สุดพีก! ชาวบ้านบุกทวงเงินคุณนายดาวอ้างซี้ประวิตร เจ้าตัวโบ้ยเหยื่อแจ้งจับผิดตัว (คลิป)

จากกรณี จ.นครศรีธรรมราช แชร์ว่อนคลิปสาวเมืองคอนบุกแฉประวัติ “คุณนายกำมะลอ” เมีย ส.ส.เมืองคอน กลางงานแถลงข่าวมโนราห์ ที่ จ.พัทลุง หลังถูกหลอกทำธุรกิจและธุรกรรมทางการเงินเอาทรัพย์สินไปจนหมดตัวนับล้านบาทนั้น

หลังจากกิจกรรมงานแถลงข่าว “ย้อนรอยประวัติศาสตร์ เวียงกลางบางแก้ว” จุดกำเนิดมโนราห์ ที่วัดพระบรมธาตุเจดีย์ เขียนบางแก้ว อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา เพื่อต้องการที่จะสืบสานวัฒนธรรม “โนรา” ให้เป็นที่รู้จักและโด่งดังไกลไปทั่วโลก หลังจากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก ประกาศรับรองให้ “โนรา” ศิลปะพื้นบ้านของภาคใต้ เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

การแถลงข่าวในวันนี้ ผู้จัดงานได้เชิญบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงในวงการ อย่าง มโนราห์ อ้อมจิตร มโนราห์อาวุโส รวมถึงศิลปินนักร้องชื่อดังของภาคใต้ เอกชัย ศรีวิชัย มาร่วมนั่งโต๊ะแถลงข่าว แต่ต่อมาภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ได้มีคลิปสาวรายหนึ่งที่ร่วมอยู่ในงานแถลงข่าว ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกสังคมออนไลน์ ภาพที่ปรากฏนั้นเป็นภาพของหญิงสาวที่สวมเสื้อยืดสีขาวมาพร้อมกับเพื่อนสาวอีกคนที่เป็นผู้ถ่ายคลิปและนำออกมาเผยแพร่

โดยหญิงสาวเสื้อสีขาวได้เดินไปตบไหล่ของคุณนายดาวอย่างแรงหลายครั้ง ขณะกำลังยืนหันหลังอยู่ ทำให้คุณนายดาวหันกลับมา แต่ทำทีไม่รู้จักกับบุคคลผู้นี้ ก่อนเดินหนี พร้อมเรียกให้คนเข้ามากีดกันห้ามปรามการกระทำของหญิงรายนี้

วันที่ 20 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียหาย ม.2 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช น.ส.ไพอริญชย์ สงวนพร้อม หรือ รัตน์ อายุ 43 ปี ผู้เสียหายที่อยู่ในคลิป เผยว่า คู่กรณีคือ น.ส.อาญาภา หรือ คุณนายดาว อายุ 28 ปี เหตุเริ่มจากเดิมทีตนอาศัยอยู่ภายในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนบ้านที่รู้จักและนับถือกันเป็นญาติกับคุณนายดาว ก่อนแนะนำให้ตนได้รู้จัก เจ้าตัวก็ให้ข้อมูลว่าเขาเป็นภรรยาของ ส.ส.รายหนึ่ง ในจ.นครศรีธรรมราช และรู้จักนักการเมืองระดับสูงในพรรครัฐบาล ทั้งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ก่อนที่ น.ส.ดาว จะเห็นว่า ตนทำธุรกิจเป็นแม่ค้าคนกลางรับส่งสบู่ ผลิตตรงจากโรงงาน จึงเกิดความสนใจและชักชวนให้ตนรวมทำธุรกิจด้วย โดยอ้างว่าเจ้าตัวจะร่วมกันลงทุนกับนักการเมือง รับสบู่ผ่านจากตนในราคาก้อนละ 50 บาทไปขายต่อในราคาก้อนละ 55 บาท โดยเสนอจะสั่งซื่อสบู่ผ่านตนจำนวน 4-5 หมื่นก้อน มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท

ต่อมาวันที่ 30 ส.ค. 64 คุณนายดาวได้เดินทางมาพูดคุยกับตนเรื่องธุรกิจ อ้างว่าธุรกิจครั้งนี้หากจะลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน ตนต้องโอนเงินให้ น.ส.ดาว ก่อนจำนวน 3.5 แสนบาทเป็นค่าเซ็นสัญญา เสมือนสร้างความมั่นใจให้กับนักการเมืองที่คุณนายดาวอ้างว่าเป็นผู้ร่วมลงทุนด้วย ตนที่เห็นว่าหากได้ร่วมงานนี้จะได้ผลกำไรกลับคืนเยอะ จึงยอมจ่ายเงินค่าเซ็นสัญญาตามเงื่อนไข ก่อนในวันที่ 13 ก.ย. 64 คุณนายดาวขอเปลี่ยนเงื่อนไข ต้องเพิ่มเงินอีกจำนวน 4 แสนบาท หลังจ่ายเงินเจ้าตัวก็ยังไม่ให้เซ็นสัญญา และบอกว่าอยู่ระหว่างทำเรื่องรอเอกสารเพื่อให้ตนเซ็น

จากนั้น ช่วงวันที่ 16 ก.ย.64 ตนได้มีการพูดคุยกับคุณนายดาว เนื่องจากมีจุดประสงค์อยากได้รถยนต์มาขับ เห็น น.ส.ดาว รู้จักคนเยอะเลยปรึกษา ซึ่งเจ้าตัวก็ให้คำปรึกษาดีพร้อมอ้างว่ามีธุรกิจที่เปิดกิจการกับกลุ่มเพื่อน ธุรกิจเต็นท์ขายรถมือสอง ก่อนเสนอขายรถมือสองให้ 1 แสนบาท ก่อนที่เจ้าตัวจะนำรถมาให้ตนในวันที่ 21 ก.ย. 64 หลังจากนั้นตนก็มาเริ่มรู้ความจริงเมื่อช่วงวันที่ 24 ก.ย.64 เขาโทรมาชวนตนออกไปทำบุญที่วัดนางพยา ต.ปากนคร อ.เมือง ด้วยกัน โดยขับรถเก๋งมารับตนที่บ้าน และบอกอุบายว่า ไม่ค่อยสบาย ระหว่างทางมีตำรวจทางหลวงขับรถติดตามมาขอดูทะเทียนรถจนตนมารู้ความจริงว่าทะเบียนรถหมายเลขคัดซีกับทะเบียนรถชื่อไม่ตรงกัน จึงรู่ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถเถื่อน

นอกจากนี้ วันที่ 25 ก.ย. ตนได้มีการติดต่อขายที่ดินของตนจำนวน 20 ไร่ ที่ซื้อต่อมาจากคนรู้จักในราคา 5 แสนบาท ช่วงปี 2559 กับคนที่รู้จักกัน ซึ่งจะขายต่อให้ในราคา 6 แสนบาท แต่ในระหว่างที่ตนไปทำการตกลงเซ็นสัญญาซื้อขาย มีพรรคพวกของ น.ส.ดาว จำนวน เกือบ 10 คน ได้บุกเข้ามาในสถานที่ที่ตนนัดเจรจากับลูกค้า อ้างว่าให้ตนรีบเซ็นเอกสารการซื่อขายให้เสร็จ เนื่องจาก น.ส.ดาวให้มาเอาเงิน ก่อนใช้ไม่ฟาดตามร่างกายตน และบังคับให้ตนยินยอมเซ็นเอกสารโอน

ซึ่งจำนวนเงินที่ตนเสียให้ น.ส.ดาว ไปทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 1 ล้าน 8 หมื่นบาท อีกทั้งมาทราบในภายหลังว่ามีผู้เสียหายที่ถูก น.ส.ดาว ออกอุบายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วมากกว่า 20 คน และถูกออกหมายจับแล้ว

น.ส.ชนิชตา สุวรรณอนุจันทร์ อายุ 41 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า กรณีของตนไม่สามารถบอกรายละเอียดเจาะลึกได้ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในคดีความ เหตุเริ่มจากช่วงปี 2563 ตนได้ไปรู้จัก น.ส.ดาว จากกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันแนะนำให้รู้จัก โดยครั้งแรกที่ได้เจอ เจ้าตัวแนะนำตัวเองค่อนข้างดี อ้างว่าเป็นภรรยาของ ส.ส.รายหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช รู้จักกับนักการเมืองชื่อดังภายในประเทศหลายคน ตนเห็นว่าเป็นบุคคลค่อนข้างกว้างขวาง จึงยินดีทำความรู้จักเอาไว้

กระทั่งเริ่มได้รู้จักกับ น.ส.ดาว มากยิ่งขึ้น เจ้าตัวก็เริ่มทักมาพูดคุยทุกวัน เสมือนเป็นการตีสนิทสร้างความเชื่อใจ และจะได้รู้ว่าชีวิตการทำงานของเรามีการยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจอะไรบ้าง จนช่วงเดือน ต.ค. 2563 น.ส.ดาว ที่รู้ว่าตนมีอาชีพประกอบธุรกิจเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง

จึงเสนองานมาให้ตนงานหนึ่ง โดยอ้างว่าเป็นงานที่จะได้ผลกำไรเยอะ เนื่องจากต้องทำงานร่วมกับนักการเมืองระดับประเทศ แต่มีข้อแม้ว่า หากอยากร่วมธุรกิจด้วยกัน ตนต้องยอมเสียเงินจำนวน 530,000 บาท เสมือนเป็นค่ารับประกันงาน ตนที่มองว่า น.ส.ดาว มีความน่าเชื่อถือหากดูจากโพรไฟล์ รวมไปถึงคิดว่าเงินที่เสียไปคงจะคุ้มกับผลกำไรที่ตอบแทน จึงตัดสินใจตกลงทยอยโอนเงินไปให้จำนวน 4 ครั้ง  ครั้งที่ 1 วันที่ 4 ต.ค. 63 เวลา 10.05 น. จำนวนเงิน 100,000 บาท, ครั้งที่ 2 วันที่ 20 ต.ค. เวลา 14.56 น.
จำนวนเงิน 200,000 บาท, ครั้งที่ 3 วันที่ 3 พ.ย. 63 เวลา 22.11 น. จำนวนเงิน 100,000 บาท, ครั้งที่ 4 วันที่ 16 พ.ย 63 เวลา 16.53 น. จำนวนเงิน 130,000 บาท

หลังจากที่ตนโอนเงินให้ครบตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ น.ส.ดาว กลับออกอุบายบอกว่างานที่ตนจะได้เข้ามาร่วมทำนั้นมีปัญหาหลายอย่าง จึงต้องรอไปก่อน ตนที่หลงเชื่อจึงรอจนถึงปัจจุบันตนก็ยังไม่ได้ทำงาน และไม่สามารถติดต่อเจ้าตัวได้อีกเลย ส่วนเงินที่โอนไปก็ไม่ได้คืน ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช

นางสาวนฤมล ทองเดิม หรือ แตง อายุ 40 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตนไม่ได้รู้จักกับคุณนายดาวเป็นการส่วนตัว เเต่ก่อนหน้านี้ตนได้ไปค้ำประกันรถให้กับเพื่อน เเต่ผู้เช่าซื้อหนี ไม่จ่ายค่างวด ตนจึงได้ประกาศตามหารถฟอร์จูนเนอร์สีขาว จนเมื่อ 13 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา คุณนายดาวทักตนมาว่าได้รถคันนี้มาเเล้ว เเต่ผู้เช่าซื้อไม่มีเงินมาไถ่คืน ตนจึงขอไถ่คืน เนื่องจากจะนำรถคืนไฟแนนซ์

หลังจากนั้น ตนจึงนัดเเนะไปคุยกัน คุณนายดาวอ้างว่ารถคันนี้อยู่ที่บ้านลุงสุเทพ ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน เเละอ้างอีกว่าได้ใช้บารมีของสามีที่เป็น ส.ส. จนหารถคันนี้เจอ ตนจึงขอซื้อคืน คุณนายดาวก็คิดราคาเเค่ 80,000 บาท เเละจะเอารถมาคืนภายใน 7 วัน ซึ่งตนได้จ้ายเงินไปเมื่อ 15 สิงหาคม 2563 จากนั้นรอเป็น 10 วันก็ยังไม่ได้รถคืนมา จนผ่านไปเป็นเดือน เเต่คุณนายดาวก็ทักตนมาตลอดว่ารถกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ บ่ายเบี่ยงมาตลอด จึงสืบประวัติคุณนายดาวทราบพฤติกรรมของคุณนายดาวทั้งหมด ตนจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เมื่อวันที่ 8 ก.ย.64 ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี

หลังจากนั้นตนก็ทักไปหาคุณนายดาวอีกจะขอเงิน 80,000 บาทคืน คุณนายดาวจึงตอบกลับว่ารอให้รับคณะรัฐมนตรีบิ๊กป้อมเรียบร้อยก่อน เเล้วค่อยนัดคืนเงินกัน ซึ่งตนก็ได้เงิน 80,000 บาทคืนมาเเล้ว เเต่ยังไม่ได้รถคืน จากนั้นก็เริ่มมีเหยื่อทักมาหาตน ตนจึงรวบรวมเหยื่อทุกคนมานั่งคุยกัน รวมเเล้วประมาณ 15 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท

นางสุนิภา หรือ ยายเหมียว เนตรประไพ อายุ 71 ปี ชาวบ้าน ต.แขวงปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ประกอบอาชีพเป็นหมอดูลายเท้า ตกเป็นเหยื่อที่ต้องสูญเสียเงินก้อนเดียวที่มีอยู่ในจำนวน 1.4 หมื่นบาท หลัง น.ส.ดาว ได้อ้างถึงความจำเป็นและเดือดร้อนเพื่อทำทีขอยืมเงิน ก่อนจะหลงเชื่อมอบบัตรกดเงินสดให้ไปกดเงิน แล้วก็ออกจากบ้านหายไป โดยไม่กลับเข้ามาอีกเลย

เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงขณะที่ น.ส.ดาว ได้หนีร้อนมาพึ่งเย็นที่บ้านของคุณยายเหนียว เป็นญาติห่าง ๆ ของแม่ น.ส.ด ได้มาอาศัยอยู่กินกับยายเหนียวอยู่ได้ในระยะหนึ่ง โดยมาหลบซ่อนตัวเพื่อหลบหลีกการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมาพร้อมกับรถยนต์เก๋งที่มาสืบทราบในภายหลังว่าเป็นรถเช่าภายในสนามบินสุราษฎร์ธานี ที่ น.ส.ดาว เช่าเอาไว้ใช้งาน โดยรถคันดังกล่าวนี้ จะเป็นรถที่ถูกกล่าวอ้างอยู่เสมอว่าไว้สำหรับรับส่งรัฐมนตรีที่เดินทางมาในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นรถที่ น.ส.ดาว ได้นำมาใช้งานอยู่นานนับปี กระทั่งท้ายที่สุด น.ส.ดาว ก็สามารถไหวตัวหนีออกจากบ้านไป

ซึ่ง น.ส.ดาว ก่อนไปได้บอกกับยายเหนียวว่าขอฝากรถไว้ก่อน ไม่กี่วันจะกลับมารับคืน และมาพร้อมกับเงินที่ยืมไป ซึ่งตนเองจะเดินทางไปหาพ่อ ทราบว่าพ่อจะได้รับเงินจากการขายที่ดินจำนวน 3 ล้านบาท แล้วก็หายไปเลย

นอกจากนี้ มีเสียงคลิปเสียงความยาว 4.27 นาที เป็นคลิปเมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 ระหว่างคุณนายดาวเเละนางฝัก ผู้เสียหายอีกราย ที่คุยกับคุณนายดาว คุณนายดาวได้กล่าวหาว่านางสาวนฤมล ได้รับเงินจากคนของฝ่ายตรงข้ามสามีคุณนายดาว 1 ล้านบาท เพื่อให้ไปเเจ้งความ ทำลายชื่อเสียงของตัวเอง ซึ่งคลิปเสียงช่วงที่มีการพูดด้วยว่า คุณนายดาวทำอะไรไม่ได้ ไม่ว่าจะยิงหรือจะกระชากหัวตบคนที่ทำลายชื่อเสียงตัวเอง

ที่ สภ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี นางสาวอาญาภา หรือ คุณนายดาว เปิดเผยว่า ตนไม่ใช่ภรรยาของ ส.ส. เเต่เป็นเรื่องส่วนตัวในอดีต ไม่อยากให้โยงไปเรื่องการเมือง ส่วนเรื่องสลิปที่มีการโอนเงินผ่านบัญชี ส.ส. ตนยังไม่เห็น จึงอยากขอเห็นหลักฐานก่อน ตนยืนยันว่าไม่มีนักการเมืองคนใดเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนท่านประวิตร ที่มีชื่อว่าถูกตนนำมาเเอบอ้าง ยืนยันว่าไม่จริง

ส่วนประเด็นกับ น.ส.ไพอริญชย์ คนที่อยู่ในคลิป ตนยืนยันว่านางสาวรัตน์มาเเนะนำตัวกับตนว่าจะทำสบู่ขาย เพราะว่าขาดรายได้ เนื่องจากครอบครัวมีปัญหาเรื่องเงิน เพราะมีปัญหากับครอบครัวเรื่องสามี จึงไม่มีทุนในการทำสบู่ขาย ตนก็โอนเงินให้ไป 45,000 บาท ปัจจุบันตนยังไม่ได้สบู่สักก้อน ส่วนเรื่องเงิน 750,000 บาท ที่นางสาวรัตน์โอนมาให้ตน ตนขอหลักฐาน ไม่ใช่เเค่คำบอกเล่า ตนพร้อมที่จะรับผิด หากตนผิดจริง นอกจากนี้ นางสาวรัตน์ก็ร้องห่มร้องไห้ ขอไปนอนกับตนที่เเมนชั่น เพื่อที่ตอนเช้าจะไปจับบ้านเล็กของสามี ส่วนประเด็นเรื่องซื้อรถมือสอง ตนยืนยันว่าไม่เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ เพียงเเต่สมัยเรียนเคยเป็นเซลส์ขายรถ เท่านั้น ตนไม่เคยมีเต็นท์รถหรือบริษัทรถเป็นของตัวเอง เเละนางสาวรัตน์ไม่เคยซื้อรถจากตน

ส่วนเรื่องรถเถื่อน นางสาวรัตน์เป็นคนที่มีความเครียดอยู่เเล้ว ต้องการไปทำบุญ ต้องการรเงินทุนต่อยอดให้สามี เเละเงินมาเลี้ยงดูลูกเเละครอบครัว ช่วงนั้นนางสาวรัตน์จึงชวนตนไปทำบุญบ่อยครั้ง ตอนนั้นตนไม่ทราบว่ามีตำรวจทางหลวงขับตามมาขอตรวจค้นรถด้วย

ส่วนเรื่องที่ดินที่นางสาวรัตน์อ้างว่าระหว่างที่ทำการตกลงเซ็นสัญญาซื้อขายที่กับลูกค้า มีพรรคพวกของตนเกือบ 10 คน ได้บุกเข้ามาในสถานที่ที่ตนนัดเจรจากับลูกค้า ไม่เป็นความจริง เพราะนางสาวรัตน์ไม่เคยมาคุยกับตนเรื่องที่ดินมาก่อน ส่วนเรื่องที่มีผู้เสียหายนับ 20 คน จากเมื่อเช้าที้มีสื่อไลฟ์สด ตนอยากบอกให้หาหลักฐานมาว่าใครที่เป็นผู้เสียหาย 20 คน เอามาให้ครบ เพราะตนโดนโจมตีมาตั้งเเต่ต้นปี 2564 ตนอยากขอความเป็นธรรมกับสื่อด้วยว่าขอให้ตามเรื่องนี้ให้จบ ในเมื่อเปิดประเด็นเเล้ว อย่าค้างคาเหมือนที่ผ่านมา เพราะคนที่เสียหายคือตนถูกดิสเครดิต จนการงานมีปัญหา

ซึ่งคนที่ชื่อ "ดาว" ที่มีคนเเจ้งความมากกว่า 20 รายที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ เป็นคนละดาวกับตน เเต่จะเป็นดาวไหนให้ไปสืบดู นามสกุลขึ้นต้นด้วย ค. เป็นผู้หญิงสวย อายุประมาณ 30 กว่าปี รูปร่างดี สวย เเละดาวคนนี้เป็นหนึ่งในคนที่ร่วมขบวนการโจมตีตน ซึ่งคนที่ตนมีปัญหาด้วยเเละเรื่องถึงศาลมีเเค่รายเดียวเรื่องเกี่ยวกับการฝากขายที่ดิน ตนอยากขอความเป็นธรรม

เหตุการณ์วันที่ 16 ธ.ค.64 ที่งานโนราที่จังหวัดพัทลุงที่ผ่านมา ตนได้รับเชิญจากผู้จัดงานให้ไปร่วมงานเเถลงข่าว ซึ่งในงานมีศิลปะชั้นผู้ใหญ่มาก เเต่ตนกลับถูกประจาน ส่วนที่ตนเดินทางมาที่ สภ.พนม ในวันนี้ เพื่อเเจ้งความในฐานะผู้เสียหาย ตนจะดำเนินคดีกับคนที่ไลฟ์สด เเละคนที่คอมเมนต์