
จากกรณี น.ส.กนกวรรณ หรือ น้องใบหม่อน อายุ 27 ปี พลัดตกตึกเสียชีวิต ในฝั่งปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา เหตุเกิดช่วงประมาณ 9 โมงวานนี้ (29 ต.ค. 2568) โดยสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ว่าเกิดจากอะไร แต่จากข้อมูลพบว่า อาคารที่เกิดเหตุ มีการทำธุรกิจเกี่ยวกับการเทรดหุ้น
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของ น้องใบหม่อน ผู้เสียชีวิต ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยได้ไปพูดคุยกับ นายศรายุทธ หรือ น้าเข้ม อายุ 50 ปี น้าชายของน้องใบหม่อน เปิดเผยว่า น้องใบหม่อน เกิดและเติบโตอยู่ที่บ้านใน จ.ขอนแก่น จนอายุได้ประมาณ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 แม่ของน้องได้ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ และพาน้องไปอยู่ด้วย จากนั้นน้องก็ได้ย้ายตามแม่เรื่อยไป ทราบว่า จากกรุงเทพฯ ได้ย้ายไปที่ จ.ภูเก็ต และ จ.ตรัง แล้วหลังจากนั้นตัวเองก็ไม่ทราบความเคลื่อนไหวของน้องใบหม่อน อีกเลย
น้าเข้ม บอกว่า ช่วงบ่ายวานนี้ ตัวเองเพิ่งทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องใบหม่อน หลานสาว ซึ่งพี่สาวของตัวเอง คือ แม่น้องใบหม่อน เป็นคนโทรศัพท์มาบอก วินาทีที่ได้ยินข่าวหลานสาว รู้สึกตกใจและช็อคจนเกือบจะทำงานไม่ได้ เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับหลาน
น้าเข้ม บอกว่า ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่รู้สาเหตุการเสียชีวิตของน้องใบหม่อน จึงยังไม่มีการพูดคุยหรือตั้งข้อสงสัยในประเด็นการเสียชีวิต โดยมีการพูดคุยกัน เรื่องการรับศพน้องใบหม่อน มาทำประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น ซึ่งล่าสุดก็ทราบว่า เพื่อนของน้องใบหม่อน ที่อยู่ในฝั่งกัมพูชา จะเป็นคนดำเนินการเรื่องรับศพให้ และจะพามาส่งที่บ้านเกิดในจังหวัดขอนแก่น ส่วนแม่ของน้องใบหม่อน อยู่ระหว่างเดินทางจาก จ.ตรัง มาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อจัดการงานศพของลูกสาว คาดว่าร่างของน้องใบหม่อน จะมาถึงในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ และทางครอบครัวจะตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดวุฒาราม จ.ขอนแก่น
ต่อมาทีมข่าวได้นำภาพศพน้องใบหม่อน ให้น้าเข้ม ดู เพื่อตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเสียชีวิตของหลานสาว โดยน้าเข้ม น้ำตาซึม พร้อมยอมรับว่าหากมองจากภาพนี้ ก็น่าสงสัย ว่า คนตกตึกทำไมถึงไม่มีเลือดออก ซึ่งก็อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยทำการตรวจสอบเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับหลานสาว
ส่วนสาเหตุที่หลานสาว ไปทำงานที่ปอยเปต นั้น ยืนยันว่า ตัวเองไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน และไม่รู้เลยว่าหลานสาวไปทำงานอะไร
Advertisement