เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ตำรวจ สภ.บ้านผือ ได้รับเเจ้งเหตุ ชายวัยรุ่น ใช้อาวุธมีดทำร้ายช่างตัดผม ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านตัดผมชาย หมู่ 2 ตำบลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
ผู้บาดเจ็บ คือนายพัฒนวิชญ์ ทองคำ อายุ 28 ปี เป็นเจ้าของร้าน ถูกอาวุธมีดฟันที่ศีรษะ บริเวณขมับขวา ถึงเบ้าตา เป็นบาดเเผลฉกรรจ์ อาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาล เเละเสียชีวิตเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายอนุชิต ปราบพาล อายุ 27 ปี ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา จากการสืบสวน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุเคยงัดเเงะร้านของผู้ตาย ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ จึงมีการเคลียร์ใจกันในเรื่องดังกล่าว โดยเข้าไปคุยกันในรถเก๋งของผู้ตาย ที่จอดอยู่หน้าร้าน
หลังจากเคลียร์กันเสร็จ ผู้ก่อเหตุก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านไปเอาอาวุธมีด ก่อนจะขี่รถกลับมาที่ร้าน ซึ่งขณะนั้นผู้ตายกำลังนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อน 4 คน เเล้วผู้ก่อเหตุได้ถืออาวุธมีดวิ่งปรี่เข้ามาจะฟันหนึ่งในเพื่อนของผู้ตาย จนทุกคนวิ่งหนีคนละทิศคนละทาง จังหวะนั้นผู้ตายได้เข้ามาห้าม เเต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟัง เเละใช้มีดฟันที่ศีรษะผู้ตาย จนล้มฟุบลงที่พื้น
ก่อนหลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านของตัวเอง ขึ้นไปขังตัวเองอยู่บนห้องนอนชั้น 2 ปิดหน้าต่างมิดชิด ทางตำรวจได้ล้อมบ้านไว้ทั้งคืน เนื่องจากผู้ก่อเหตุตะโกนข่มขู่ว่า "ใครขึ้นมาจะฟันให้ตาย" กระทั่งเวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ยิงเเก๊สน้ำตาขึ้นไปในห้อง เเละสามารถจับกุมตัวได้
พันตำรวจเอกกานต์ ตั้งวิจิตร ผู้กำกับการ สภ.บ้านผือ เปิดเผยว่า นายอนุชิต ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดมานาน ที่ผ่านมามักจะมีอาการคลั่ง ตำรวจสายตรวจเคยเข้าไประงับเหตุบ่อยครั้ง เเละทางญาติ ๆ เคยพยายามนำตัวไปบำบัดหลายครั้ง เเต่ตัวผู้ต้องหาไม่ยอมไป จากการสอบปากคำผู้ต้องหาอ้างว่าระหว่างที่มีการเคลียร์ใจ ถูกผู้ตายชักปืนขู่ เเต่จากการตรวจสอบของตำรวจ ไม่พบปืนเเต่อย่างใด จึงไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนเเจ้ง 2 ข้อหา คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ เตรียมนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ในวันพรุ่งนี้ 4 ธ.ค. 64
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า นายอนุชิต รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าผู้ตายมีอาวุธปืน และจะมาทำร้ายเคยเข้ารับการรักษาตัว เป็นผู้ป่วยจิตเภท จากการใช้ยาเสพติด(ยาบ้า)อย่างต่อเนื่อง เมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมาก่อนมา ก่อเหตุฆ่าผู้อื่นเสียชีวิต
วันนี้จะไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากคนร้ายมีอาการป่วยทางจิตอยู่ในระดับสีแดง เกรงว่าคนร้ายจะได้รับอันตราย ถูกรุมประชาทัณฑ์ ด้วยตำรวจเคยมาระงับเหตุที่บ้านอนุชิตหลายครั้ง เคยแนะนำญาติให้นำตัวไปรักษา แต่นายอนุชิตขัดขืน ไม่ยอมไปบำบัด ชอบหลบหนี
ที่วัดศรีโสภณ ตำบลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เป็นสถานที่จัดพิธีศพของ นายพัฒนวิชญ์ ทองคำ อายุ 28 ปี ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า พบว่าเเม่ของผู้ตายได้กอดศพลูกชายร้องไห้ ก่อนจะเดินมากอดลูกสะใภ้ ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย ที่กำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน ทั้งคู่กอดกันร้องไห้
ภรรยาของผู้ตายคือ น.ส.พรรณิภา ธิวะโต ตั้งครรภ์ 8 เดือน เปิดเผยว่า สามีเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่เคยมีศัตรู เเละไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นคนในละเเวกเดียวกัน ก็ทราบกันดีว่าเป็นคนที่มีอาการทางจิต เเต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องกัน ทุกครั้งที่สามีนั่งคุยกับเพื่อน ๆ อยู่หน้าร้าน ผู้ก่อเหตุก็มักจะขับรถวนเวียนมาสอดส่องหน้าร้าน เเละชอบจอดรถมองหน้าคนในกลุ่ม เเละมองหน้าคนในร้าน เเต่ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจ เพราะรู้ดีว่าผู้ก่อเหตุ เป็นคนที่มีอาการทางจิต ส่วนตัวก็รู้สึกกังวลมาโดยตลอด เเละเคยเตือนสามีในเรื่องนี้ด้วย ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุร้ายเเรงขนาดนี้
โดยก่อนเกิดเหตุ สามีเพิ่งขับรถมาส่งตนเองที่บ้านในช่วงเย็น ก่อนจะขับรถกลับไปที่ร้านอีกครั้ง เพื่อนั่งคุยกับเพื่อน ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่เเล้ว จนกระทั่งช่วงกลางดึก ทราบข่าวร้ายว่าสามีถูกฟันศีรษะเสียชีวิต ตนรู้สึกช็อกมาก ทำอะไรไม่ถูก เพราะตนท้อง 8 เดือน อีกเเค่เดือนเดียวลูกก็จะคลอดเเล้ว เเต่ลูกไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าพ่อ
ส่วนตัวอยากถามคนก่อเหตุว่าจิตใจทำด้วยอะไร ถึงมาทำกับคนที่เขามีครอบครัวเเบบนี้ พฤติกรรมเป็นภัยกับสังคมจึงอยากให้รับโทษสูงสุดประหารชีวิต
ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้ต้องหา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน ได้พูดคุยกับพ่อของผู้ต้องหา คือนายวิไล ปราบพาล อายุ 54 ปี อยู่ในอาการเครียด พาทีมข่าวเดินขึ้นไปดูห้องนอนของลูกชาย ซึ่งเป็นจุดที่มาหลบซ่อนตัวหลังก่อเหตุ โดยภายในห้องมีเพียงเสื่อกับหมอน วิทยุ 1 เครื่อง
นายวิไล พ่อผู้ต้องหา ยอมรับ ว่าลูกชายมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดมากว่า 10 ปีเเล้ว ที่ผ่านมาพ่อพยายามติดต่อหน่วยงานรัฐ พาตัวไปรักษาหลายครั้ง เเต่ลูกชายก็จะต่อต้านการรักษา เเละไม่ยอมกินยา ทำให้มีอาการกำเริบ คลั่งทำลายข้าวของในบ้าน เเละหนักสุดเมื่อ 2 ปีที่เเล้ว เคยใช้ไม้ฟาดพ่อกับเเม่จนบาดเจ็บมาเเล้ว พ่อก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะพฤติกรรมเกินจะควบคุมได้ ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยไปทำร้ายคนภายนอก ในเเต่ละวันจะนอนอยู่ในห้อง เเละจะออกจากบ้านในช่วงเย็นเพื่อไปซื้ออาหาร เเล้วก็กลับมานอนเหมือนเดิม
โดยเมื่อคืนก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.00 น. ลูกชายได้ขอเงิน 100 บาท บอกว่าจะเอาไปซื้อเนื้อหมูมาย่างกิน จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป เเล้วก็ขับเข้าขับออก 2-3 รอบ จนกระทั่งรอบที่ 3 เวลาประมาณ 19.30 น. พ่อกับเเม่ได้เข้าห้องนอนเเล้ว ได้ยินเสียงลูกชายขับรถออกจากบ้าน ก่อนจะกลับเข้ามาในเวลา 20.00 น. เมื่อมาถึงก็เดินขึ้นไปบนห้องนอนชั้น 2 ปิดหน้าต่างทุกบาน เเล้วเปิดวิทยุฟัง โดยที่ตนไม่ทราบว่าลูกไปฆ่าคนตาย จนกระทั่งช่วงกลางดึกตำรวจมาล้อมบ้าน
"พ่อเเม่ทุกคนอยากให้ลูกเป็นคนดี เเต่เมื่อลูกเป็นเเบบนี้ก็ทุกข์ใจ" จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองในฐานะพ่อ ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนในทางคดีปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ จะไม่ขอประกันตัวใด ๆ ทั้งสิ้น
