
4 ธันวาคม 2568 ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หวังให้จีนช่วยใช้อิทธิพลโน้มน้าวรัสเซียหยุดยิงในยูเครน และรับมือเรื่องความตึงเครียดทางการค้าระหว่างยุโรปและจีน
สำนักข่าวฝรั่งเศส France 24 รายงานเมื่อเช้าวันนี้ว่า สีและภริยา นางเผิง ลี่หยวนให้การต้อนรับ มาครงและภริยา บริจิตต์ อย่างยิ่งใหญ่ ณ มหาศาลาประชาชน โดยพิธีการต้อนรับถูกย้ายมาจัดภายในอาคารเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น มีวงดนตรีบรรเลงเพลงชาติสองประเทศ และมีเด็ก ๆ ถือดอกไม้ออกมาต้อนรับประธานาธิบดีฝรั่งเศส
นี่ไม่ใช่การเดินทางเยือนจีนครั้งแรกของมาครง แต่นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2560 และหลังจากนี้ มาครงยังมีกำหนดการพบกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ก่อนเดินทางต่อไปยังเฉิงตู
ก่อนหน้านี้ ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวถึงความตั้งใจของฝรั่งเศสในการโน้มน้าวจีน ในประเด็นสงครามรัสเซียยูเครน
“เราคาดหวังให้จีน ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงเหมือนกันกับเรากดดันรัสเซีย เพื่อให้รัสเซีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วลาดิเมียร์ ปูติน ตกลงหยุดยิงเสียที” บาร์โรต์กล่าว
แม้ว่าจีนเรียกร้องให้มีการเจรจาสันติภาพและการเคารพบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศเป็นประจำ แต่กลับไม่เคยประณามรัสเซียที่รุกรานยูเครนมาตั้งแต่ปี 2565
ตรงกันข้าม รัฐบาลตะวันตกกล่าวหาจีนว่าให้การรสนับสนุนทางเศรษฐกิจรัสเซีย และให้ประโยชน์รัสเซียในการทำสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการจัดหายุทโธปกรณ์ให้รัสเซียใช้ในการป้องกันประเทศ
ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า มาครงจะบอกกับสีว่าจีนต้อง “งดเว้นจากการจัดหาไม่ว่าในรูปแบบใด ๆ ซึ่งจะช่วยให้รัสเซียดำเนินสงครามต่อไปได้”
ก่อนหน้ามาครงเดินทางเยือนจีนเพียง 3 วัน ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี เพิ่งเดินทางเยือนกรุงปารีสเพื่อกระตุ้นให้ยุโรปยืนหยัดข้างยูเครน
“เรามีมุมมองร่วมกันว่าสงครามต้องยุติลงอย่างยุติธรรม” เซเลนสกีเขียนบนสื่อสังคมออนไลน์หลังการหารือกับมาครงเมื่อวันจันทร์ ซึ่งรวมถึงการโทรศัพท์กับผู้นำยุโรปคนอื่น ๆ ด้วย
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าหาทางเจรจาสันติภาพ ก่อนหน้านี้ในคืนวันที่ 2 ธันวาคม คณะเจรจาของทรัมป์ นำโดยสตีฟ วิตคอฟฟ์เดินทางไปคุยกับปูตินที่กรุงมอสโก แต่ยังหาข้อตกลงไม่ได้ และสหรัฐฯ มีกำหนดคุยกับคณะเจรจาของยูเครนที่รัฐฟลอริดาวันนี้
นอกจากประเด็นความขัดแย้งรัสเซียยูเครน มาครงยังมีกำหนดหารือเรื่องการค้ากับสี จิ้นผิงด้วย เนื่องจากสหภาพยุโรปกำลังเผชิญตัวเลขขาดดุลการค้ากับจีนจำนวนมหาศาล มากถึง 357,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 11,420,430 ล้านบาท
“จีนจะต้องบริโภคให้มากขึ้น และส่งออกให้น้อยลง [...] ส่วนชาวยุโรปก็ต้องเก็บออมให้น้อยลงและผลิตให้มากขึ้น” ที่ปรึกษาของมาครงคนหนึ่งกล่าว
ก่อนหน้านี้ มาครงยังเรียกร้องให้สหภาพยุโรปลดการพึ่งพาจีน เพื่อให้เกิด “ผลประโยชน์ต่อยุโรป” ในด้านเทคโนโลยี โดยเมื่อเดือนก่อน เขาบอกกับการประชุมสุดยอดผู้นำด้านเทคโนโลยีและรัฐมนตรีจากทั่วทั้งทวีปยุโรปว่า สหภาพยุโรปไม่ต้องการเป็น “ข้ารับใช้” ของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ และจีน
มาครงจะอยู่ที่จีนจนถึงวันศุกร์ โดยมีจุดหมายปลายทางสุดท้ายที่เมืองเฉิงตู ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฝรั่งเศสเพิ่งส่งแพนด้ายักษ์สองตัวที่จีนให้ฝรั่งเศสยืมคืนไป ด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนให้คำมั่นว่าจะส่งแพนด้าชุดใหม่มาแทนคู่เดิม