กรณีนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" โพสต์เฟซบุ๊กแม่นักเรียน อายุ 14 ปี ร้องเรียนลูกชายถูกคู่อริใช้มีดแทงในโรงเรียนจนปอดแตก ไตฉีกขาด หลังเกิดเหตุคู่กรณียังไม่ถูกจับกุม ยังปาระเบิดเพลิงข่มขู่ ทำให้ครอบครัวผู้บาดเจ็บรู้สึกหวาดกลัวมาก
ขณะที่กล้องวงจรปิดที่โรงเรียนวันที่ 27 ธ.ค. 65 เวลา 11.13 น. รถจักรยานยนต์ขับเข้ามา 2 คัน คันแรกแม่ของผู้ก่อเหตุกับน้าชาย คันที่ 2 นายเอ ผู้ก่อเหตุขับ โดยมีรุ่นน้องอายุ 14 ปี ซ้อนท้าย
จากนั้นแม่ผู้ก่อเหตุกับผู้ก่อเหตุเดินมาหา ด.ช.หนึ่ง คนเจ็บ โดย ด.ช.หนึ่ง ถีบนายเอล้มลงไป นายเอจึงหันไปคว้ามีดจากเพื่อนที่มาด้วยกัน โดย ด.ช.บี น้องชายผู้ก่อเหตุ เสื้อแดงในคลิปทำท่าคล้ายจะช่วยหยิบมีดด้วย ก่อนที่นายเอจะวิ่งไล่แทง ด.ช.หนึ่ง จากนั้นก็วิ่งกลับมาขึ้นรถหลบหนีไปพร้อมเพื่อน
เวลา 11.18 น. กลุ่มนักเรียนวิ่งเข้าไปรุมทำร้ายแม่ผู้ก่อเหตุและ ด.ช.บี น้องชายผู้ก่อเหตุ ด้วยความโกรธแค้นที่เพื่อนถูกแทง ขณะเดียวกันคลิปมือถือหลังเกิดเหตุ นายเอ มือแทงขี่รถจักรยานยนต์พาเพื่อนหลบหนีออกจากโรงเรียน
ทีมข่าววิดีโอคอลพูดคุยกับ ด.ช.หนึ่ง (นามสมมติ) ผู้บาดเจ็บ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เล่าว่า วันเกิดเหตุแม่มือแทง เดินเข้ามาถามว่า มีปัญหาอะไรกับลูกเจ้าตัว ขณะนั้นนายเอ มือแทง เดินลงจากรถมาด้วย ตนจึงถามว่าทำไมต้องมาปาระเบิดใส่
อีกฝ่ายถามว่า มึงเป็นค-ยอะไร ก่อนที่นายเอจะเดินเข้ามาหาตน ตนจึงถีบไป นายเอจึงหยิบมีดมาจากเพื่อน โดยมีนายบี น้องชายส่งมีดมาให้ และเข้ามาแทงตน 3 ครั้งที่ท้อง ก่อนจะหนีไป
ที่ผ่านมาตนเคยมีปัญหากับนายเอ แต่ได้จับมือเคลียร์กันไปแล้ว วันก่อนเกิดเหตุนายเอ มาปาระเบิดและใช้มีดฟันรถตน ซึ่งตนก็ไม่รู้สาเหตุ ส่วนอาการของตนตอนนี้เริ่มดีขึ้น มีแผลที่ท้องและชายโครงขวา ต้องเย็บแผลที่ทะลุไปที่ตับและไต ค่อนข้างกังวลที่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้
ส่วนที่ สภ.เดิมบางนางบวช นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พานางรัตนา จันทร์แก้ว ย่าของผู้บาดเจ็บ ไปพบกับ พ.ต.อ.นิกร ด้วงฉุน ผู้กำกับการ สภ.เดิมบางนางบวช
กัน จอมพลัง ระบุว่า ได้รับร้องเรียนว่า ด.ช.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกเด็กชายอายุ 17 ปี บุกเข้าไปแทงในโรงเรียน โดยมีแม่และน้าของผู้ก่อเหตุพาเด็กเข้าไปแทงถึงในโรงเรียน หลังเกิดเหตุ ผอ.โรงเรียน บอกให้เพื่อนนักเรียนพาคนเจ็บไปส่งสถานีอนามัยเอง แต่เคราะห์ดีที่มีครูรายหนึ่งซึ่งสติดี ช่วยขับรถยนต์พาไปส่งโรงพยาบาล ตั้งข้อสังเกตว่าครูคนอื่นกลัวรถเลอะหรือไม่
โดยผ่านไป 7 วันไม่มีคนถูกจับ ซ้ำผู้ก่อเหตุยังถ่ายสตอรี่ปาระเบิดเพลิง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย มองว่าเป็นเรื่องอันตรายมาก อยากให้จับตัวผู้ก่อเหตุให้ได้ เพราะยิ่งช้ายิ่งเป็นอันตรายกับทุกคน ซึ่งตนประกาศจะช่วยครอบครัวคนเจ็บ แต่น้องชายผู้ก่อเหตุกลับโพสต์รูปปืนคู่ มองว่าเป็นการข่มขู่หรือไม่ นอกจากนี้ทราบมาว่าแม่ผู้ก่อเหตุนามสกุลเดียวกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ก็กังวลเรื่องความยุติธรรม และไปขอกล้องวงจรปิดแล้วแต่โรงเรียนไม่ให้ บอกให้ไปแจ้งความก่อน วันนี้ก็จะพาย่าผู้บาดเจ็บไปแจ้งความด้วย
พันตำรวจเอกนิกร ด้วงฉุน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเดิมบางนางบวช เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บมีปัญหา และเกิดการกระทบกระทั่งกันมาบ่อยครั้ง จนกระทั่งวันเกิดเหตุเยาวชน 16-17 ปี ที่เคยเรียนในโรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้เพียงแค่ 1 เทอม กับเพื่อนที่เป็นเด็กชายวัย 14 ปี พร้อมด้วยน้าและแม่ได้ เข้าไปที่โรงเรียนเพื่อจะไปเคลียร์ปัญหากับเด็กชายหนึ่งอายุ 14 ปี ที่ถูกทำร้าย แต่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถเคลียร์ปัญหากันได้ จึงเกิดมีปากเสียง และทะเลาะวิวาทกัน ก่อนที่เยาวชนอายุ 16-17 ปี ได้ใช้มีดแทงผู้เสียหาย และเกิดเหตุชุลมุนทำร้ายร่างกายกันระหว่าง แม่และน้าของผู้ก่อเหตุกับกลุ่มผู้เสียหาย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธมีดแทงและเพื่อนอีกหนึ่งคนจะขับขี่รถจักรยานยนต์หนีออกไป หลังเกิดเหตุตำรวจได้ไปติดตามตัวผู้ที่ก่อเหตุและทราบว่าได้หนีออกนอกพื้นที่ในวันนั้นโดยทันที
ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับเยาวชนผู้ก่อเหตุลงมือแทง และเด็กชายวัย 14 ปี เพื่อน ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ฝ่ายสืบสวนทราบเบาะแสของผู้ก่อเหตุแล้วว่าหนีไปอยู่พื้นที่ จ.ปทุมธานี อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ทางโรงเรียนที่เกิดเหตุจะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุ ในข้อหาฐานบุกรุกด้วย
ส่วนที่มีคลิปปรากฎว่าหลังเกิดเหตุแล้วผู้ก่อเหตุยังไปขว้างปาระเบิดข่มขู่ผู้เสียหายนั้น จากการตรวจสอบทราบว่าเกิดเหตุขึ้นที่ใน จ.ปทุมธานี ไม่ใช่ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ส่วนที่ผู้เสียหายตั้งข้อสงสัยว่ามีตำรวจที่ดูแลคดีมีนามสกุลเดียวกันกับผู้ก่อเหตุนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่นามสกุลเดียวกัน เป็นเพียงแค่นามสกุลที่คล้ายกัน และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
จากนั้น กัน จอมพลัง ได้โทรศัพท์คุยกับนางหน่องแม่ของนายเอ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ด.ช.บี ลูกชายคนเล็กซึ่งเรียนอยู่ชั้นม.2 โทรศัพท์มาบอกว่าถูกรุ่นพี่หาเรื่อง ให้ตนไปรับที่โรงเรียนเพราะไม่อยากมีเรื่อง ระหว่างนั้นนายเอ ลูกชายมาบอกตนว่าให้เข้าไปเคลียร์ที่โรงเรียนได้เลย มีผู้ใหญ่ชื่อโอ๊ต บอกว่าให้เข้าไปคุยกันได้ ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปพร้อมกับพี่เขย โดยนายเอ ลูกชายกับเพื่อนขี่รถตามไปด้วย
เมื่อไปถึงก็เจอ ด.ช.หนึ่ง ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มที่ชอบแกล้ง ด.ช.บี ลูกชายของตน ตนจึงเข้าไปถามว่ามีปัญหาอะไรกับลูกชายของตน ด.ช.หนึ่งก็ไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะมีการด่ากับนายเอ ลูกชายของตน และด.ช.หนึ่งก็ถีบนายเอ นายเอจึงหยิบมีดจากเพื่อนเพื่อจะวิ่งเข้าไปแทง โดยที่ ด.ช.บี ลูกชายคนเล็กพยายามจะห้าม แต่นายเอก็ไม่ฟัง วิ่งไปแทงจนอีกฝ่ายบาดเจ็บแล้วขับรถหนี
ส่วนตนกับ ด.ช.บี ที่ยังอยู่ที่เกิดเหตุก็ถูกเพื่อนของ ด.ช.หนึ่ง เข้ามารุมทำร้าย ตนไม่ได้พาลูกไปหาเรื่องคู่กรณีตามที่มีข่าว แต่แค่จะไปรับลูกชายคนเล็กเท่านั้น โดยตอนนี้ติดต่อนายเอ ลูกชายคนโตที่ก่อเหตุไม่ได้ ส่วนตัวก็อยากให้ลูกชายเข้ามอบตัวเช่นกัน หากติดต่อได้จะรีบพาลูกไปมอบตัวทันที
Advertisement