จากความรู้สึกของแม่! เมื่อ บุ๋ม ปนัดดา ถามถึงความในใจคุณแม่น้องจูน หลังรับฟังคำพิพากษา

16 ธ.ค. 64

หลังจากที่เฝ้ารอฟังคำตัดสินมายาวนานถึง 5 ปี ในที่สุดศาลมณฑลทหารบกที่ 15 จ.เพชรบุรี ได้มีการอ่านคำพิพากษาในคดี น.ส.สุกฤตา สุภานิล หรือน้องจูน พนักงานราชการสังกัดค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกอดีตสามี นายทหารยศร้อยตรี ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกว่า 3 เดือน

โดยศาลพิพากษาว่า ข้อหาพยายามฆ่า พิจารณาแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย แต่เป็นการทำร้ายร่างกาย เนื่องจากบันดาลโทสะ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พิพากษา จำคุก 1 ปี 6 เดือนแต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิดและถูกลงโทษ ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 12,500 บาท สำหรับข้อหาอาวุธปืน นำสืบไม่ได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย ส่วนข้อหาชิงทรัพย์ ไม่สามารถนำสืบได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย คดีนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้ว (เนื่องจากมีเพียงศาลเดียวในขณะเกิดเหตุมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก) งานนี้ บุ๋ม ปนัดดา, อั๋น ภูวนาท และ แก้มบุ๋ม ปรียาดา พิธีกรรายการ แซะ ที่ CHANGE2561 ร่วมกับทางอมรินทร์ ทีวี เอชดี 34 ก็ได้ต่อสายตรงยกหูหา คุณแม่สุนทรี เถาวัลย์ แม่ของน้องจูน เปิดเผยความรู้สึกหลังฟังคำพิพากษาว่าน้อมรับคำตัดสิน พร้อมกับเปิดความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป

s__80814095 

คุณแม่ : ในความรู้สึกของแม่นะคะ ตั้งแต่ที่น้องจูนเป็นข่าวมา ตั้งแต่ขึ้นกระบวนการยุติธรรม แม่ก็ได้ตั้งใจไว้แล้วค่ะ ไม่ว่าผลจะตัดสินออกมาเป็นอย่างไร แม่น้อมรับคำตัดสินแล้วก็บอกน้องจูนตลอดเวลา 5 ปีว่าผลออกมาเป็นอย่างไร เราต้องน้อมรับ แล้วพอผลออกมาจริงๆ ในความรู้สึกของคนเป็นแม่นะคะ แล้วก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย แม่ก็อึ้งไปชั่วขณะเหมือนกัน แล้วก็หันมามองหน้าลูก บอกลูกด้วยสายตาว่าอย่ามีน้ำตาเด็ดขาด แล้วพอสิ้นสุดก็มันพูดอะไรไม่ออกหรอกค่ะ แต่เราเคารพการตัดสินใจของศาล ไม่ละเมิดอำนาจศาลแต่ในความรู้สึกของตัวเอง ของผู้หญิงคนหนึ่ง ของแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต่อสู้ช่วยลูกทุกอย่างมา 5 ปี สำหรับวันนี้มันจบแล้วค่ะ แม่ถึงบอกว่าแม่เคารพในสิ่งที่ศาลตัดสิน แต่น้ำตาของคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันสามารถตัดสินได้ว่าแม่รู้สึกยังไง รู้สึกมากน้อยแค่ไหน เพราะคดีของน้องจูน ไม่ใช่ว่าแม่ต่อสู้แค่สองคนนะคะ คนไทยทั่วประเทศก็ร่วมกันต่อสู้กับแม่ แล้วก็รอการตัดสินวันนี้ด้วยค่ะ

บุ๋ม ปนัดดา : หลังจากศาลตัดสินมาเรียบร้อยแล้ว แล้วแม่เองก็สู้เรื่องคดีความ ลาออกจากงานและมาขายของเพื่อที่จะดูแลน้องจูน อย่างใกล้ชิด 5 ปีเต็มๆ หลังจากนี้แม่จะสู้อย่างไรต่อไปเพื่อประคับประคองชีวิตสองชีวิตนี้ให้เดินต่อไปยังไงดีคะแม่

คุณแม่ : แม่ก็บอกน้องตลอดเวลานะคะว่าให้เข้มแข็ง ถ้าเราจะร้องไห้ เราจะกลับมาร้องในห้องกันสองคน เราจะไม่ร้องที่ไหน เราจะต้องเข้มแข็ง แม่ก็ต้องทำงานขายของต่อไป น้องจูนก็ต้องทำงานที่เขารักคือเป็นพนักงานข้าราชการ แต่แม่ก็พยายามบอกน้องว่าเราก็ยังดีนะ เพราะแม่ยังได้ลูกสาวกลับคืนมา ถึงแม้น้องจูนจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่าน้องจูนต้องหาหมอถึง 4 หมอ หาหมอศัลยกรรมประสาททุกสามเดือน เพราะว่าน้องจะมีอาการเดินไม่ตรง มีอาการเหมือนกับเสียงดัง พูดลิ้นรัว ถ้าท่อน้ำตาอุดตัน น้ำตาจะไหล ต้องไปเหมือนกับว่าไปจี้ไปผ่าในท่อน้ำตาด้วย แล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปหาหมอจิตเวช เพื่อปรับยา เหมือนกับน้องจะหงุดหงิดเสียงดังโมโหง่าย ขี้ลืมก็ต้องไปปรับยา แล้วก็หาคุณหมอศัลยกรรมพลาสติกที่ว่าจากเพจอีจัน พาน้องไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีมา จากที่ซีกซ้ายน้องโดนทุบไป เราก็ต้องเติมไขมัน ซึ่งปีนึงต้องเติมหนึ่งครั้ง ซึ่งใช้ไขมันของตัวเองเติมอย่างนี้ค่ะ

s__80814094

บุ๋ม ปนัดดา : แล้วทีนี้ครอบครัวของเราเองก็ต้องแบกค่าใช้จ่ายในเรื่องของการเดินทางไปหาหมอค่ารักษาต่างๆ ที่เบิกไม่ได้ คุณแม่สู้ด้วยการขายของออนไลน์ใช่ไหมคะ

อั๋น ภูวนาท : แล้วช่วงที่เราอยู่ ICU เราต้องเสียค่ารักษาทุกอย่างเองหมดเลยเหรอครับ

คุณแม่ : หัวหน้าของน้องจูน ท่านก็เมตตา ออกค่ายานอกบัญชีให้ แล้วเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนก็เรี่ยไรเงินมาให้แม่เรื่อยๆ ค่ะ

อั๋น ภูวนาท : แต่อย่างไรก็ยังมีภาระหนี้สินจากที่เราต้องดูแลรักษาพยาบาลกันมา ตอนนี้ยังมีภาระหนี้สินอีกมากน้อยแค่ไหนครับ

คุณแม่ : ตอนนี้แม่มีภาระหนี้สินอยู่ประมาณเกือบๆ 7-8 แสนบาทค่ะ ตอนนี้แม่ก็ขายของออนไลน์อยู่ที่ ปังปัง coffee1365

ติดตามชมรายการ "แซะ" คุยแคะ แกะเกา เมาท์อีกมุม ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.50-18.50 น. ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- รอลงอาญา! หมวดแบงค์ซ้อมโหดรอดพยายามฆ่า น้องจูนซึ้งฟ้าหลังฝนมีแม่เคียงข้าง

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส