Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ระวัง! เมื่อรถยนต์ตกหลุม สิ่งที่คนขับต้องรู้ก่อนสายเกินไป

ระวัง! เมื่อรถยนต์ตกหลุม สิ่งที่คนขับต้องรู้ก่อนสายเกินไป

26 ก.ย. 68
13:37 น.
แชร์

ถนนหนทางในปัจจุบันเต็มไปด้วยความท้าทายที่ผู้ขับขี่ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการจราจรที่หนาแน่น หรือสภาพถนนที่ไม่อำนวย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "หลุม" ที่ปรากฏอยู่ทั่วไปตามท้องถนน ซึ่งเปรียบเสมือนกับระเบิดเวลาที่พร้อมจะสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ที่คุณรักได้ทุกเมื่อ

การขับรถตกหลุมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะแรงกระแทกเพียงครั้งเดียวอาจส่งผลกระทบต่อหลายส่วนของรถ ตั้งแต่ยาง, ล้อ ไปจนถึงระบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคืออาจนำไปสู่อันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกจุด

การขับรถตกหลุมเป็นประสบการณ์ที่ผู้ขับขี่ทุกคนอาจเคยพบเจอ และสามารถสร้างความเสียหายต่อรถยนต์ได้ ตั้งแต่ความเสียหายเล็กน้อยไปจนถึงความเสียหายร้ายแรง บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตกหลุม และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ประเภทต่างๆ

ความลึกและขนาดของหลุม ปัจจัยสำคัญที่สุด

ความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดจากการตกหลุมขึ้นอยู่กับ "ความลึก" และ "ขนาด" ของหลุมเป็นหลัก

  • หลุมตื้น (ลึกไม่เกิน 5-10 ซม.)ผลกระทบ โดยทั่วไปแล้ว หากขับด้วยความเร็วต่ำหรือปานกลาง จะไม่สร้างความเสียหายร้ายแรงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ยางอาจมีรอยถลอกหรือบวมเล็กน้อย, ล้อแม็กซ์อาจมีรอยขีดข่วนรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบ รถยนต์ทุกประเภทสามารถผ่านไปได้โดยปลอดภัยหากขับอย่างระมัดระวัง
  • หลุมลึก (ลึกตั้งแต่ 10 ซม. ขึ้นไป)ผลกระทบ นี่คือหลุมที่อันตรายที่สุด การตกหลุมลึกด้วยความเร็วสูงจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบช่วงล่างและตัวถังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นยางและล้อ ยางอาจระเบิด หรือบิดเบี้ยวได้, ล้อแม็กซ์อาจแตกร้าวหรือดุ้งระบบช่วงล่าง โช้คอัพ, สปริง, ลูกหมาก, และปีกนก อาจได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ทำให้รถเสียศูนย์หรือบังคับเลี้ยวได้ยากระบบบังคับเลี้ยว แกนพวงมาลัยและแร็คพวงมาลัยอาจเสียหายได้ตัวถัง อาจเกิดความเสียหายที่ใต้ท้องรถ, แคร้งน้ำมันเครื่องอาจแตกรั่ว ทำให้เครื่องยนต์เสียหาย
  • หลุมขนาดใหญ่และกว้างผลกระทบ หากเป็นหลุมกว้าง แต่ไม่ลึกมาก อาจทำให้รถเสียการทรงตัวชั่วขณะความเสียหาย อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายกับยางและล้อได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากตกหลุมขอบคมๆ

ประเภทของรถยนต์กับความเสียหาย

ประเภทของรถยนต์มีผลต่อความเสียหายที่ได้รับ เนื่องจากโครงสร้างและระบบช่วงล่างที่แตกต่างกัน

  • รถเก๋งทั่วไป เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากมีระยะห่างจากพื้น (Ground Clearance) ต่ำ และใช้ล้อที่มีขนาดแก้มยางบาง ทำให้โอกาสที่ล้อจะกระแทกและเสียหายมีสูงกว่ารถประเภทอื่น
  • รถยนต์ SUV และรถกระบะ รถประเภทนี้มีระยะห่างจากพื้นสูงกว่าและใช้ยางที่มีแก้มยางหนากว่า ทำให้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่ารถเก๋ง อย่างไรก็ตาม หากตกหลุมลึกมากด้วยความเร็วสูงก็ยังคงมีโอกาสที่ช่วงล่างจะเสียหายได้
  • รถยนต์แต่งโหลด เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เนื่องจากช่วงล่างถูกปรับแต่งให้แข็งกระด้างและเตี้ยลง ทำให้ไม่มีพื้นที่ให้โช้คอัพและสปริงทำงานได้อย่างเต็มที่เพื่อดูดซับแรงกระแทก ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับช่วงล่างและล้อได้ง่ายมาก

การปรับแต่งช่วงล่าง

คำถามที่ว่า "ต้องเซทช่วงล่างไหม?" นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์

  • หลังตกหลุม หากรู้สึกว่ารถมีอาการผิดปกติ เช่น พวงมาลัยเอียง, รถดึงไปข้างใดข้างหนึ่ง, มีเสียงดังจากช่วงล่าง หรือ รู้สึกว่ารถไม่นุ่มนวลเหมือนเดิม ควรนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมเพื่อตรวจเช็คช่วงล่างและทำการ ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ใหม่ทันที
  • การปรับแต่งเพื่อป้องกัน สำหรับผู้ที่ขับขี่บนถนนขรุขระเป็นประจำ การเปลี่ยนโช้คอัพและสปริงให้มีประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทกที่ดีขึ้นอาจช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่ก็ต้องแลกกับความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างออกไป

หลุมลึกขนาดไหนที่ "ไปไม่ได้"

โดยทั่วไปแล้ว ไม่มีมาตรฐานตายตัวว่าหลุมลึกเท่าไหร่ที่รถจะไปไม่ได้ แต่หลุมที่ทำให้รถ ไปต่อไม่ได้ มักมีลักษณะดังนี้

  • หลุมที่ทำให้ล้อจมมิด หากล้อรถจมลงไปในหลุมจนไม่สามารถตะกายขึ้นมาได้
  • หลุมที่มีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะไม่สามารถมองเห็นความลึกที่แท้จริงได้ และอาจมีวัตถุอื่นๆ ซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำ
  • หลุมที่ทำให้ใต้ท้องรถครูด หากความลึกของหลุมเกินกว่าระยะห่างจากพื้นของรถ จะทำให้ใต้ท้องรถกระแทกและได้รับความเสียหายรุนแรง

หากมองเห็นหลุมข้างหน้าแต่ไม่แน่ใจในความลึก ชะลอความเร็วให้มากที่สุด หรือ หลีกเลี่ยง ไปเลยจะปลอดภัยที่สุด

ทำอย่างไรเมื่อรถของคุณตกหลุม

สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งสติและรับมืออย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ทันทีที่ตกหลุม สิ่งแรกที่ควรทำคือ อย่าเหยียบเบรกกะทันหัน การเบรกอย่างแรงอาจทำให้รถเสียการควบคุมและเพิ่มความเสียหายต่อล้อและยางได้ ให้ จับพวงมาลัยให้แน่น เพื่อควบคุมทิศทางของรถไม่ให้สะบัด และ ค่อยๆ ผ่อนคันเร่ง เพื่อลดแรงกระแทก

หลังจากตกหลุม หากรู้สึกว่ารถมีอาการผิดปกติ ให้รีบหาที่จอดข้างทางที่ปลอดภัยแล้ว ตรวจเช็คเบื้องต้น โดยเฉพาะที่ยางและล้อว่ามีรอยฉีกขาดหรือบวมหรือไม่ รวมถึงตรวจดูความเสียหายใต้ท้องรถด้วย หากได้ยินเสียงผิดปกติขณะขับขี่ เช่น เสียงกุกกัก หรือรถมีอาการดึงไปข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่าเป็นสัญญาณว่ารถอาจได้รับความเสียหาย

สัญญาณที่ต้องนำรถเข้าอู่ หากพบอาการดังต่อไปนี้ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการทันที ได้แก่ พวงมาลัยเอียงหรือสั่น, รถดึงไปข้างใดข้างหนึ่ง, โช้คอัพมีเสียงดังผิดปกติ หรือความรู้สึกในการขับขี่เปลี่ยนไปจากเดิม การแก้ไขอย่างทันท่วงทีจะช่วยป้องกันความเสียหายที่รุนแรงในระยะยาว และทำให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัย

การขับรถอย่างมีสติและระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการตกหลุม และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว การตรวจเช็คความเสียหายอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย

 

แชร์
ระวัง! เมื่อรถยนต์ตกหลุม สิ่งที่คนขับต้องรู้ก่อนสายเกินไป