ถูกเอาคืนอย่างไว! หนุ่มยิงถล่มบ้านอริเจอห่ากระสุนบ้านพรุน ญาติเผ่นหวั่นตายโหง (คลิป)

เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 65 ที่ตำบลอ่าวลึกเหนือ จังหวัดกระบี่ มีนายปวริศสร เกิดแก้ว ถูกนายวงศกร หรือ นายพงศกร หรือ บิว ปากลาว ยิงได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทั้งคู่ต่างได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกะบี่ หลังเกิดเหตุนายปวริศสร บุกบ้านนายวงศกร ทุบกระจกบ้านแตกเสียหายหลายครั้ง จนสุดทนจึงบุกเอาอาวุธปืนไปเคลียร์ใจ

เมื่อคืนที่ผ่านมา 14 ม.ค. เวลา 23.13 น. บ้านของนายวงศกร หรือ บิว มือยิง ถูกกลุ่มคนปริศนาขับมอเตอร์ไซค์บุกยิงถล่มบ้านเป็นรูเสียหาย ผนังบ้าน 3 จุด หน้าต่างกระจก ผ้าม่าน ทะลุไปโดนตู้เสื้อผ้าเป็นรู 1 จุดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บหลักฐาน คาดว่าเป็นปืนลูกโม่ชนิด .38 หรือ .357 โดยเหตุถูกยิงคาดการณ์ว่าเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง โดยฝั่งคนเจ็บไม่พอใจจึงพากันมายิงแก้แค้น หรืออาจมีบุคคลที่ 3 ที่ตั้งใจมาชำระแค้น ส่วนประเด็นอื่นอยู่ระหว่างเร่งสอบ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันที่ 15 ม.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านไปยังจุดเกิดเหตุ นายวิญญา ปากลาว อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกยิง พ่อของนายพงศกร พาทีมข่าวไปดูบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว

โดยปกติจะมีนายวิญญา อาศัยอยู่กับนายพงศกรลูกชาย แต่หลังจากที่เกิดเหตุที่ศกรลูกชายบุกเอาอาวุธปืนไปเคลียร์ใจกับนายปวริศสร ก็มีลักษณะคล้ายแย่งปืนกัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ นายพงศกรถูกยิงทะลุแขนซ้าย พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกะบี่ ส่วนฝั่งของนายปวริศสร คู่กรณี ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

นายวิญญา เจ้าของบ้าน เปิดใจว่า คืนวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตนเองเดินทางไปที่บ้านญาติ เปิดไฟทิ้งเอาไว้ในบ้าน จึงคาดการณ์ว่าคนก่อเหตุเข้าใจว่าตนเองยังคงอาศัยอยู่ในบ้าน บุกเข้ามายิง และจุดสังเกตที่มีการยิงคือจุดที่ตัวเองนั่งดูโทรทัศน์เป็นประจำ ซึ่งหากเมื่อคืนตนเองนั่งอยู่ในบ้าน ไม่ได้ไปบ้านญาติเคราะห์ร้ายก็จะเกิดขึ้นกับตนเอง การยิงคือเจตนายิงตรงจุดที่ตัวเองนั่งอยู่ประจำ

ส่วนสาเหตุนั้นตนเองยังพุ่งเป้าไปที่ประเด็นเดิมที่ลูกชายไปก่อเหตุยิงนายปวริศสร เพราะเพิ่งเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น คาดการณ์ว่ากลุ่มญาติฝั่งคนเจ็บไม่พอใจที่ลูกชายของตนเองถืออาวุธปืนไปยิงคนของเขา ทั้งนี้ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ 100% ปล่อยให้เป็นไปตามหน้าที่ของตำรวจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ตนเองก็ยอมรับผิดว่าลูกชายพกอาวุธปืนเพื่อเข้าไป

ทั้งนี้ ต่างฝ่ายต่างเป็นคนในหมู่บ้านด้วยกัน อยากให้จบและจับมือกันด้วยดี ไม่ใช่เป็นการยิงกันไปมาแบบนี้ แต่ถ้าหากไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ตนเองก็ยังนึกไม่ถึงว่าจะมีใครที่เป็นบุคคลที่ 3 เข้ามาก่อเหตุ เพราะโดยปกติตนเองก็ไม่เคยทะเลาะมีปากเสียงหรือมีเรื่องกับใครก่อนเกิดเรื่อง ตนเองทำหน้าที่ปลูกปาล์มขาย และมีเวลาว่างก็ไปช่วยเป็นอาสาชุมชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าการปฎิบัติหน้าที่แต่ละครั้งจะมีการจับกุมหรือสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้กลุ่มที่เคยถูกจับกุมไม่พอใจหรือไม่

ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ พบมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ขับผ่านช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ 23.10 น. ขับมาเพียงคนเดียว มีไฟส่องกบที่หัว ระบุรูปพรรณไม่แน่ชัด เพราะเป็นกล้องมุมไกล ตำรวจกำลังติดตามรถคันดังกล่าวเชื่อมโยง และเรียกมาสอบปากคำ เนื่อกจากเป็นรถเพียงคันเดียวที่วิ่งในช่วงเวลานั้น ประกอบกับมีพยานเห็นและได้ยินเสียงรถก่อน-หลังเสียงปืนยิง 4 นัด

โดยเบื้องต้นชุดสืบสวน สภ.อ่าวลึก จ.กะบี่ ขยายวงกว้างแกะกล้องวงจรปิดตัวอื่นเพิ่มเติม เพื่อหาเส้นทางการหลบหนีของรถมอเตอร์ไซค์ต์ต้องสงสัย แต่จากการประเมินของชุดสืบสวน เชื่อว่าชนวนเหตุที่มีการยิงครั้งนี้ เป็นบุคคลที่ 3 ที่อาจมีการสร้างสถานการณ์ อาศัยช่วงนี้เข้ามาก่อเหตุซ้ำ เพราะพ่อนายพงศกรทำหน้าที่เป็นชุดรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน อาจจะมีคดีหรือเรื่องเก่าที่ทำให้ผู้ที่เคยถูกจับกุมไม่พอใจ ส่วนกรณีที่พ่อนายพงศกรสงสัยและตั้งประเด็นว่าอาจจะเป็นปมความขัดแย้งที่ลูกชายไปยิงบ้านของฝั่งนายปวริศสร ตำรวจเชื่อว่าประเด็นนี้ค่อนข้างที่จะเบา เพราะอยู่ระหว่างขั้นตอนของกฎหมาย ประกอบกับครอบครัวของคนเจ็บก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ อีกทั้งสามารถที่จะเคลียร์ใจกันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างผิด