วันที่ 31 ก.ค. 68 จากกรณีมีคลิปภาพโดรนปริศนาบินเหนือ โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เผยแพร่อยู่บนโลกโซเชียล หากเป็นเรื่องจริง ถือว่าเป็นการฝืนประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ที่ห้ามทำการบิน หรือปล่อยอากาศยาน ซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภทในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 68 จนถึงวันที่ 15 ส.ค. 68 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
โดยการประกาศครั้งนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งการประกาศยังระบุด้วยว่า หากผู้ใดพบเห็น หรือทราบว่ามีการบังคับหรือปล่อยโดรนที่ฝ่าฝืนประกาศนี้ให้แจ้งข้อมูลได้แก่วันเวลาสถานที่ที่พบเห็นลักษณะของโดรน และภาพถ่ายหรือคลิปวิติโอ (ถ้ามี) ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็วผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งดังนี้
1.กองพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีระบบอากาศยาน ซึ่งไม่มีนักบินฝ่ายมาตรฐานอากาศยาน ซึ่งไม่มีนักบินสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยโทรศัพท์02-568-8851หรืออีเมล[email protected]
2.ศูนย์ต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก(โดรน)กองบัญชาการตำรวจนครบาล(สตอ.น.)โทรศัพท์02-126-7846หรืออีเมล[email protected]
3.ศูนย์แจ้งเหตุใกล้พื้นที่เช่นสถานีตำรวจท้องที่หน่วยทหารหรือหน่วยความมั่นคงที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นๆ
กพท.ขอความร่วมมือประชาชนงดใช้โดรนทุกประเภทในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อร่วมกันรักษาความปลอดภัยของประเทศและสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบ นายคิตพัทร ด้วยนางรัมย์ อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาจุด อ.เฉลิมพระเกียรติ เล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงนั้นเวลาประมาณ23.00 น. ตนกับเพื่อนกู้ภัยประจำการอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลฯ ประมาณ 10 คน
จากนั้นเหลือบไปเห็นแสงไฟอยู่เหนือโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ จึงเอาโทรศัพท์ถ่ายไว้ และเชื่อว่าเป็นโดรนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังพบโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊ก และบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง
นายคิตพัทร เล่าด้วยว่า จากนั้นเห็นรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน จึงวิ่งเข้าไปถาม คนในรถตู้เปิดกระจกลงมา เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ พวกตนถามว่าจะไปไหน เขาตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถได้วิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว พวกตนพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของเขมรมาบินสอดแนมอย่างแน่นอน
Advertisement