ศึกชิงคนรวยที่สุดในโลก แลร์รี เอลลิสัน โค่นบัลลังก์ตั่งทอง อีลอน มัสก์

ศึกชิงมงฯ คนรวยที่สุดในโลก ! สิ้นสุดยุค อีลอน มัสก์ จริงหรือ!?? "แลร์รี เอลลิสัน" นั่งแท่นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก "รวยที่สุดในโลก" จากอานิสงส์หุ้น Oracle ในช่วงเปิดตลาด ก่อนตำแหน่งจะอยู่ไม่นาน ตำนานกลับมาทวงบัลลังก์ตั่งทอง เพราะ..."มงกุฎนั้นไม่ใช่ของเธอ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แก๊งมิจฉาชีพเมียนมาหันใช้เน็ต Starlink ของมัสก์ หลังไทยตัดสัญญาณ

มัสก์สูญ 1.2 ล้านล้านบาทหลังปะทะทรัมป์ ถ้าทะเลาะต่อจะเสียอะไรอีก?

ส่องอิทธิพล 'ผู้อพยพ' ในวงการเทคฯ สหรัฐฯ ผ่าน CEO ที่เคยเป็นผู้อพยพ

จากข้อมูลของ Bloomberg Billionaires Index พบว่าในเช้าวันพุธ ในช่วงเปิดตลาดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 ความมั่งคั่งของ "แลร์รี เอลลิสัน" พุ่งขึ้นเป็น 3.93 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 14.5 ล้านล้านบาท) ซึ่งแซงหน้าความมั่งคั่งของ "อีลอน มัสก์" ที่ 3.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 14.2 ล้านล้านบาท)

การซื้อขายเพียงวันเดียวทำให้ราคาหุ้นของ Oracle บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ พุ่งขึ้นกว่า 40% หลังจากบริษัทซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลแห่งนี้ได้เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจคลาวด์และข้อตกลงด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีพันล้านเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันเดียว

ปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ "แลร์รี เอลลิสัน" อยู่ระหว่าง 393,000 ถึง 401,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้รวบรวม

แต่ศึกชิงบังลังก์ตั่วทองนี้ยังไม่จบ ตามรายงานของ BBC เผยว่า ในช่วงสิ้นวัน ราคาหุ้นของ Oracle ได้ลดลงเล็กน้อย ทำให้ "อีลอน มัสก์" กลับมาครองตำแหน่งอันดับ 1 รวยที่สุดในโลก อีกครั้ง

ตามการคำนวณของ Forbes มูลค่าสุทธิของ "แลร์รี เอลลิสัน" ข้อมูล ณ วันที่ 11 กันยายน คือ 387.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 12,326,952,000,000 บาท (12.33 ล้านล้านบาท)

ตามการคำนวณของ Forbes มูลค่าสุทธิของ "อีลอน มัสก์" ข้อมูล ณ วันที่ 11 กันยายน คือ 436.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 13,865,042,000,000 บาท (13.87 ล้านล้านบาท)

ก่อนที่จะเสียตำแหน่งให้กับ "แลร์รี เอลลิสัน" ไปช่วงสั้นๆ "อีลอน มัสก์" เคยครองตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลกมาเกือบหนึ่งปี

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ราคาหุ้นของ Tesla ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสูงสุดของ "อีลอน มัสก์" กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการที่รัฐบาล "ทรัมป์" ยกเลิกนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการที่ผู้บริโภคไม่พอใจจากการที่มัสก์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง

ขณะที่ Oracle ในรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทได้คาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจคลาวด์จะพุ่งขึ้น 77% ในปีนี้ แตะที่ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6.6 แสนล้านบาท) และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปีถัดไป

Oracle ระบุว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลของบริษัทจากบริษัท AI นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ภาพ AFP

ข้อมูลอ้างอิง : ฺBBC , visualcapitalist, forbes

คอนเทนต์แนะนำ

“ไม่ได้อยากตาย แต่อยากหายไป” ความน่ากลัวของภาวะเหนื่อยล้าทางอารมณ์

รู้ทันอันตราย ภาษากายของสัตว์ป่า นิ่ง-ดูเชื่อง ไม่ได้แปลว่าไม่จู่โจม

คนไทย 13.4 ล้านคนมีปัญหาสุขภาพจิต โรคจิตเวช อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต