
สาววัย 28 เสียชีวิตที่ปอยเปต ร่างถึงไทยแล้ว แต่ต้องจ่ายให้กัมพูชาค่าดำเนินการต่างๆถึง 146,000 บาท ด้านครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
จากเหตุการณ์ที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน(IMF)ได้ เปิดเผยว่ามีหญิงไทยผูกคอเสียชีวิตอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่งในเมืองปอยเปต ต.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งหญิงคนดังกล่าวบ้านเกิดอยู่ที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา วันที่ 3พฤศจิกายน2568 ทราบชื่ วคือน.ส.สุธาทิพย์ สุขรอด หรือมินท์ อายุ 28 ปี ชาว ต.บางน้ำเปรี้ยว อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งนายสมพงษ์ ศรีสุรักษ์ อายุ32ปีสามีของผู้เสียชีวิต และน.ส.ส้ม เมตรักษ์ อายุ78ปี ย่าของผู้เสียชีวิตซึ่งทั้ง 2 ได้เดินทางไปติดต่อขอศพที่ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
แต่เจ้าหน้าที่ทางฝั่งประเทศกัมพูชา ได้แจ้งว่าร่างของน.ส.สุธาทิพย์ ถูกนำไปผ่าชันสูตร ที่โรงพยาบาลในเมืองปอยเปต หากผ่าชันสูตรเสร็จสิ้นแล้ว จะติดต่อให้ญาติมาดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งสามีและญาติของผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิตของน.ส.สุธาทิพย์เพราะทราบดีว่า น.ส.สุธาทิพย์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ส่วนสาเหตุที่เกิดความเครียดจนก่อเหตุคิดสั้น นั้นเนื่องจากเงินที่ น.ส.สุธาทิพย์ ทำงานเก็บไว้ทั้งหมดได้หายไป ขณะกำลังจะกลับห้องพัก และมีกำหนดจะกลับมาเมืองไทยเพื่อลอยกระทงกับลูกสาววัย 3 ขวบ อีก 2 วัน จากนี้จึงอาจจะทำให้น.ส.สุธาทิพย์ เกิดอาคารเครียดก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งสามีและญาติๆ ต้องการให้เจ้าหน้าที่ส่งร่าง น.ส.สุธาทิพย์กลับมาเมืองไทยให้เร็ว ที่สุดเพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนา
ล่าสุดวันนี้(15พ.ย.68)นางสุภาพร สุขรอด อายุ32ปี นายสมพงษ์ ศรีสุรักษ์ และน.ส.ส้ม เมตรักษ์ พี่สาวสามี และย่าของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปยังจังหวัดสระแก้ว เพื่อติดต่อขอรับร่างน.ส.สุธาทิพย์ นำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางน้ำเปรี้ยว ตำบลบางน้ำเปรี้ยว อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งญาติๆที่อยู่ทางนี้ก็ได้มาเปิดศาลาทำความสะอาดโต๊ะเก้าอี้ เพื่อรอร่างของ น.ส.สุธาทิพย์ ที่เดินทางมาถึงในเวลา15.00น. นางสุภาพรพี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สาเหตุที่รับร่างน้องสาวกลับมาที่เมืองไทยล่าช้านั้น เพราะสามีของน้องติดต่อสถานทูตไม่ได้ พยายามติดต่อศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน(IMF) มาโดยตลอด ในการรับร่างน้องสาวกลับมาประเทศไทย
กระทั่งวันที่ 7 พฤศจิกายน ตนเองเดินทางมาจากสวิตซ์เซอร์ จึงได้ค้นหาเบอร์ติดต่อสถานกงศุลไทยที่เมืองเสียมราฐ แต่ทางด้านกงสุลที่เมืองเสียมราฐ แจ้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเมืองปอยเปต แต่จะช่วยทำการประสานงานให้กับสถานทูต โดยทางสถานทูตแจ้งสาเหตุที่ล่าช้า เพราะเป็นไปตามขั้นตอนของฝั่งประเทศกัมพูชา และได้กล่าวขอโทษครอบครัวของตน
ซึ่งการประสานงานครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากฝั่งไทย ช่วยดำเนินการจึงสามารถนำร่างน้องกลับมาได้ โดยเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 11 โมง ทางกงสุลได้แจ้งกลับมาว่า เอกสารออกแล้วสามารถนำร่างน้องสาวกลับมาประเทศไทย ได้ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของน้องสาวนั้น ตนเองสามีของน้อง และญาติๆไม่ได้ติดใจ เพราะทราบดีว่าน้องป่วยซึมเศร้า ซึ่งใบชันสูตรเป็นภาษากัมพูชา แต่จากการดูภายนอกตามร่างกายของน้องนั้นไม่มีร่อยรอยการถูกทร้ายแต่อย่างใด
ทั้งนี้การนำร่างน้องสาวกลับมาต้องเสียเงินให้ฝั่งประเทศกัมพูชา ในค่าดำเนินการต่างๆถึง4,450USD หรือประมาณ146,100บาท โดยมีเพื่อนๆที่ทำงานPRอยู่ฝั่งกัมพูชา ได้ช่วยเรี่ยไรเงินจำนวนหนึ่ง และเงินของตนเองในการนำร่างน้องสาวกลับมา
ทั้งนี้ตนเองไม่ต้องการเรียกร้องอะไรแล้ว แค่ต้องการร่างของน้องสาวกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดบ้านเกิดเพราะคิดว่าน้องคงคิดถึงบ้านคิดถึงลูกสาว และสามี โดยจะตั้งร่างน้องประกอบพิธีทางศาสนาจำนวน 3 คืนและจะทำการฌาปนกิจ ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้
Advertisement