แฉยับหนุ่มตบสาวคาร้านอาหาร ฉุนบล็อกเฟซหลังเลิก เปิดภาพตามราวีถึงบ้าน (คลิป)

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part3" โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมบรรยายข้อความระบุว่า "การใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เลิกกันแล้วก็จบไปดิ ตามรังควานทำไม มากับแฟนใหม่ทำร้ายแฟนเก่าแบบนี้ได้เหรอ ไม่แมนเลย นี่คือคนที่มาทำร้ายเรา ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง อ.เมือง ต.ในเมือง จ.สุรินทร์"

ล่าสุดวันที่ 23 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียหาย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้พบกับน.ส.พันธ์วิรา อายุ 28 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุคือนายวรัณญู หรือ อิง อายุ 22 ปี อดีตแฟนเก่า ที่เคยรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนจะคบหากันช่วงปี 2563 แต่คบกันได้เพียงแค่ 8 เดือนก็เลิกกัน เนื่องจากตนทนพฤติกรรมของฝ่ายชายไม่ไหว เพราะหากเวลาเขาเกิดความไม่พอใจหรือเมาสุรา แม้จะไม่ทำร้ายร่างกายตน แต่จะทำลายข้าวของจนได้รับความเสียหายแทน ทำให้ตนตัดสินใจเลิกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันก็เกือบ 2 ปีแล้ว 

ทั้งนี้ หลังจากเลิกกันได้เพียง 19 วัน นายวรัณญูก็ไปมีผู้หญิงคนใหม่และจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย ส่วนตนก็เริ่มศึกษาดูใจกับผู้ชายคนใหม่ อายุ 34 ปี และเริ่มคบหากันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เลิกกัน นายวรัณญูก็มักจะทักติดต่อมาหาตนเพื่อตามง้อขอคืนดี หรือหากเขาเกิดความไม่สบายใจ ก็มักจะทักแชตมาปรึกษาตนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจ เพราะคิดว่าเลิกรากันไปแล้ว และเวลาที่เข้ามาพูดคุยกับตน ก็มักจะพูดทำนองว่า "อยู่กับผู้หญิงคนใหม่ไม่มีความสุข เหมือนตกนรก" ตนในฐานะแฟนเก่าก็เลยให้คำปรึกษา

กระทั่งช่วงเดือน ธ.ค.64 ตนได้ไปฉลองวันเกิดกับกลุ่มเพื่อน ๆ แต่นายวรัณญู ติดต่อมาหาตนให้เหตุผลว่าจะมาหาที่งานวันเกิด แต่หลังจากนั้นไม่นาน แฟนใหม่ของนายวรัณญู ก็จับได้ ก่อนวิดีโอคอลมาหาตนพร้อมกับบอกว่า หากนายวรัณญู ยังติดต่อกับตนแบบนี้ "จะเฉือนให้ดู" ก่อนจะวางสายกันไป ทำให้ตนยุติการติดต่อกับนายวรัณญู และบล็อกช่องทางการติดต่อตั้งแต่นั้น เนื่องจากไม่อยากมีปัญหาเรื่องชู้สาว

แต่นายวรัณญู ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม พยายามจะมาตามง้อขอคืนดี ในวันที่ 18 ก.พ.65 เขาขับรถยนต์มาหาตนถึงหน้าบ้าน แต่ตนไม่เปิดประตูให้ เนื่องจากไม่อยากยุ่งเกี่ยว กระทั่งวานนี้ (22 ก.พ.65) เวลา 19.00 น. ตนกับแฟนใหม่ก็ได้ไปร้านปลาเผา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ สักพักนายวรัณญู และแฟนสาว ก็เดินตามเข้ามาในร้าน ในจังหวะนั้นตนยอมรับว่าเห็นแต่ตนไม่ได้ทักทาย เพราะไม่อยากให้แฟนใหม่ของตนไม่สบายใจ หลังจากนั้นไม่นานนายวรัณญู ก็ได้เดินมาหาตนที่โต๊ะ ก่อนจะถามตนว่า "บล็อกช่องทางการติดต่อทำไม" ซึ่งตนก็ได้ตอบกลับไปว่า "มีอะไร ต้องคุยกันอีกเหรอ" ซึ่งนายวรัณญู ก็ไม่หยุด และตอบว่า "กูทำอะไร" ก่อนที่เขาจะกำหมัดต่อยเข้ามาที่ช่วงปากและลำคอของตนตามคลิปวงจรปิด

นอกจากนี้ แฟนหนุ่มของตนพยายามเข้าไปช่วยห้าม ไม่ให้ผู้ก่อเหตุทำร้ายต้นซ้ำ ๆ เหตุการณ์จึงชุลมุน ตนพยายามโทรศัพท์แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ แต่ตำรวจมาช้า ทำให้ผู้ก่อเหตุขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ ส่วนตนก็นั่งรอทางเจ้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำ และตนขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีเอาผิดถึงที่สุด ในฐานความผิดทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ หากเป็นไปได้ตนอยากให้เขาหยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น สุดท้ายนี้ตนในฐานะผู้เสียหาย ก็อยากฝากไปถึงคนในสังคมโซเชียลฯ ที่คอมเมนต์ หลังจากเห็นตนโพสต์คลิปดังกล่าวให้หยุดโจมตีแฟนใหม่ของตน กรณีที่บอกว่าแฟนใหม่ตนไม่ยอมช่วย ตนขอชี้แจ้งว่าแฟนใหม่พยายามช่วยเหลือเต็มที่แล้ว แต่เขาเป็นคนช้า ๆ และไม่ทันโลก จึงช่วยตนได้เต็มที่เท่านั้น

ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นร้านขายทุเรียน แต่ประตูบ้านปิดล็อก ไม่มีคนอยู่ ทีมข่าวโทรศัพท์ไปตามเบอร์โทรศัพท์ที่แปะไว้บริเวณหน้าร้าน ก็ไม่มีใครรับสาย

หลังจากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปยังร้านปลาเผา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เปิดให้บริการตามปกติ น.ส.วิลาวัลย์ สิทธิโคตร อายุ 26 ปี พนักงานร้านจุดเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ขณะนั้นตนก็ให้บริการลูกค้าโต๊ะอื่น ๆ ตามปกติ ผู้เสียหายและแฟนหนุ่มเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะเพื่อสั่งอาหาร แต่จากนั้นไม่นานผู้ก่อเหตุและแฟนสาวก็เดินตามเข้ามา และสั่งอาหารเหมือนกัน

เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ผู้ก่อเหตุก็ได้เดินลุกไปหาผู้เสียหาย เหมือนทั้งคู่จะมีปากเสียงกัน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ลงมือชกต่อยผู้เสียหายตามที่ปรากฏตามคลิปวงจรปิด แฟนหนุ่มของผู้เสียหายก็พยายามช่วยห้าม ต่างฝ่ายก็ต่างแยกย้ายกัน แต่เจ้าที่ตำรวจมาช้า ผู้ก่อเหตุจึงขับรถออกจากร้านไป อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และไม่แมน เพราะผู้ชายไม่สมควรทำร้ายผู้หญิง อีกทั้งหากมีปัญหาควรพูดคุยกันดี ๆ ไม่ใช่เข้ามาทำร้ายร่างกายกันในร้านอาหารเป็นที่สาธารณะ โชคดีในครั้งนี้ที่ทรัพย์สินภายในร้านไม่ได้รับความเสียหาย หรือมีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ