จากกรณีนายตั้ม (นามสมมติ) อายุ 46 ปี พ่อค้าอาหารตามสั่ง บริเวณปากซอยศรีด่าน 3/3 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นำหลักฐานคลิปขณะถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5-6 คน บุกมารุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน อ้างว่า 1 ในผู้ก่อเหตุเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งนั้น
เหตุเกิดเมื่อช่วง 20.30 น. ของวันที่ 11 พ.ย. 64 สาเหตุมาจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เคยมีปากเสียงกับผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ภายในงานเลี้ยงกำนันผู้ใหญ่บ้าน แล้วก็เลิกรากันไป ตั้งแต่นั้นมาผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวก็ไม่ค่อยชอบหน้าตน จนเมื่อเดือนก่อนได้ไปเจอกับผู้ใหญ่บ้านคู่กรณีที่ศูนย์พักค่อยย่านสำโรงเหนือ และได้เข้ามาคุยกับตนจนเกิดกระทบกระทั่งกันอีก
ล่าสุด วันที่ 13 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ไปยังร้านอาหารตามสั่ง ปากซอยศรีด่าน 3/3 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นร้านของผู้เสียหาย และเป็นจุดที่เกิดเหตุถูกทำร้ายร่างกาย ผู้เสียหายบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า ฟกช้ำ หัวเข่าเป็นแผล และปากแตก
นายตั้ม (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อคืนวันเกิดเหตุ วันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะตนเองกำลังขายอาหารตามสั่งอยู่ที่ร้าน และมีเพื่อน ๆ มานั่งฉลองงานวันเกิดกันภายในร้านด้วย ต่อมาตนเองได้เดินไปสูดอากาศบริเวณนอกร้าน จู่ ๆ ไม่นาน ทางชายฉกรรจ์ได้ขี่รถจักรยานยนต์ แล้วมายืนอยู่บนถนนตรงข้ามกับร้านตนเองเป็น 10 กว่าคน ต่อมาได้มีชายในกลุ่มวิ่งตรงเข้ามาหาตนเองจำนวน 6 คน ได้เข้ามารุมชกต่อยตนเองจนเสื้อขาด
โดยหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวคือนายเอ (นามสมมติ) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของผู้ใหญ่บ้าน และมีน้องชายของผู้ใหญ่บ้านอีกด้วย ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านเป็นคู่กรณีกับตนมาก่อนหน้านี้ เข้ามารุมทำร้ายตนได้รับบาดเจ็บบอบช้ำตามร่างกาย
ทางนายเอกล่าวหาและใช้คำพูดว่า "มึงมีเรื่องกับพี่กูก่อน" และหลังเกิดเหตุยังข่มขู่อีกต่าง ๆ นานา ตนเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงนำหลักฐานคลิปโทรศัพท์ที่มีคนถ่ายไว้ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.สำโรงเหนือไว้แล้ว และอยากร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน ให้เร่งรัดคดี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นผู้นำท้องถิ่น อีกทั้งจะเข้าพบปลัดอำเภอเมืองสมุทรปราการ เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรายนี้ต่อไป ทั้งนี้ ตนเองรู้สึกหวั่นกลัวเป็นอย่างมาก ทั้งต้องทำมาหากิน มีร้านอาหารตามสั่งส่วนตัวกล้วว่าทางชายฉกรรจ์จะเข้ามาทำร้ายตนเองอีก ถ้ายังไม่มีการดำเนินการทางคดี
ด้านนายธงชัย เทียนบาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 11 พฤศจิกายน ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. มีเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาหาตนและบอกว่ามีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกันที่หน้าปากซอย ตนเองจึงรีบออกไปดูที่เกิดเหตุ ปรากฎว่าเป็นลูกหลานของตนเองทั้งนั้น ตนเองจึงต้องรีบไล่หลาน ๆ ให้กลับไปบ้าน และเข้าพูดคุย ขอโทษแทนทางหลาน ๆ กับทางผู้เสียหายแล้ว ซึ่งก็เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเช่นกัน แต่อยู่กันคนละหมู่ ตนเองอยู่หมู่ที่ 4 ทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้เสียหายอยู่หมู่ที่ 2 ที่สำคัญตนเองยังไม่ทราบเรื่องมาก่อนเลยว่าทางหลาน ๆ จะบุกไปทำร้ายที่บ้านของผู้เสียหาย รู้สึกตกใจมาก ถ้าหากทางผู้เสียหายอ้างว่าตนเองเคยไปมีเรื่องเขม่นกันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตนเองขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเลย ไม่เคยทะเลาะอะไรกันมาก่อนเลย
แต่เมื่อช่วงเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนเองเคยเข้าไปพูดกับทางผู้เสียหายว่ามีอะไรก็มาพูดกันต่อหน้า อย่าพูดลับหลัง แต่ทางผู้เสียหายก็มีการตอบกลับมาว่า "จะพูดยังไงก็ได้ ตรงไหนก็ได้" ตนเองเมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วก็รู้สึกถอยห่าง พูดคุยกันแต่เรื่องงานเท่านั้นพอ แต่ก็ไม่เคยไปเขม่นหรือมีปัญหากัน และไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลย จนครั้งนี้ที่หลานบุกกันไปที่บ้านของผู้เสียหาย ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อน และไม่ทราบเหตุผลว่าไปกันทำไม เพราะอะไร เบื้องต้นจะนัดคุยกับหลาน ๆ ทั้งหมดที่ไปกันวันนั้น
ทั้งนี้ อยากให้ทางผู้เสียหาย อย่าได้มีความหวั่นกลัวอะไรเลยว่าทางหลาน ๆ ตนเองจะเข้าบุกไปทำร้ายอีก ตนเองขอยืนยันว่าไม่มีอีกแล้วแน่นอน จะเข้ากำชับพูดคุยกันภายในครอบครัว ถ้าหากทางผู้เสียหายจะขอพูดคุยเคลียร์ใจกัน ตนเองก็ยินยอมได้เช่นกัน เพื่อไม่ให้มีปัญหากันในภายหลัง เพราะแต่ละคนก็มีตำแหน่งทางท้องถิ่นกันทั้งนั้น
