
จากกรณี เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 14 พ.ย. 68 น.ส.ศิริณภา อายุ 24 ปี ถูกแก๊งชาวต่างชาติร่วมกับชายไทย 2 คน หญิงไทย 2 คน อุ้มหายหน้าตึกอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ช่วงกลางดึกวันที่ 14 พ.ย. 68 โดยผู้เสียหายได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือถึงลุงซึ่งเป็นตำรวจ แต่ติดต่อได้เพียงสั้นๆ ก่อนสัญญาณจะขาดหายไป
ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพรถเก๋งสีเทา ที่คนร้ายใช้พาหลบหนี เจ้าหน้าที่เร่งสกัดจับแต่ยังไม่พบเบาะแส พร้อมกระจายกำลังสายสืบไล่ล่ากลุ่มคนร้ายและติดตามช่วยเหลือผู้ถูกอุ้มอย่างเร่งด่วน
ล่าสุดเวลา 01.00 น. ของวันที่ 15 พ.ย. 68 พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมกำลังชุดสืบสวน ได้ร่วมกันสืบสวนจนสามารถติดตามตัว MR. Kao Lian Cheng อายุ 33 ปี สัญชาติไต้หวัน พร้อมกลุ่มคนไทย 4 คน ได้แก่ น.ส.สุภาวดี อายุ 25 ปี น.ส.จิราภรณ์ อายุ 25 ปี นายศุภณัฐ อายุ 23 ปี นายพรเทพ อายุ 32 ปี
หลังจากติดตามกดดันจนทั้งหมดติดต่อเดินทางเข้ามอบตัว ส่วน น.ส.ศิริณภา ที่ถูกอุ้มพบว่าบริเวณใบหน้าถูกทำร้ายจนตาปิด ฟกช้ำและบวมปูด โดยทั้งหมดจะมีการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถาม MR. Kao Lian Cheng อายุ 33 ปี สัญชาติไต้หวัน ผู้ก่อเหตุ ทราบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเคยคบหากับตนประมาณ 6 เดือน ขณะอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ก่อนขอยืมเงินประมาณแสนกว่าบาท โดยบอกว่าจะไปดำเนินการเรื่องวีซ่าทำงานที่ไต้หวัน ต่อมาหญิงดังกล่าวบินกลับไทย และเกิดการทะเลาะกัน เมื่อทวงเงินก็ถูกบ่ายเบี่ยง จึงตัดสินใจนั่งเครื่องบินมาทวงเงินแสนบาทคืน โดยเดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 68 จากนั้นได้ติดต่อ น.ส.สุภาวดี ซึ่งเป็นแฟนสาว ให้ขับรถไปรับเพื่อทวงเงิน โดยมีเพื่อนทั้งหญิง และชายร่วมเดินทางไปด้วย ด้วยความโมโหจึงลงมือทำร้ายด้วยการชกต่อย ก่อนพาผู้เสียหายขึ้นรถเก๋ง และบังคับให้ติดต่อญาตินำเงินมาชดใช้แทน
นายพรเทพ หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เพื่อนได้ติดต่อให้ไปเป็นเพื่อน เพื่อติดตามทวงเงิน จึงอาสาไปด้วย โดยมีนายศุภณัฐขับรถพาไป ต่อมามีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น และเมื่อพาขึ้นรถแล้ว ตนจึงบอกให้แยกย้ายกัน ก่อนตนจะพาผู้เสียหายกลับมาที่บ้าน จากนั้นได้ติดต่อญาติผู้เสียหายมารับกลับบ้าน จนตำรวจติดต่อมา จึงเดินทางมามอบตัวดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงผู้เสียหายรู้จักกับชายไต้หวันมาก่อน และมีประเด็นหนี้สิน วันนี้ผู้ต้องหาชาวไต้หวันร่วมกับคนไทยเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุและทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย โดยชาวไต้หวันเป็นผู้ลงมือทำร้ายหญิงไทย ทั้งหมดทราบล่วงหน้าว่าผู้เสียหายจะอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ และร่วมกันนำตัวขึ้นรถ เพื่อข่มขู่ให้ญาตินำเงินมาชดใช้ พร้อมขู่ญาติว่า หากไม่ให้เงินจะเกิดเรื่องไม่ดีกับผู้เสียหาย
ในส่วนผู้ต้องหาชาวไต้หวัน ถูกแจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายสาหัส” โดยต้องรอผลแพทย์ยืนยันอีกครั้ง ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุทั้งชาวไต้หวันและชาวไทยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง” และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยทุกคนที่รู้เห็นจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด ไม่มีการยกเว้น
Advertisement