แม่ร้อง ลูกสาวตกขุมนรกถูกหลอกไปทำงานปอยเปต ยังไม่รู้ชะตากรรม
สาวตกขุมนรกถูกหลอกไปทำงานปอยเปต ยังไม่รู้ชะตากรรม ติดต่อลูกครั้งสุดท้ายบอก "แม่ช่วยหนูด้วยหนูถูกจับ" หลังพยายามข้ามคลองหนีตาย แต่ข้ามไม่ได้โดนจับกลับไปอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (20 ต.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกรวีร์ สาราคำ สส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 จ.อุดรธานี และนายภาณุมาศ จิตวศินกุล เพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้เดินทางไปพบ น.ส.อวยพร ผการัตน์ อายุ 58 ปี ชาวบ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังขอความช่วยเหลือแจ้งว่า น.ส.นฤมุล จันดาดาล หรือ “น้ำเต้า” อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งสแกมเมอร์ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่พอบัญชีตายได้ส่งตัวกลับมา ในขณะที่กำลังข้ามคลอง แต่น้องน้ำเต้า ถูกทหารกัมพูชาจับ ตอนนี้ไม่รู้ชะตากรรม อยากจะวิงวอนขอความช่วยเหลือ ตอนนี้ทุกข์ใจมาก หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่คนไม่ได้นอนไม่หลับ
น.ส.อวยพร บอกว่าแต่ก่อนลูกสาวทำงานอยู่ในห้างดัง ใน จ.อุดรธานี แต่ถูกหลอกไปทำงานที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อต้นเดือน ก.ย.68 ที่ผ่านมา ตอนแรกตนเองไม่รู้มารู้อีกทีตอนที่ลูกสาวโทรมาบอกว่าแม่หนูอยู่ จ.สระแก้ว หนูถูกหลอกไปทำงาน แต่ตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว และในช่วงวันที่ 10 ต.ค.68 ที่ผ่านมา ทราบว่าพวกแก๊งสแกมเมอร์ได้ปล่อยตัวลูกสาว และเพื่อนอีก 2-3 คน จึงได้พากันหนีออกมา
โดยข้ามคลองน้ำกับเพื่อนชื่อไอซ์ ไอซ์ข้ามมากลางคลองทหารไทยมาช่วยไว้ได้ แต่ลูกสาวเกิดเหยียบลวดหนาม ทำให้ร้องเสียงดัง ทหารกัมพูชาจึงจับตัวไป หลังทราบข่าวลูกสาวถูกจับหัวอกคนแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับ หัวใจสั่นร้องไห้แทบทุกคืน ตอนนี้อยากให้ลูกปลอดภัย ที่ผ่านมาก็ประสานความช่วยเหลือทุกหนทาง และมีคนติดต่อมาว่าทหารกัมพูชาเรียกค่าไถ่ลูกสาว 20,000 บาท แต่มีคนหวังดีบอกว่าอย่าเพิ่งจ่ายให้ จ่ายไปแล้วไม่รู้จะได้ลูกสาวกลับมาหรือไม่ ทำให้ตนเองไม่กล้าโอนเงินไป ได้คุยกับลูกครั้งสุดท้ายลูกสาวบอกว่า ติดคุกอยู่แม่ช่วยหนูด้วย หนูอยากกลับบ้าน ได้ยินเสียงลูกหัวใจแม่แทบสลาย ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร หรือจะถูกส่งไปขายต่อที่ไหนก็ไม่รู้ อยากจะวิงวอนให้ช่วยเหลือลูกสาวด้วย
ด้านนายกรวีร์ สาราคำ สส.เขต 5 จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้ให้คุณแม่อวยพรเขียนคำร้องขอความช่วยเหลือ โดยตนเองที่เคยทำงานอยู่กรรมธิการต่างประเทศ จะได้รีบนำหนังสือของคุณแม่ส่งตามหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้น้องกลับมาสู่อ้อมอกของแม่ให้เร็วที่สุด เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ที่ลูกไปตกระกำลำบาก
ขณะเดียวกัน นายบอล ชาว จ.อุดรธานี หนึ่งในคนไทยที่หลอกไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มเดียวกันกับน้องน้ำเต้าหนีตายอกมาได้ บอกว่าต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ตนก็อยากหางานทำ แต่สุดท้ายรู้ว่าถุกหลอกไปฝั่งปอยเปต พอไปถึงปรากฏว่าไม่ใช่งานที่ประกาศไว้อย่างที่คิด เขาให้ตนดูแลเพจขายมือถือ สั่งจองมือถือรุ่นใหม่รอรับเครื่องได้เลย พอมีเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะให้แอดไลน์ยืนยันที่อยู่แล้วชวนให้เล่นกิจกรรม ใครหลงเชื่อก็จะถูกหลอกสูญเงิน ตอนที่พวกตนทำงาน เหมือนรู้สึกว่าตนเป็นวัว ทำงานตั้งแต่เช้าเลิกงาน 5 ทุ่ม เขาจะเอาข้าวมาให้ เลิกงานก็ไปนอน ตื่นมาก็ต้องทำงาน
ช่วงที่ไปถึงวันแรกถูกยึดมือถือและพวกแก๊งสแกมเมอร์ได้ให้เปิดบัญชีคนละ 4-5 บัญชีก่อนข้ามไป ไปอยู่เกือบเดือนบัญชีพวกตนตาย บัญชีตายคือบัญชีถูกระงับก็จะหมดความหมาย ก็จะถูกส่งกลับ ยังดีที่พวกตนถูกส่งกลับ บางคนถูกนำไปขายต่อ ช่วงที่ทำงานตนก็เคยถูกทำร้ายใช้ไฟช็อต วิดพื้น และใช้ไม้เฆี่ยนตี จำได้พวกคนที่เฆี่ยนเป็นคนจีน สาเหตุที่ถูกทำร้ายเพราะทำยอดไม่ได้ ตนหนีตายรอดมาได้จากขุมนรกแล้ว คงไม่กลับไปอีกแน่นอน ขออดตายที่ประเทศไทยดีกว่า
อีกรายที่ถูกหลอกไปทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เป็นหญิงสาววัย 19 ปี หรือน้องมิว ชาวบ้านศรีวัฒนา ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยนายอาทิตย์ ประเวนัย อายุ 48 ปี น้าชายของ น.ส.มิว ได้มาร้องผู้สื่อข่าวขอความช่วยเหลือ เนื่องจากหลานสาว ถถูกหลอกไปทำงานที่ปอยเปต ตอนนี้ญาติๆเป็นห่วงมาก
หลานสาว เพิ่งเรียนจบปวช.ที่ อ.บ้านดุง ส่วนพ่อและแม่แยกทางกัน น้องอยูที่บ้านศรีวัฒนา โดยมีพ่อทำงานโรงงานปลากระป๋อง ที่จ.ฉะเชิงเทรา ส่งเงินมาให้ พอเรียนจบหลานสาวอยากทำงานหาเงินช่วยพ่อ พอดีมีแม่ของน้องติดต่อหาให้น้องเลยนั่งรถไปหาแม่ที่โคราช มารู้ข่าวอีกทีถูกหลอกไปทำงานปอยเปต ญาติๆเป็นห่วงน้องมิวมาก ตอนนี้อยากจะวิงวอนให้หน่วยงานช่วยเหลือด้วย
Advertisement
