การดูแลผิวคอใครว่าไม่สำคัญ จริงๆ แล้วการดูแลผิวคอนั้น สำคัญพอๆ กับผิวหน้าเลยครับ เนื่องจากคออยู่ใกล้กับใบหน้า ถ้าหากไม่ดูแลผิวคอให้ดี ก็จะเกิดรอยย่นที่คอได้ครับ
ผิวคอไปจนถึงเนินอกนั้น มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าผิวหน้าเลยทีเดียว หากได้รับการบำรุงที่ดี จะทำให้น่ามอง มีความเป็นอิสตรี มีเสน่ห์ น่าหลงใหลเป็นอย่างมากครับ ในบทความนี้ ผมจะมาแนะนำเคล็ดลับการเลือกครีมทาคอ และวิธีทาครีมที่เหมาะสมกับผิวคอ ถ้าอยากทราบแล้ว เชิญอ่านต่อได้เลยครับ
ชนิดของรอยย่นที่คอมีอะไรบ้าง สาเหตุเกิดจากอะไร
ปัญหาที่เกิดกับผิวคอที่พบมาก ก็คือรอยย่นที่คอนั่นเองครับ โดยรอยย่นที่เกิดขึ้นนั้น สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ตามแนวของรอยย่นที่คอ ดังนี้
1. รอยย่นที่คอในแนวนอน (Horizontal Line)
รอยย่นที่คอหรือรอยพับที่คอในแนวนอนนั้น เป็นรอยย่นที่พบได้ปกติ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ แม้แต่เด็ก ๆ ก็มีรอยย่นนี้ได้ครับ โดยรอยย่นที่คอชนิดนี้ เกิดจากการที่เราก้มและเงยหน้า นอนหมอนสูงเกินไป ท่าทางในการยืน เป็นต้น ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมชาติครับ
2. รอยย่นที่คอในแนวตั้ง (Vertical Line)
รอยย่นที่คอในแนวตั้งนี้ อาจเป็นรอยย่นเริ่มจากตั้งแต่ปลายคาง ลากยาวจนมาถึงไหปลาร้าเลยก็ได้ครับ มักพบมากในช่วงวัย 40 ปีขึ้นไป โดยรอยย่นชนิดนี้ เกิดจากผิวขาดน้ำและน้ำมัน จึงสูญเสียความยืดหยุ่น และมองเห็นเป็นรอยย่นที่คอในแนวตั้งเด่นชัด ซึ่งการบำรุงด้วยสกินแคร์สามารถช่วยให้รอยย่นชนิดนี้ดีขึ้นได้ครับ
3 เคล็ดลับในการดูแลผิวคอให้ดูน่ามอง แลดูอ่อนเยาว์
อย่างที่เราทราบกันไปแล้วว่า รอยย่นที่คอนั้นมี 2 ชนิด แต่รอยย่นที่ดูแลให้ดีขึ้นได้ คือรอยย่นที่คอในแนวตั้งครับ แล้วจะดูแลอย่างไร ผมขอสรุปเคล็ดลับในการดูแลผิวคอ 3 ข้อ ดังนี้ครับ
1.) เน้นการให้น้ำมันภายใน (Inner Oil) เป็นหลัก
เนื่องจากผิวคอมีต่อมไขมันน้อย จึงสร้างน้ำมันเองได้น้อย และจะน้อยลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้นครับ เราจึงควรบำรุงด้วยน้ำมันภายใน (Inner Oil) เช่น น้ำมันเมล็ดแมคคาเดเมีย น้ำมันอะมิโน ซึ่งสามารถซึมเข้าไปให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวภายในได้ ทำให้ผิวคอมีความนุ่ม ยืดหยุ่นดี รอยย่นที่คอในแนวตั้งก็จะดีขึ้นได้ครับ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำมันภายใน)
2.) เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนัก ๆ บริเวณคอ
เนื่องจากผิวคอมีต่อมเหงื่อมาก หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนัก ๆ เช่น บาล์ม จะเท่ากับเราไปปิดทางออกของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อถูกระบายออกได้ยากขึ้น มีโอกาสเกิดสิวผดได้ครับ โดยเฉพาะในตอนกลางวัน ซึ่งมีกิจกรรมมาก เหงื่อออกมากครับ
3.) ทาครีมกันแดดบริเวณคอเสมอ
หลายท่านเวลาทาครีมกันแดด มักเน้นทาที่ใบหน้าเป็นหลัก ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผิวคอเป็นบริเวณที่ได้รับรังสี UV เยอะมากครับ ทั้ง UV ที่ส่องมากระทบโดยตรง และ UV ที่สะท้อนเสื้อ สะท้อนพื้น ส่องจากด้านล่างขึ้นมากระทบผิวคอ การไม่ทากันแดดที่ผิวคอ จะทำให้ผิวคอถูกทำร้าย หย่อนคล้อย มีรอยย่น และแลดูแก่เกินวัยได้ครับ ดังนั้น เราจึงควรทาครีมกันแดดที่คอ เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายจากรังสี UV ลดสาเหตุของรอยย่นที่คอ และความหย่อนคล้อยครับ
ครีมทาคอ ทายังไงให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ผมเชื่อว่าหลายท่านที่ทาครีมที่คอส่วนใหญ่ มักจะใช้วิธีทาครีมที่ใบหน้าและทาเลยมาถึงผิวคอใช่ไหมครับ ที่จริงแล้ว เราควรกดครีมเพิ่มเพื่อมาบำรุงผิวคอโดยเฉพาะ เนื่องจากผิวคอมีพื้นที่ค่อนข้างมาก จึงต้องการสารอาหารในปริมาณที่มากเพียงพอครับ
นอกจากปริมาณการทาที่เหมาะสมแล้ว เทคนิคในการทาก็สำคัญเช่นกัน ผมขอแนะนำวิธีง่าย ๆ ดังนี้ครับ
1.) กดครีมทาคอในปริมาณที่มากเพียงพอ ใช้มือทั้งสองข้างทาทั้งสองฝั่งไปพร้อมกัน โดยลูบเนื้อครีมจากใต้คางขึ้นไปถึงหลังใบหู
2.) ใช้มือลูบไล้จากหลังใบหูไปถึงไหล่ (ตรงนี้หากใช้ทั้งสองมือทาพร้อมกันอาจจะลำบากหน่อยนะครับ ให้ทาทีละฝั่ง โดยใช้มือขวาทาบ่าซ้าย มือซ้ายทาบ่าขวาจะทาง่ายกว่าครับ)
3.) ใช้มือลูบลงตั้งแต่โคนคอ จนถึงเนินอกทั่วบริเวณ
4.) ทาคอด้านหลัง โดยลูบลงครับ
การดูแลผิวคอเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอทั้งเช้าและเย็น จะทำให้ผิวคอชุ่มชื้น นุ่ม เรียบเนียนขึ้นครับ รอยย่นที่คอในแนวตั้งก็จะเกิดได้ยากขึ้น ทำให้ผิวคอแลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ดูน่ามอง และเพิ่มความน่าหลงใหลให้กับเจ้าของผิวนั้นได้อย่างไม่ยากเลยครับ
----
อมต ชัยเกรียงไกร
นักวิจัยสกินแคร์คนไทย ประสบการณ์ทำงานในบริษัทเครื่องสำอาง Top 3 ของญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านสูตรสกินแคร์ให้กับแบรนด์สกินแคร์ทั้งในและต่างประเทศ และเป็นผู้ก่อตั้ง แบรนด์ AMT Skincare
อ่านประวัติผู้เขียนต่อ คลิก
จบทุกปัญหาผิว ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ฟรี!
AMT Skincare Official Line
แอดไลน์ @amtskincare หรือ คลิก
บทความที่เกี่ยวข้อง
- กันแดดประสิทธิภาพสูงแค่ไหน ก็กันแดดไม่ได้ 100%
