สาวอัดคลิปโวย หมอตะเพิดแม่ป่วยปัดรับรักษา เหตุยังไม่ใกล้ตาย ผอ.ขอโทษคาดหมอเครียดคนไข้โควิดเยอะ (คลิป)

จากกรณีที่โลกโซเชียล มีการแชร์คลิปความยาวประมาณ 5 นาที ซึ่งคลิปดังกล่าวบันทึกไว้ขณะที่หญิงสาวชาวลีซอ พาแม่เดินทางไปโรงพยาบาลเชียงดาว ซึ่งขณะที่ถ่ายคลิป มีหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ก่อนที่หมอบอกว่า "เป็นอะไร" ผู้ถ่ายคลิปเลยบอกว่าแม่เป็นไข้ ปวดเนื้อปวดตัว ก่อนที่หมอจะบอกด้วยน้ำเสียงดุดันว่า "กลับบ้านไป ต้องเป็นเคสฉุกเฉินเกือบตาย" เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาตี 1 ของวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีการถ่ายคลิปลงในโซเชียล มีคนแชร์เป็นจำนวนมาก และมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของการทำหน้าที่แพทย์หรือไม่นั้น

ล่าสุด วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ทางผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่บ้านของคนป่วย เดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปถึง 100 กิโลเมตร อยู่ที่บ้านหนองแขม ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับการเดินทางเข้าไปในหมู่บ้าน ตลอดการเดินทางจะผ่านไร่ข้าวโพด ตั้งอยู่กลางหุบเขา เส้นทางคดเคี้ยว เส้นทางอยู่ในป่าดอย มีไฟฟ้าส่องสว่างเพียงบางจุดเท่านั้น

และหากขับรถจากบ้านผู้ป่วยถึงโรงพยาบาล ในช่วงเวลากลางดึกที่ไฟฟ้ามีบาช่วง และทางคดเคี้ยว ต้องใช้เวลามากถึง 1 ชั่วโมง ด้วยระยะทางกว่า 35 กิโลเมตร

นางสาวจันทรา แสงจันทร์ อายุ 29 ปี และนางสาวนฤนาฏ แสงจันทร์ อายุ 33 ปี สองพี่น้อง กำลังช่วยกันดูแลนางอาเลมะ แสงจันทร์ อายุ 59 ปี ผู้ป่วย อาการของนางอาเลมะเริ่มดีขึ้นมากแล้ว ความดันเริ่มปกติอุณหภูมิร่างกาย เริ่มกลับมาปกติ แต่ยังคงต้องนอนพัก และกินยาตามที่แพทย์สั่ง

น.ส.จันทรา แสงจันทร์ อายุ 29 ปี ลูกสาวผู้ป่วย บอกว่า แม่ไม่สบายตั้งแต่ตอนเย็น หลังจากที่ไปเก็บถั่วที่สวน มีอาการท้องเสียและหนาว ตนจึงเอายาให้แม่ทานก่อนนอน แต่จนดึกอาการแม่ไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจเรียกน้องชายและพี่สาวขับรถลงดอยมาเวลาเที่ยงคืน มาถึงโรงพยาบาลเชียงดาวตอนตี 1 เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ต้องมาเจอเหตุการ์ณแบบนี้ รู้สึกเสียใจ เหมือนถูกเลือกปฏิบัติ

ทั้งนี้ ตนเข้าใจการทำงานของหมอ แต่ไม่มีใครที่ต้องการจะมาโรงพยาบาลถ้าไม่เจ็บป่วยหนัก คนที่เข้ามาโรงพยาบาลดึก ๆ คงต้องเจ็บป่วยจริง ไม่ใช่มาเจอคำพูดแย่ ๆ และไม่เหลียวแม่ตน ไม่ได้รับการรักษา และไม่ได้ยา ต้องพากันเดินทางกลับบ้านไป กว่าจะถึงบ้านเวลาตี 3 ต้องรักษาอาการกันตามมีตามเกิด ซึ่งแม่ก็ต้องนอนซม

กระทั่งรุ่งเช้า ตนจึงพาแม่เธอลงดอยมาหาหมอที่คลินิกในตัวอำเภอเชียงดาวอีกครั้ง จนทราบสาเหตุว่าแม่ป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบ ตอนนี้หลังหมอที่คลินิกจัดยาให้ แม่ก็นอนพักผ่อน อาการดีขึ้นบ้างแล้ว

ด้านนางสาวนุชนาฏ แสงจันทร์ อายุ 33 ปี พี่สาวคนโต เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีทีมแพทย์พยาบาลเข้ามาเยี่ยมอาการของแม่ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นทีมแพทย์จากโรงพยาบาลเชียงดาว หรือว่าจาก รพ.สต.นาหวาย โดยได้เข้ามาตรวจวัดไข้ ตรวจวัดความดัน พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการดูแลรักษาแม่ ส่วนตัวของแพทย์ที่เป็นคนตะคอกใส่ตนที่โรงพยาบาลนั้น ไม่เห็นเข้ามาเยี่ยมแต่อย่างใด

ส่วนทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาขอโทษ หรือชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนตอนนี้ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพียงแค่อยากจะให้เป็นกรณีศึกษา ถึงแม้ตนจะเป็นชาวเขาชาติพันธุ์ ก็ไม่ควรใช้อารมณ์กับคนไข้ในลักษณะแบบนี้อีก เพราะหากคนไม่ป่วยฉุกเฉินก็คงไม่ขับรถลำบากไปถึงโรงพยาบาลช่วงกลางดึกแบบนั้น

นอกจากนี้ ชาวบ้านรายอื่น ๆ ที่เป็นชาวเขาชาติพันธุ์ ต่างพากันพูดว่าเมื่อเข้ารับการบริการจากโรงพยาบาลแห่งนี้ จะถูกเจ้าหน้าที่พูดจาในลักษณะการใช้น้ำเสียงอยู่บ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม แพทย์หญิงกชพร อินทวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงดาว เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางผู้บริหารได้มีการเรียกตัวของหมอที่อยู่เวรและปรากฏอยู่ในคลิป มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากความเครียด เนื่องจากโรงพยาบาลเชียงดาวได้รับผู้ป่วยโควิด-19 สีเหลือง และสีส้ม มาเข้ารับการรักษา ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ค่อนข้างที่จะทำงานหนัก และมีความเครียด

เหตุการณ์ดังกล่าว คาดว่าน่าจะมาจากความเครียดของคุณหมอ ที่ต้องทำงานอย่างหนัก ซึ่งตนก็ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ตอนนี้ได้ส่งทีมแพทย์พยาบาลเข้าไปดูแลผู้ป่วยรายนี้ที่บ้านแล้ว