ส่อฆาตกรรม! ฝรั่งทืบโจรตายถูกแฉเมียโทรชวนมาบ้าน อึ้งคนตายบูชารักเมียฝรั่ง (คลิป)

กรณีเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ต.ค. 64 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี, พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี, พ.ต.ท.นพดล วิเศษศรี รองผกก.สส.หน.สภ.นาข่า, พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทร์กอง รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี, ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำกำลังตำรวจควบคุมตัว นายรูดอล์ฟ โยโซฟ ผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมอาวุธปืนสั้นขนาด .38 มีกระสุนอยู่ในลูกโม่ 5 นัด และปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที นั้น

ช่วงเช้าวันนี้ 4 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุที่บ้านขมิ้น ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ บ้านหลังดังกล่าวมีเพื่อนบ้านแค่ 1 หลัง คือบ้านของแม่ยายผู้ก่อเหตุ เนื่องจากผู้ก่อเหตุและภรรยา มาปลูกบ้านในไร่ ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร

นายรูดอล์ฟโยโซฟ ผู้ต้องหา ได้รับการประกันตัวออกมาเมื่อเช้าวันนี้ และได้ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.30 น. ตัวเองได้นั่งดื่มกาแฟที่โต๊ะไม้ด้านหลังบ้าน ส่วนภรรยาหลังจากกลับจากดื่มสังสรรค์ก็ได้เข้าไปนอนในบ้าน และตอนเกิดเหตุภรรยาก็นอนหลับไปแล้ว

จากนั้น ตัวเองก็ได้ยินเสียงรถมอเตอไซค์มาจอดที่ถนนหน้าบ้าน พร้อมกับมีเสียงหมาเห่า สักพักหนึ่งตัวเองก็เห็นนายเสถียร ผู้เสียชีวิต ปีนกำแพงปูนมาจากด้านหลังบ้าน และใช้ปืนจ่อมาหาตัวเองพร้อมกับพูดว่า "money money" จากนั้นตัวเองจึงทำท่าทีแหงนมองไปบนหลังคาบ้าน ทำให้นายเสถียรเขามองตามตัวเอง ตัวเองจึงใช้จังหวะที่นายเสถียรเผลอ เข้าไปแย่งอาวุธปืนจากมือนายเสถียร และจับนายเสถียรทุ่มลงกับพื้น จากนั้นก็มีการแย่งปืนขณะกำลังแย่งปืนกัน ปืนเกิดลั่น 1 นัด แต่ไม่ถูกใคร ตัวเองจึงแย่งปืนจากผู้ตาย โยนทิ้งไปที่สระน้ำข้างบ้าน จากนั้น ก็มีการชกต่อยผู้ตาย จนผู้ตายหมดสติ

ตัวเองขอยืนยันว่าตัวเองทำไปเพราะป้องกันตัว ไม่ได้ต้องการเอาให้ถึงตาย ที่ต่อยนายเสถียรจนหมดสติ และใช้เชือกมัดมือมัดเท้าเขานั้น เพราะเกรงว่าถ้าเขาฟื้นขึ้นมา เขาอาจทำร้ายตัวเองได้อีก จึงทำให้เขาหมดสติ

หลังก่อเหตุตัวเองได้ไปปลุกภรรยา และมีการไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน กระทั่งมาพบว่านายเสถียรเขาได้เสียชีวิตแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวเองก็รู้สึกตกใจ และยังกังวลถึงความปลอดภัย กลัวครอบครัวผู้เสียชีวิตเขาจะมาทำร้าย และตั้งแต่เกิดมาตัวเองก็ไม่เคยชกต่อยหรือทำร้ายใครมาก่อน

หลังให้สัมภาษณ์ผู้ต้องหาและภรรยาก็ได้พาทีมข่าว ไปดูจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณด้านหลังบ้าน พบคราบเลือดของผู้ตายบางส่วนติดตามผนังปูน และมีบ่อน้ำจุดที่ผู้ก่อเหตุเขวี้ยงอาวุธปืนไปทิ้ง อยู่ข้างบ้านของผู้ก่อเหตุ

ความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายรูดอล์ฟ โยโซฟ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ช่วงเช้าวันนี้ภรรยาผู้ก่อเหตุได้ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 300,000 บาท ในการประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งศาลก็ได้ให้ประกันตัว

ด้านนางลักษณ์ สารีรูป อายุ 44 ปี ภรรยานายรูดอล์ฟ โยโซฟ เปิดเผยว่า ส่วนตัวก็รู้จักกับผู้เสียชีวิต โดยรู้จักธรรมดาทั่วไป เพราะเคยดื่มกินเหล้าด้วยกัน ไม่เคยมีเรื่องชู้สาวด้วยกันกับคนตาย ตัวเองคิดว่าที่นายเถียร ผู้เสียชีวิต เขามาที่บ้านตัวเอง เขาน่าจะประสงค์ชิงทรัพย์ เพราะจากการสอบถามสามีชาวต่างชาติ เขาก็บอกว่าตอนผู้เสียชีวิตปีนกำแพงเข้ามาที่บ้านตัวเอง เขาถือปีนจี้สามี แล้วพูดคำว่า "money money"

โดยตอนนี้สามีชาวต่างชาติยังอยู่ในอาการที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เท่าที่สอบถามสามีเขาก็บอกว่าเขาก่อเหตุเพราะป้องกันตัว ไม่ได้ตั้งใจเอาให้ถึงตาย ตนยืนยันว่าตอนเกิดเหตุไม่เห็นเหตุการณ์ ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงปืน ตัวเองนอนอยู่ในบ้าน เพราะเมาหนัก

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังป่าช้าวัดดอนเค็ง ต.สร้างแป้น อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี สถานที่ตั้งศพของนายเสียร ผู้เสียชีวิต นางขัน จันทรขันตรี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันเกิดเหตุตัวเองเชื่อว่าลูกชายไม่ได้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์แต่อย่างใด แต่ลูกชายน่าจะไปหาภรรยาฝรั่ง เนื่องจากลูกชายเขาคบหากับภรรยาฝรั่งได้ประมาณ 2 ปี

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ลูกชายหลักรักเมียฝรั่งคนดังกล่าวมาก มีวัว 12 ตัว ก็ขายวัวเอาเงินไปพาเขาซื้อกิน ตัวเองยกที่นาให้ลูกชาย 6 ไร่ เมื่อ 1 เดือนที่แล้วลูกชายขายนาไปแล้ว 2 ไร่ ได้เงินมา 500,000 บาท ลูกชายก็ไปอยู่กินกับผู้หญิงคนดังกล่าวนั้น ตัวเองเคยเตือนลูกชายเรื่องผู้หญิงคนนี้แล้วหลายครั้ง แต่ลูกชายก็ไม่เคยฟัง ตัวเองเชื่อว่าไม่มีวันเกิดเหตุไม่มีทางที่ลูกชายจะไปจี้ชิงทรัพย์ คิดว่าเขาใส่ร้ายลูกชายตัวเอง

และที่ภรรยาฝรั่งเขาให้การณ์ว่าเขาไม่รู้จักลูกชายเป็นการส่วนตัว ตัวเองก็อยากถามเขาว่าแล้วที่ผ่านมาคืออะไร ทำไมเขาต้องมาอยู่กินกับลูกชายตัวเองที่บ้านตัวเองด้วย ตัวเองอยากให้ภรรยาฝรั่งเขาพูดความจริงออกมา เพราะวันเกิดเหตุ ภรรยาฝรั่งเขาเป็นคนโทรนัดให้ลูกชายไปหาเขา ตัวเองก็มีพยานยืนยันตอนที่เห็นลูกชายคุยโทรศัพท์กับภรรยาฝรั่งด้วย

ด้านนางหน่อย (นามสมมติ) ญาติของผู้เสียชีวิต ป็นผู้ที่นั่งดื่มเหล้ากับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้ายนั้น เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.00 น. ตัวเองและนายเสถียร ผู้เสียชีวิต ได้นั่งดื่มกินเหล้ากันที่กระท่อมปลายนากับนายเสถียร 2 คน เวลาประมาณ 14.00 น. นางลักษณ์ ภรรยาฝรั่งได้โทรศัพท์มาหานายเสถียรรอบแรก และนายเสถียรเขาก็ได้นอนพูดคุยโทรศัพท์กับนางลักษณ์บนกระท่อมปลายนาอยู่สักพัก ก่อนที่จะวางสายไป

จากนั้น นางลักษณ์ได้โทรศัพท์มาหานายเสถียรเป็นรอบที่ 2 โดยบอกว่า "ป๋า มาบ้านหนูนะ" จากนั้นตัวเองก็เดินทางกลับบ้าน เพราะคิดว่านายเสถียรเขาคงเดินทางไปหานางลักษณ์ที่บ้านต่อ และตัวเองคาดว่าเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 2 ต.ค. 64 นายเสถียรน่าจะขับรถมอเตอไซค์พ่วงข้างไปหานางลักษณ์ที่บ้าน กระทั่งตัวเองมาทราบข่าวว่านายเสถียรเสียชีวิต ในเช้าวันที่ 3 ต.ค. 64

โดยที่ผู้ก่อเหตุชาวต่างชาติและภรรยาของเขาให้ข่าวว่าผู้ตายจะเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ ตัวเองคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะนายเสถียร ไม่เคยมีนิสัยชิงทรัพย์ใครมาก่อน นายเสถียรเป็นคนรักใครรักจริง เป็นคนรักพี่น้องเพื่อนฝูง และดีกับทุกคน เวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนนายเสถียรเขาก็เป็นคนออกเงินซื้อ ตัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมฝรั่งผู้ก่อเหตุเขาถึงให้การแบบนั้น และที่ผ่านมานางลักษณ์เขาก็มากินเหล้า มาหานายเสถียรที่กระท่อมปลายนาอยู่ตลอด

ด้านนางสาวนิด (นามสมมติ) อดีตภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่านายเสถียร อดีตสามีตัวเองเสียชีวิต ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจมาก โดยตัวเองเลิกรากับสามีได้ประมาณเดือนกุมพาพันธ์ สาเหตุที่เลิกรากับสามี เพราะว่าสามีมีผู้หญิงคนใหม่ ตัวเองขอยืนยันว่าภรรยาฝรั่งเขาไม่ได้เป็นแค่คนรู้จักกับสามีตัวเอง แต่ตัวเองทนพฤติกรรมเขาทั้งคู่ไม่ไหว จึงเสียสละสามีให้เขา

เมื่อต้นปี 2563 นายเสถียร สามีตัวเองเริ่มพานางลักษณ์ ภรรยาฝรั่ง มาเย้ยตัวเองถึงในบ้าน ถึงขั้นมานอนที่บ้านตัวเอง บางครั้งก็มาพากันมาทำกิจกรรมบางอย่างที่บ้านตัวเอง วันเกิดเหตุ 2 ต.ค. 64 ตัวเองคิดว่าสามีไม่น่าจะไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ คิดว่าภรรยาฝรั่งด้วยความที่เขาเป็นคนที่ชอบเล่นบางอย่าง อาจมีการโทรให้สามีตัวเองเอาเงินไปให้เขาที่บ้านหรือไม่ ส่วนตัวแล้วตัวเองไม่เคยพูดคุยกับนางลักษณ์เป็นการส่วนตัว แต่เคยคุยกับสามีว่าตัวเองไม่อยากอยู่แบบมีภรรยา 2 คน จึงให้สามีเป็นคนเลือกว่าจะอยู่กับใคร แต่สามีไม่เลือก ตัวเองจึงขอเดินออกจากชีวิตสามี และไม่ได้ติดต่อกับสามีอีกเลย

ตั้งแต่สามีไปรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ สามีได้ทยอยขายวัวหมดไป 12 ตัว หมดไปกับผู้หญิงคนนั้น และสามีแบ่งให้ตัวเองแค่เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งตัวเองก็รู้สึกเสียใจ เพราะวัวทั้ง 12 ตัว ตัวเองก็เป็นคนเลี้ยงมากับมือ โดยวัวขายได้ตัวละประมาณ 44,000 บาท รวมเป็นเงิน 528,000 บาท