Logo site Amarintv 34HD
Logo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
3 ผลกระทบในช่วงเกิดน้ำท่วม และวิธีก้าวผ่านวิกฤติ ฟื้นฟูจิตใจหลังน้ำลด

3 ผลกระทบในช่วงเกิดน้ำท่วม และวิธีก้าวผ่านวิกฤติ ฟื้นฟูจิตใจหลังน้ำลด

26 พ.ย. 68
14:35 น.
แชร์

3 ผลกระทบต่อสุขภาพกาย ใจ และอนามัย ในช่วงเกิดน้ำท่วม และคำแนะนำของกรมสุขภาพจิตและผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา แนะวิธีก้าวผ่านวิกฤตฟื้นฟูจิตใจหลังน้ำลด

น้ำท่วมเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางและรุนแรงต่อทุกมิติในชีวิตของผู้คน ซึ่ง ณ ขณะนี้พี่น้องประชาชนใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ กำลังเผชิญกับภัยพิบัตินี้อยู่

ซึ่งผลจากน้ำท่วมได้ส่งผลกระทบกับชีวิตผู้คน ไม่ได้สร้างความเสียหายแค่ในระยะสั้น แต่ยังส่งผลกระทบระยะยาวที่อาจกินเวลานานหลายสัปดาห์ไปจนถึงเป็นเดือน โดยสามารถแบ่งผลกระทบออกเป็น 3 ด้านหลักดังนี้

1. ผลกระทบต่อสุขภาพกายและอนามัย (Physical Health)

ไม่ว่าจะเป็น โรคติดต่อทางน้ำและอาหาร น้ำที่ท่วมขังมักปนเปื้อนสิ่งปฏิกูล สารเคมี และเชื้อโรค ทำให้เกิดการระบาดของโรคต่าง ๆ เช่น

โรคที่มากับน้ำ เช่น อหิวาตกโรค, ไทฟอยด์, โรคท้องร่วง

โรคที่มากับสัตว์นำโรค เช่น โรคฉี่หนู จากการสัมผัสน้ำที่ปนเปื้อนปัสสาวะของสัตว์

โรคที่มากับยุง ได้แก่ ไข้เลือดออก จากยุงวางไข่ในแหล่งน้ำขังหลังน้ำลด

อันตรายจากไฟฟ้าและอุบัติเหตุ ความเสี่ยงจากไฟฟ้าดูดเนื่องจากไฟฟ้ารั่ว , การจมน้ำ , การบาดเจ็บจากสิ่งของมีคมหรือสัตว์มีพิษที่ถูกน้ำพัดพามา

รวมถึงการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ยากขึ้น เนื่องจากโรงพยาบาลหรือคลินิกในพื้นที่ประสบภัย อาจไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ ทำให้ผู้ป่วยเรื้อรัง เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน ต้องขาดการรักษาหรือได้รับยาบรรเทาอาการ

2. ผลกระทบต่อสุขภาพจิตและสังคม (Mental Health & Social)

เกิดความเครียดและความวิตกกังวล ผู้ประสบภัยเผชิญกับความเครียดสูงจากการสูญเสียทรัพย์สิน ความไม่แน่นอนของอนาคต และความกลัวว่าจะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีก

ภาวะซึมเศร้าและ PTSD ผู้ที่เผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนใจ เช่น การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก หรือทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้ อาจนำไปสู่ภาวะ ความผิดปกติทางจิตใจหลังเผชิญเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD) หรือโรคซึมเศร้าในระยะยาว

การหยุดชะงักทางสังคม เช่น โรงเรียนถูกปิด หรือที่ทำงานได้รับความเสียหาย ทำให้กิจวัตรประจำวันและความสัมพันธ์ในชุมชนถูกตัดขาด นำไปสู่ความรู้สึกโดดเดี่ยว

3. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและทรัพย์สิน (Economic & Property)

เกิดความเสียหายของทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านเรือน ยานพาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งมักมีต้นทุนการซ่อมแซมและฟื้นฟูสูงตามมา

ความเสียหายทางเศรษฐกิจระดับมหภาค อันได้แก่ การผลิตภาคเกษตร และอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงัก การคมนาคมขนส่งถูกตัดขาด ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและประเทศ

หนี้สินและความยากจน หลายครัวเรือนต้องสูญเสียแหล่งรายได้และต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม อาจทำให้ครัวเรือนฐานะยากจนประสบปัญหาการออมลดลง และเกิดหนี้สินเพิ่มขึ้นในระยะยาว

วิธีรับมือและดูแลตัวเองเมื่อขณะน้ำท่วม

ระมัดระวังอันตราย ห้ามเดินลุยน้ำที่ไหลเชี่ยว ห้ามสัมผัสสายไฟ หรือเสาไฟที่จมน้ำ สวมรองเท้าบู๊ทกันน้ำทุกครั้งที่ต้องลุยน้ำ หากมีบาดแผลต้องรีบล้างด้วยน้ำสะอาดและยาฆ่าเชื้อ ควรดื่มเฉพาะน้ำสะอาดที่บรรจุขวด หรือน้ำที่ต้มฆ่าเชื้อแล้วเท่านั้น

วิธีดูแลตัวเองและครอบครัวให้ก้าวผ่านวิกฤติ ฟื้นฟูจิตใจหลังน้ำลด

การฟื้นฟูสภาพจิตใจหลังน้ำลด เป็นกระบวนการสำคัญที่ต้องทำควบคู่ไปกับการฟื้นฟูสภาพร่างกายและทรัพย์สิน เพราะผู้ประสบภัยมักเผชิญกับความเครียด ความสูญเสีย และความรู้สึกหมดหวังที่อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาวได้ การฟื้นฟูจิตใจตามคำแนะนำของกรมสุขภาพจิตและผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา สามารถทำได้ ดังนี้

การจัดการกับอารมณ์และสติ (Head & Heart)

1. สำรวจและยอมรับอารมณ์

- อนุญาตให้ตัวเองรู้สึกเศร้า โกรธ หวาดกลัว หรือท้อแท้ได้ เพราะเป็นปฏิกิริยาปกติที่เกิดขึ้นหลังเผชิญวิกฤต การยอมรับจะช่วยให้จัดการกับอารมณ์เหล่านั้นได้ดีขึ้น

- ฝึกใช้เทคนิคผ่อนคลายง่ายๆ เช่น การหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ นับ 1-10 ในใจเมื่อหายใจเข้า และหายใจออกช้า ๆ หรือ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (Muscle Relaxation) เพื่อดึงสติให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน

2. พูดคุยและระบายความรู้สึก

- อย่าอยู่คนเดียว แบ่งปันความรู้สึก ประสบการณ์ หรือความกังวลกับสมาชิกในครอบครัว เพื่อน หรือคนใกล้ชิดที่คุณไว้วางใจ การพูดคุยจะช่วยลดความเครียดและความรู้สึกโดดเดี่ยว

- หากรู้สึกว่าคนรอบข้างไม่เข้าใจ หรือรู้สึกว่าตนเองต้องการความช่วยเหลือเฉพาะทาง ให้ติดต่อสายด่วนสุขภาพจิต เพื่อขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

3. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง

เช่น ห้ามใช้สารเสพติด หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา สูบบุหรี่, หรือใช้ยาเสพติดในการจัดการกับความเครียดหรือความทุกข์ใจ เพราะจะยิ่งทำให้อาการหนักขึ้นและเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว

การสร้างความมั่นคงในชีวิตประจำวัน (Body & Routine)

4. สร้างกิจวัตร

- กลับสู่กิจวัตรเดิม พยายามดำเนินกิจวัตรประจำวัน เช่น การตื่นนอน การรับประทานอาหาร และการทำงาน (แม้จะเป็นงานทำความสะอาด) ให้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดภัยพิบัติให้มากที่สุด เพื่อช่วยให้จิตใจกลับมาสู่ภาวะปกติและรู้สึกมั่นคงทางจิตใจ

5. ดูแลสุขภาพกาย

- พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง ต่อคืน หากนอนไม่หลับ ให้หลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน และหากิจกรรมเบาๆ ทำก่อนนอน

- ออกกำลังกาย บริหารร่างกายเบาๆ เท่าที่สภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย (อย่างน้อย 30 นาที วันเว้นวัน) เพราะสุขภาพกายที่ดีจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิต

การสร้างกำลังใจและความผูกพัน (Community & Purpose)

6. จัดการปัญหาทีละขั้น

ทำสิ่งที่ทำได้ก่อน โฟกัสไปที่การแก้ไขปัญหาที่อยู่ตรงหน้าและสามารถควบคุมได้ เช่น การทำความสะอาดบ้านส่วนที่แห้งแล้ว การติดต่อประกันภัย การสร้างความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะช่วยให้เกิดความรู้สึกว่าตนเองสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

7. สร้างความผูกพันในชุมชน

มองหาโอกาสช่วยเหลือผู้อื่น การเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน หรือให้กำลังใจเพื่อนบ้านที่ประสบภัย จะช่วยให้จิตใจไม่จมอยู่กับปัญหาของตนเองเพียงอย่างเดียว และสร้างความรู้สึกถึงความเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

8. หาแหล่งสร้างกำลังใจ

ยึดหลักศาสนา ความศรัทธา เช่น การปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา การสวดมนต์ หรือการทำสมาธิ จะช่วยให้จิตใจสงบและมีสติในการแก้ไขปัญหา

หากอาการเครียด วิตกกังวล หรือนอนไม่หลับ ยังคงอยู่และรบกวนชีวิตประจำวันนานเกิน 2 สัปดาห์ หลังน้ำลดลงอย่างสมบูรณ์ ควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสม

อมรินทร์ออนไลน์ขอร่วมส่งกำลังใจให้กับพี่น้องชาวหาดใหญ่ และอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรง และขอให้วิกฤตน้ำผ่านพ้นไปในเร็ววัน

Advertisement

แชร์
3 ผลกระทบในช่วงเกิดน้ำท่วม และวิธีก้าวผ่านวิกฤติ ฟื้นฟูจิตใจหลังน้ำลด