เปิดนาทีกระบะเมาชนหนุ่มซาเล้ง ลากร่างติดใต้รถไกล 5 กม. พ่อปัดเชื่อโชเฟอร์อ้างไม่รู้ชนคน (คลิป)

กรณีอุบัติเหตุรถกระบะตู้ทึบ ซึ่งมีนายกิตติศักดิ์ คร้ายเรียน อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับไปชนรถสามล้อซาเล้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายไพรวัลย์ เกตุเจริญ อายุ 38 ปี แต่ติดอยู่ใต้ท้องรถกระบะตู้ทึบคันดังกล่าวและถูกลากไปไกลเกือบ 5 กม. 

ทั้งนี้ยังพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย กระเด็นตกลงคลอง 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายมนตรี เกตุเจริญ อายุ 36 ปี น้องชายคนตาย และอีก 1 รายกระเด็นไปอยู่ริมถนน ทราบชื่อต่อมา นายชาลี ภาษี อายุ 59 ปี เพื่อนของนายมนตรี ส่วนรถซาเล้งก็กระเด็นตกลงไปจมอยู่ในน้ำใต้สะพานละแวกที่เกิดเหตุ บริเวณรั้ววัดพระธรรมกาย ฝั่งอาคารจอดรถ 2 ถนนเอราวัณ 1 เลียบคลองสอง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ล่าสุดวันที่ 20 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบว่าเป็นถนนเลียบคลองสอง เป็นถนนสองเลนสวนกัน อยู่ติดเลียบเส้นทางคลอง ไม่พบผู้เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวค่อนข้างดึก และไม่มีกล้องวงจรปิด จุดที่ชนคือบริเวณริมรั้ววัดพระธรรมกาย ฝั่งอาคารจอดรถ 2 สะพานเอราวัณ 1 มีร่องรอยของการไถลของรถทั้งบนถนนและกอหญ้าริมทาง 

จากนั้นเวลา 15.30 น. ทางด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิต นายเพทาย เกตุเจริญ อายุ 56 ปี พ่อของผู้ตาย และนางพนัษษรณ์ เกตุเจริญ อายุ 53 ปี แม่เลี้ยงของผู้ตาย รวมถึงผู้บาดเจ็บอีก 2 รายได้เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.คลองหลวง

นายเพทาย เปิดเผยว่า ส่วนตัวยังไม่เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ว่านายกิตติศักดิ์ จะไม่รู้ว่าชนคนในตอนแรกตามที่ให้การกับตำรวจ เพราะชนแรงมาก ๆ ทั้งรถทั้งคนกระเด็นกระจุยกระจายขนาดนั้น แล้วยิ่งลากศพลูกชายตนไปไกลถึง 5 กม. ก็ยิ่งน่าคิดไปใหญ่ ถ้าไม่มีกล้องของพลเมืองดีก็คงยังไม่สามารถตามจับผู้ก่อเหตุได้

แต่อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขาได้รับโทษแล้ว ตนก็ไม่ติดใจ ปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย และให้เขารับกรรมไป ตนก็สูญเสียลูกชายไปแล้ว ทำอย่างไรก็เอาคืนกลับมาไม่ได้อยู่ดี ตนจึงขออโหสิกรรมให้แม้จะเสียใจมาก ๆ ก็ตาม เพราะตนไม่อยากผูกเวรมีเวรกรรมและอาฆาตกัน

"ถามว่าครอบครัวผู้ก่อเหตุได้เข้ามาขอโทษขอโพยบ้างไหม ตอนนี้ยังไม่มีใครเข้ามาขอโทษเลย ยอมรับว่าแค่เข้ามาขอโทษก็ได้ ส่วนเรื่องเงินเยียวยา หากเขาเสนอให้ก็ยินดี เพราะถือว่าสูญเสียหนึ่งในบุคคลที่หารายได้เข้าบ้านไป แม้ว่าจะได้แค่วันละ 300-400 บาทก็ตาม สุดท้ายก็อยากบอกกับดวงวิญญาณของลูกชายว่าให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อ เรื่องที่จบไปแล้วก็จบ ไม่ต้องจองเวรจองกรรมกันนะ" พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าว

นอกจากนี้ พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รองผกก.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง ให้ข้อมูลว่า ตำรวจได้สอบสวนนายกิตติศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบว่าวัดได้ 178 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.64) จะนำตัวผู้ก่อเหตุไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรีต่อไป เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาทั้งหมดดังต่อไปนี้

1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำคุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3.เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลสามารถสั่งเพิกถอนใบขับขี่

4.เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ จำคุก 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลสามารถสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบขับขี่

5.ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ระวางโทษปรับตั้งแต่ 400 - 1,000 บาท

6.ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ