Hawker จากข้างถนนสู่มรดกโลก เบื้องหลังศูนย์อาหารที่เปลี่ยนโฉมสิงคโปร์
เบื้องหลัง Hawker ศูนย์อาหารที่เปลี่ยนโฉมสิงคโปร์ จากหาบเร่แผงลอยข้างถนน สู่มรดกโลกของยูเนสโก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หากกล่าวถึงสิงคโปร์ นอกจากตึกระฟ้าและสวนสาธารณะอันเขียวชอุ่มแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวหลายคนนึกถึงคือ ศูนย์อาหารฮอว์กเกอร์ (Hawker Centre) ที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของอาหารนานาชนิด แต่ใครจะรู้ว่าสถานที่ที่ดูทันสมัยแห่งนี้มีที่มาจากความวุ่นวายและปัญหาด้านสาธารณสุขเมื่อหลายสิบปีก่อน
เมื่อถนนคือห้องครัว จุดเริ่มต้นของความไร้ระเบียบ
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 สิงคโปร์เต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยที่ขายอาหารอยู่ตามท้องถนนหรือตรอกซอกซอยต่างๆ แม้จะเป็นแหล่งอาหารราคาถูกสำหรับชนชั้นแรงงาน แต่การค้าขายแบบนี้ก็ก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ทั้งความแออัด การทิ้งขยะและน้ำเสียลงบนถนนโดยตรง ซึ่งกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคและเป็นอันตรายต่อสุขอนามัยของประชาชน
รัฐบาลสิงคโปร์ในยุคนั้นตระหนักดีว่าปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน การปล่อยให้พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ดำเนินกิจการอย่างไร้การควบคุมต่อไปไม่ใช่ทางออกอีกต่อไปแล้ว จึงเริ่มต้นโครงการปฏิรูปครั้งใหญ่ โดยมีเป้าหมายหลักคือการปรับปรุงสุขอนามัยและจัดระเบียบเมืองให้ดียิ่งขึ้น พ่อค้าแม่ค้าทุกคนต้องเข้ารับการลงทะเบียนเพื่อรับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลได้เริ่มก่อสร้าง ศูนย์อาหารฮอว์กเกอร์ ขึ้นทั่วเกาะ เพื่อรวบรวมพ่อค้าแม่ค้าจากข้างถนนให้เข้ามาค้าขายในพื้นที่ที่เป็นระเบียบเรียบร้อย
ภายในศูนย์อาหารแห่งใหม่นี้ ได้มีการจัดเตรียมสาธารณูปโภคที่จำเป็นอย่างครบครัน ทั้งน้ำประปา ไฟฟ้า และระบบระบายน้ำที่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาความสกปรกและมลพิษได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้ายังต้องผ่านการอบรมและปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ทำให้ผู้บริโภคสามารถรับประทานอาหารได้อย่างปลอดภัย
จากศูนย์อาหาร สู่มรดกอันล้ำค่าที่ได้รับการยอมรับจากยูเนสโก
สิ่งที่น่าทึ่งคือ ศูนย์อาหารฮอว์กเกอร์ ไม่ได้เป็นเพียงการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังได้กลายเป็นพื้นที่ทางสังคมที่สำคัญ เป็น "ห้องอาหารขนาดใหญ่" ที่เปิดให้ทุกคนเข้ามาใช้บริการ ไม่ว่าจะมีฐานะทางสังคมอย่างไรหรือมาจากภูมิหลังใด ที่นี่ผู้คนจะได้ลิ้มลองอาหารจานเด็ดจากหลากหลายวัฒนธรรม ทั้งอาหารจีน มาเลย์ อินเดีย และอาหารดั้งเดิมอื่นๆ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
ด้วยความสำคัญทางวัฒนธรรมและสังคมนี้เอง ในปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) วัฒนธรรมฮอว์กเกอร์ของสิงคโปร์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) ขององค์การยูเนสโก (UNESCO) การยอมรับในระดับโลกนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของศูนย์อาหารเหล่านี้ในฐานะส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์และจิตวิญญาณของสิงคโปร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า "อาหาร" ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่หล่อเลี้ยงร่างกาย แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมโยงผู้คนเข้าไว้ด้วยกันอย่างแน่นแฟ้นอีกด้วย
หากคุณมีโอกาสได้ไปเยือนรายชื่อศูนย์อาหารฮอว์กเกอร์ที่มีชื่อเสียงในสิงคโปร์
• Lau Pa Sat มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมสไตล์วิคตอเรียที่สวยงามและมีอาหารหลากหลายให้เลือกมากมาย รวมถึง "Satay Street" ที่จะปิดถนนในตอนกลางคืนเพื่อขายสะเต๊ะโดยเฉพาะ
• Old Airport Road Food Centre เป็นที่ชื่นชอบของคนท้องถิ่นและขึ้นชื่อเรื่องอาหารดั้งเดิมและอาหารขึ้นชื่อ
• Chinatown Complex Food Centre เป็นศูนย์อาหารฮอว์กเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ และเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมในการลองอาหารจีนหลากหลายชนิดในราคาที่เหมาะสม
• Maxwell Food Centre ตั้งอยู่ในย่านไชน่าทาวน์ เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น โดยเฉพาะสำหรับเมนูข้าวมันไก่ไหหลำ
• Newton Food Centre เป็นศูนย์อาหารที่ได้รับความนิยมจากภาพยนตร์เรื่อง "Crazy Rich Asians" และมีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเลและบาร์บีคิว
ศูนย์อาหารฮอว์กเกอร์จึงไม่เพียงเป็นแหล่งรวมอาหาร แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเสมอภาคของสิงคโปร์อย่างแท้จริง
Advertisement
