กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “เจ๊ม้อยV plus” โพสต์คลิปวิดีโอขณะที่กลุ่มชาวบ้านหลายคนแย่งกันจองคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมระบุข้อความว่า “#ควรมีการจัดระบบ ในการเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันคลัสเตอร์ด้วยนะคะ เข้าใจทั้งประชาชนและทีมแพทย์ คนอาจมาเยอะจนไม่ทันตั้งตัว เพราะวัคซีนมีแค่ 400 แต่คนมาเป็นพัน กำแพงเพชร สงสารคนแก่ เห็นแล้วหดหู่กลับบ้านเถอะ วัคซีนพระราชทาน มาเพื่อวัคซีนแต่อาจจะได้โควิดกลับบ้าน ไม่มีการจัดระบบ ต้องเข้าใจด้วยมีแต่คนที่อยากฉีดวัคซีนดี ๆ กันทั้งนั้ คุณจะมาพูดว่า : ฉันไม่คิดว่าคนจะมาเยอะขนาดนี้นี่ไม่ได้”
ล่าสุดวันที่ 13 ต.ค. 64 น.ส.ชบา ไชยเชษฐ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานระบาด รพ.ปางศิลาทอง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าได้ประชาสัมพันธ์ออกไปเฉพาะกลุ่มที่ขึ้นทะเบียนไว้ โดยให้ผู้นำชุมชนไปสำรวจและมีการส่งรายชื่อมาขึ้นทะเบียนไว้ แต่ประชาชนได้รับทราบข่าวที่มีความคาดเคลื่อนว่า สามารถเดินทางวอล์กอินเข้ามารับบัตรคิวเพื่อฉีดวัคซีนได้เลย จึงพากันมารอรับบัตรคิวตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ซึ่งมีประชาชนเดินทางมารอนับพันคน
โดยมีการแจกบัตรคิวในเวลา 07.00 น. ภาพที่ออกไปคือประชาชนมารอทั่วบริเวณและแย่งบัตรคิวจากมือของเจ้าหน้าที่ที่ยืนแจกอยู่บริเวณริมหน้าต่าง ซึ่งก็เกิดความวุ่นวายขึ้นจริง แต่เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น จากนั้นก็สามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้ตามปกติ และได้มีการแจ้งกับประชาชนว่า สามารถรอสรุปวันนี้ตอนบ่ายว่าจะมีเหลือเท่าไร หากมีเหลือประชาชนที่รออยู่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ จึงทำให้ยังคงมีประชาชนบางส่วนรออยู่ในบริเวณโรงพยาบาล
น.ส.วิภาดา ม่วงมา อายุ 27 ปี ชาวอ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร กล่าว่า ตนเดินทางมากับครอบครัว รวม 4 คน ตั้งแต่เวลา 04.00 น. โดยอสม.มาบอกที่บ้านว่าจะมีการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์ม ตนไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ ตอนนั้นตนอยู่ในจุดแจกบัตรคิว ทุกคนก็แย่งกันวุ่นวายไปหมด ซึ่งตนก็ได้ตะโกนให้ออกไป ๆ อย่าเบียดกัน เพราะมีเด็กที่อยู่ใกล้ ๆ กำลังโดนเบียด กลัวว่าจะเกิดอันตราย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี วิดีโอคอลไปหา น.ส.บิว (นามสมมติ) อายุ 29 ปี คนถ่ายคลิป เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. ที่ผ่านมา ที่รพ.ปางศิลาทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ชาวบ้านแย่งกันหยิบบัตรคิววัคซีนซิโนฟาร์ม
โดยก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลได้ประกาศให้ประชาชนวอล์กอินไปฉีดวัคซีน โดยมีโควตาวัคซีน 400 โดส ซึ่งเมื่อตนทราบข่าว ตน และแฟน รวมถึงน้องสาว ก็เดินทางไปรอคิวตั้งแต่เวลา 05.00 น. แต่เมื่อไปถึง รพ.ปางศิลาทอง ก็พบว่ามีทั้งคนแก่ ผู้ใหญ่ และเด็ก มารอจองคิวถึง 1,000 คน บางคนก็มารอตั้งแต่กลางคืน โดยในช่วงเวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ประกาศให้เข้าแถว 3 แถวเพื่อรอรับบัตรคิว แต่กลับมีบางคนที่ไม่ยอมเข้าแถวและวิ่งกรูกันเข้าไปแย่งบัตรคิว
กระทั่งเจ้าหน้าที่เริ่มจัดการไม่ไหว ต้องประกาศอีกรอบ โดยประกาศให้ตั้งแถว 4 แถว ซึ่งในแต่ละแถวจะมีบัตรคิว 100 ใบ หลังจากนั้นผู้คนก็วิ่งกระจายกันไปตั้งแถว โดยที่ไม่ได้เรียงคิวว่าใครมาก่อนหรือหลัง ตอนนั้นชุลมุนไปหมด ตนก็ยืนอัดอยู่กับคนประมาณ 200 คน ซึ่งในใจก็ไม่คิดอยากจะฉีดวัคซีนแล้ว แต่ก็ออกไปไหนไม่ได้ เพราะตนที่อยู่ตรงกลางก็หนีออกจากตรงนั้นไม่ได้ เนื่องจากคนเข้าแถวอัดกันเต็มไปหมด จึงตัดสินใจถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ซึ่งสุดท้ายตนก็ไม่ได้ฉีดวัคซีน และคิดว่ายังเสี่ยงติดโควิด-19 อีกด้วย เนื่องจากไปยืนอัดกันอยู่เป็นร้อยคน ตนสังเกตว่าสถานที่ของโรงพยาบาล สามารถรองรับคนได้ประมาณ 500 คนเท่านั้น แต่กลับมีประชาชนมากถึง 1,000 คน ทำให้สถานที่รองรับไม่ไหว
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกหดหู่ใจที่ประชาชนต้องไปแย่งกันฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบนี้ ในตอนเกิดเหตุมีทั้งคนแก่ที่ไม่มีเรี่ยวแรงและเด็กเล็กอัดกันอยู่ ซึ่งตนมองว่าถ้าโรงพยาบาลจัดการระบบฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ดีกว่านี้ เหตุการณ์ดังกล่าวก็คงไม่เกิดขึ้น เพราะโรงพยาบาลไม่มีระบบให้ประชาชนลงทะเบียน ไม่มีการนัดวันฉีด แค่ประกาศให้คนวอล์กอินไปลงทะเบียน และด้วยความที่ประชาชนอยากได้วัคซีนดี ๆ ที่ไม่ใช่ซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า ทำให้คนที่ทราบข่าวไปกันเยอะขนาดนี้
