ทุเรียน Tupai King ทุเรียนราชากระรอก พันธุ์หายาก ราคาแพงของมาเลเซีย
ทุเรียน Tupai King ทุเรียนราชากระรอก สุดพรีเมียม พันธุ์หายาก ราคาแพงของมาเลเซีย กิโลกรัมละหลักพัน คนจีนเริ่มนิยมสั่งข้ามประเทศมาชิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ทุเรียนราชากระรอก" หรือที่รู้จักกันในชื่อ Tupai King (ทูปาย คิง) หรือชื่อทางการที่จดทะเบียนกับ MARDI (หน่วยงานวิจัยและพัฒนาการเกษตรแห่งมาเลเซีย) คือ Tupai 226 (รหัส D214) กำลังเป็นทุเรียนสายพันธุ์พรีเมียมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศมาเลเซีย และถูกยกให้เป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองของทุเรียนพันธุ์ดังอย่างมูซังคิงและแบล็กธอร์น
ข้อมูลเกี่ยวกับทุเรียน Tupai King
คำว่า "Tupai" (ทูปาย) เป็นภาษามาเลย์แปลว่า "กระรอก" ชื่อนี้มีที่มาจากความเชื่อที่ว่ากระรอกมักจะเลือกกินผลไม้ที่ดีที่สุด "ทุเรียนราชากระรอก" ถูกค้นพบเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วในสวนผลไม้ที่ Sungai Ara ในรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยคุณ Chew Chee Wan ผู้ซึ่งสังเกตเห็นว่ามีลูกค้าจำนวนมากกลับมาถามหาทุเรียนจากต้นนี้หลังจากได้ลิ้มลองรสชาติ
ลักษณะเด่นของทุเรียนราชากระรอก ผลมีรูปร่างคล้ายไข่ บางคนก็ว่าคล้ายทุเรียนไทย มีฐานกลมมนและมีขอบยกขึ้นบริเวณที่เปลือกติดกับขั้ว ปลายด้านล่างมีลักษณะคล้ายข้อศอกที่เปิดออก หนามหนาและมีจำนวนมาก ชี้ไปในทิศทางต่างๆ มีขนาดตั้งแต่เล็ก กลาง ไปจนถึงใหญ่ โดยมีน้ำหนักมากกว่า 2 กิโลกรัม และอาจมีขนาดใหญ่ถึง 4-5 กิโลกรัม
เนื้อมีสีเหลืองทองและมีสีเทาอมฟ้าแซมเล็กน้อย ซึ่งลักษณะสีแบบนี้มักพบในทุเรียนจากต้นแก่และถูกนำมาใช้ในการทำการตลาดว่าเป็นทุเรียนพรีเมียม รสชาติมีความซับซ้อน มีทั้งความหวานและความขมแบบลงตัว เนื้อสัมผัสเนียนคล้ายครีม บางคนว่ามีกลิ่นคล้ายถั่วและมีรสหมักเล็กน้อย บางคนบอกว่ามีรสขมเด่นชัดกว่ามูซังคิงและมีกลิ่นคล้ายแอลกอฮอล์เล็กน้อย
ทุเรียนราชากระรอก กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักชิมทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์และจีน ทำให้ราคาค่อนข้างสูงและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก เกษตรกรในมาเลเซียระบุว่า ปัจจุบันราคาขายของพันธุ์นี้สูงกว่าพันธุ์มูซังคิงและแบล็กธอร์นเกือบสองเท่า โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 130 ริงกิต (ประมาณ 1,000 บาท) ต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับพันธุ์มูซังคิงที่มีราคา 80 ริงกิต (600 บาท/กิโลกรัม) และพันธุ์ Black Thorn ที่มีราคา 90 ริงกิต (700 บาท/กิโลกรัม) และเมื่อส่งออกไปยังตลาดอย่างฮ่องกง Tupai King ทุเรียนราชากระรอกสามารถขายได้สูงถึงกิโลกรัมละ 250 ริงกิต หรือกิโลกรัมละ 2,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรผู้ปลูกระบุว่า Tupai King ทุเรียนราชากระรอก มีเปลือกที่ขรุขระ ดูผุพัง ทำให้ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับลูกค้าบางส่วน เนื้อด้านในดูซีด ไม่เหลืองอร่ามเหมือนพันธุ์อื่น ส่วนรสชาตินั้นค่อนข้างเข้ม มีรสขมปนอย่างชัดเจน และยังมีรสแอลกอฮอล์ที่ติดค้างอยู่ในคอซึ่งช่วยเสริมรสชาติให้เข้มข้นขึ้นไปอีก จนอาจทำให้ลิ้นของคุณรู้สึกชาได้ ซึ่งด้วยคุณสมบัตินี้อาจไม่ใช่ทุเรียนที่ทุกคนจะชื่นชอบ แต่น่าจะได้เสียงตอบรับที่ดีจากผู้ที่นิยมรับประทานทุเรียน และอยากเสาะหารสชาติและพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อลิ้มลอง
Advertisement
