาทะเลาะหรือเลิกกัน ฝ่ายคนก่อเหตุมักจะทวงคืนเสมอ
