เปิดภาพคันจริง MG4 สเปกไทย รถไฟฟ้า 100% ขับหลัง วิ่งได้ 425 กม./ชาร์จ

26 พ.ย. 65

เปิดตัว NEW MG4 ELECTRIC รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% ขับเคลื่อนล้อหลัง พัฒนาขึ้นมาบนนวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM สำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ ต้องบอกว่างานนี้ MG เขาเอาจริง! (คลิปรีวิว MG4 ELECTRIC)

te1_4218

MG4 ELECTRIC ถูกออกแบบและพัฒนาให้เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า100% ที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง” (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) ภายใต้มาตรฐานเดียวกับโกลบอลโมเดล เรียกได้ว่าไม่มีแบ่งแยกโซนแบบแต่ก่อนแล้ว เมืองไทยก็ได้ใช้สเปกเดียวกับทั่วโลกนั่นเอง

ดีไซน์ภายนอก MG4 ELECTRIC

• การออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN
• ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS
• ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT
• หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING
• ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER
• มิติตัวถัง​ 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
• ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร

z62_8246

z62_8269

ดีไซน์ภายใน MG4 ELECTRIC

• คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger)
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง
• พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ - วางสายโทรศัพท์
• กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
• หน้าจอแสดงผล Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด
• ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V
• รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android
• พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C
• ระบบกรองอากาศ PM2.5
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
• เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40
• โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ

te2_7795

te2_8109

ขุมพลังขับเคลื่อน MG4 ELECTRIC

• ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
• เทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
• แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67
• ระบายความร้อนด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM
• ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE)
• ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE)
• ระบบโครงสร้างพวงมาลัยรูปแบบใหม่ DUAL PINION ควบคุมด้วยไฟฟ้า
• รัศมีวงเลี้ยว 5.3 เมตร
• การกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
• ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension
• โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW
*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE (NEDC)

te2_7473

te2_8113

ระบบความปลอดภัย MG4 ELECTRIC

• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
• ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
• ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
• ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

อุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)

te2_8110

te2_8348

MG4 ELECTRIC มีระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 128 แห่งทั่วประเทศ
• ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% - 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 88 kWh
• ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 
8 ชั่วโมง 30 นาที* ที่ 6.6 kWh
• รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

z62_8247

z62_8248

ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART

ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check)
• ระบบตรวจสอบแบตเตอรี่ Battery Doctor บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
• ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
• ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
• ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
• ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ

ระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command)
• กุญแจดิจิตอล
• ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
• ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
• ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
• ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ทโฟน

ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)
• ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
• ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
• อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์
• ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
• อัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
• ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน

te1_4205

MG4 ELECTRIC ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White) ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X

te2_7434

te2_7517

MG4 ELECTRIC กลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญขึ้นมาทันทีในช่วงปลายปี 2565 หลังจากไม่กี่เดือนก่อนหน้าปล่อยให้คู่แข่งทยอยขโมยซีนจากการเปิดตัวรถอีวีชิงกระแสกันมาหลายเดือน ต้องบอกว่าคราวนี้เหมือน MG จะจัดหนักปล่อยหมัดเด็ดยิ่งทวีความดุเด็ดเผ๋ดเดือดให้ตลาดรถอีวีในประเทศไทยขึ้นมาไม่น้อย ส่วนราคาคาดเดาว่าอาจไม่ทะลุ 1 ล้านบาท รอลุ้นในวันที่ 30 พ.ย. ที่จะถึงนี้ในงาน Motor Expo 2022 ครับ

advertisement

Powered by CarsBoy

ยานยนต์ คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม