ประเทศไทยนั้นตั้งอยู่บริเวณแนวเส้นศูนย์สูตร ซึ่งจัดอยู่ในเขตร้อนชื้น สภาพอากาศจึงร้อนเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. ที่อากาศร้อนมากกว่าปกติ (ขอบคุณข้อมูลจาก Weather Spark) ทำให้หลายท่านมักจะประสบกับปัญหาสิวผดในช่วงหน้าร้อน และที่แย่กว่านั้นก็คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบัน ทำให้เราต้องสวมใส่หน้ากากตลอดเวลา ยิ่งทำให้ปัญหาสิวผดแย่ลง บทความนี้ ผมจะมาแนะนำวิธีการรับมือปัญหาสิวผดในช่วงหน้าร้อนง่าย ๆ ด้วยตัวเองกันครับ
สิวผดเป็นอย่างไร?
สิวผด หรือ Acne Aestivalis มีลักษณะเป็นจุดแดง ๆ เล็ก ๆ ตรงกลางจุดอาจมีตุ่มน้ำใส ๆ มักเกิดบริเวณที่โดนแดดบ่อย และมีเหงื่อออกมาก เช่น หน้าผาก มีการอักแสบและอุดตันของต่อมเหงื่อ อาจมีการติดเชื้อร่วมด้วย ถ้าจับด้วยมือสกปรกบ่อย ๆ ครับ
สาเหตุการเกิดสิวผดนั้นยังไม่แน่ชัด แต่มีความสัมพันธ์กับการโดนแดดจัด ความร้อน เหงื่อ และกรรมพันธุ์ครับ นอกจากนี้ ยังพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายอีกด้วยครับ
4 วิธีรับมือปัญหาสิวผดง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ถึงแม้ว่าสาเหตุการเกิดสิวผดนั้นจะยังไม่แน่ชัด แต่ก็สัมพันธ์กับการโดนแดด ดังนั้น การหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ก็จะช่วยให้ปัญหาสิวผดหายเองได้ภายใน 2-3 วันครับ นอกจากเลี่ยงแดดแล้ว ผมขอแนะนำวิธีอื่นเพิ่มเติม ดังนี้ครับ
1.) ล้างหน้าให้สะอาด
ขณะที่เป็นสิวผด ไม่ควรจับด้วยมือสกปรกบ่อย ๆ เพื่อป้องการติดเชื้อ และควรจะรักษาความสะอาดโดยการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเป็นประจำ ทั้งเช้าและเย็นครับ และไม่ล้างหน้าแรง ๆ เพราะการเสียดสีจะยิ่งทำให้การอักเสบแย่ขึ้น เคล็ดลับในการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเพื่อลดการเสียดสี ผมขอแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบปั๊มโฟม เนื่องจากฟองโฟมจะช่วยลดการเสียดสีระหว่างฝ่ามือและผิวหน้าได้ครับ
2.) บำรุงผิวด้วยสกินแคร์
นอกจากรักษาความสะอาดแล้ว การบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่ให้ความแข็งแรงกับเกราะผิว (Skin barrier) พร้อมให้ความชุ่มชื้นทั้งน้ำและไขมัน จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ปัญหาสิวผดก็จะดีขึ้นได้ครับ และในช่วงกลางวัน หากมีความจำเป็นต้องโดนแดด ผมแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และ PA ++++ เพื่อลดผลกระทบจากรังสี UV ครับ
3.) ซับเหงื่อออกทันที
เหงื่อของคนเราไม่ได้ประกอบด้วยน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ยังประกอบไปด้วยเกลือชนิดต่าง ๆ รวมถึงยูเรียที่มีความเป็นด่างด้วยครับ โดยปกติแล้ว ความเป็นกรดด่าง (ค่า pH) ที่ผิวของคนเราจะอยู่ที่ประมาณ 5.5 แต่ pH ของเหงื่อนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 6-7 หมายความว่า ทุกครั้งที่เหงื่อหลั่งออกมา pH ของผิวก็จะสูงขึ้น ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโดยธรรมชาติของผิวที่อาศัย pH 5.5 ก็จะแย่ลงครับ ดังนั้น อย่าปล่อยให้ผิวเปียกเหงื่อนาน หากเหงื่อออก เราควรที่จะซับออก และดูแลผิวหลังเหงื่อออกทันทีครับ
4.) เปลี่ยนหน้ากากอนามัยระหว่างวัน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบัน ทำให้เราต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดทั้งวัน และเกิดปัญหาสิวต่าง ๆ ตามมา ยิ่งช่วงเดือนมี.ค. - พ.ค. อากาศยิ่งร้อนมาก ภายใต้หน้ากากจึงมีเหงื่อออก และอับชื้นมากกว่าปกติ ดังนั้น เราจึงควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อย ๆ เพื่อลดความอับชื้น และลดการสะสมของเชื้อ เพื่อลดการเกิดสิวหน้ากากครับ
ปัญหาสิวผดจะดีขึ้นได้ หากเราดูแลผิวช่วงหน้าร้อนอย่างถูกวิธีครับ แต่อย่างไรก็ตามหากเป็นมาก ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อพิจารณาการใช้ยาร่วมด้วยนะครับ
----
อมต ชัยเกรียงไกร
นักวิจัยสกินแคร์คนไทย ประสบการณ์ทำงานในบริษัทเครื่องสำอาง Top 3 ของญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านสูตรสกินแคร์ให้กับแบรนด์สกินแคร์ทั้งในและต่างประเทศ และเป็นผู้ก่อตั้ง แบรนด์ AMT Skincare
อ่านประวัติผู้เขียนต่อ คลิก
จบทุกปัญหาผิว ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ฟรี!
AMT Skincare Official Line
แอดไลน์ @amtskincare หรือ คลิก
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 3 วิธีดูแลรอยย่นที่คอ พร้อมแนะนำครีมทาคอที่เหมาะสม
