
เวลา 11.00 นาฬิกา ของวันที่ 11 เดือน 11 ผู้คนจากทั่วโลกจะยืนสงบนิ่งชั่วขณะ หันหน้าไปทางเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อขอบคุณและรำลึกถึงเหล่าทหารผู้เสียสละในสงครามเกาหลี
เช่นเดียวกับตลอด 18 ปีที่ผ่านมา (จัดครั้งแรกปี 2007) ปีนี้คนกว่า 800 คนที่มารวมตัวกันที่สวนสันติภาพแห่งสหประชาชาติ เมืองปูซาน เพื่อร่วมงาน Turn Towards Busan 2025 วัตถุประสงค์คือการรำลึกถึงเพื่อน ครอบครัว คนรักที่จากไป และตอกย้ำความโหดร้ายของสงคราม
สงครามเกาหลีคือสงครามที่กินเวลานาน 3 ปี (1950-1953) ระหว่างสองเกาหลี ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) และสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เมื่อกองทัพเกาหลีเหนือบุกข้ามเส้นแบ่งเขตแดนเข้ามา หวังควบรวมเกาหลีเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง หลังอิทธิพลต่างชาติจาก 2 อุดมการณ์ตัดขาดเกาหลีออกจากกัน
ระหว่างสงครามเกาหลี สหประชาชาติและชาติพันธมิตรกว่า 22 ชาติได้ส่งทหารราว 5 ล้านนายมาร่วมรบในสงครามเกาหลี แม้ว่าจะสามารถรักษาสันติภาพของเกาหลีใต้เอาไว้ได้ แต่ก็แลกมาด้วยชีวิตทหารนานาชาติกว่า 1.98 ล้านนาย
สงครามจบลง สันติภาพแล้ว แต่การจดจำยังดำเนินต่อไป เกาหลีใต้แสดงออกถึงความซาบซึ้งต่อการเสียสละของทหารนานาประเทศตลอดมา และหนึ่งในวิธีการจดจำคืองานประจำปีที่จัดขึ้นที่ปูซาน
ณ เวลา 10.50 ผู้เข้าร่วมจากนานาชาติเข้าประจำที่นั่งของตน ทหารผ่านศึกบางท่านมาร่วมงานในวีลแชร์ หลายท่านถือไม้เท้า ต่างทักทายกันอย่างเป็นกันเอง
ทหารในชุดยูนิฟอร์มหลากหลายมารวมตัวกันเพื่อสันติภาพ ไม่ใช่เพื่อสงคราม และมาในนามชาติที่ร่วมรบ มีตัวแทนรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิต
เมื่อถึงเวลา 11.00 นาฬิกา ผู้เข้าร่วมยืนขึ้นอย่างสงบนิ่งเป็นเวลาราว 1 นาที ตัวแทนจากสหประชาชาติย้ำว่า การมารวมกันในครั้งนี้มีขึ้น เพื่อขอบคุณ และรำลึก “เพื่อให้ความทรงจำนำทางการกระทำของเรา และสันติภาพเป็นสิ่งที่เราจะแบ่งปันกันต่อไปอีกในอนาคต”
ตัวแทนประเทศเกาหลีใต้กล่าวคำขอบคุณ และระบุว่า จะไม่ลืมการเสียสละของเหล่าทหารนานาชาติ และจะบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ตลอดไป
หลังยืนสงบนิ่งเพื่อขอบคุณทหารกล้า ธงสหประชาชาติ พร้อมด้วยธงอีก 22 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยก็ถูกเชิญขึ้นเสา ตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ อย่างสหประชาชาติ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ เอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ร่วมวางพวงดอกไม้ ก่อนที่ผู้ร่วมงานจะแยกย้าย
แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมามากกว่า 74 ปี และทหารผ่านศึกจากสงครามเกาหลีจะเสียชีวิตไปแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ทหารผ่านศึกที่ยังมีชีวิตอยู่ ญาติ ลูกหลาน คนรู้จักก็ยังหลั่งไหลมาร่วมงานการจดจำ
แซนดี และธอม กลอมลีย์ คู่สามีภรรยาชาวสหรัฐฯ เดินทางมาร่วมงานในปีนี้ เพื่อรำลึกถึงคุณปู่โดนัลด์ อี. แมทนีย์ ซึ่งเป็นคุณปู่ของแซนดีที่เสียชีวิตในสงครามเกาหลี
“เขาเดินทางมาที่เกาหลี มาร่วมรบตอนอายุเพียง 17 ปี มาสู้เพื่อสันติภาพ มาตั้งแต่สงครามเพิ่งเริ่ม มาถึงเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1950 ร่วมสู้รบและหายตัวไปในวันที่ 20 กรกฎาคมปีนั้น"
แซนดีและธอมกล่าวว่า พวกทหารมาสู้รบโดยที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับความขัดแย้งในประเทศ ซึ่งถือว่าเหมือน “คนแปลกหน้า” สำหรับพวกเขา ดังนั้นเราจึงควรจดจำเพื่อรำลึกถึงการเสียสละ และเพื่อไม่ให้สงครามได้เกิดขึ้นและคร่าชีวิตผู้คนไปอีก
“เราต้องจำมันค่ะ เพราะอะไรที่เราจำไม่ได้ เราก็จะทำมันซ้ำ”
อีกคู่ที่เดินทางมาที่สวนสันติภาพสหประชาชาติเพื่อระลึกถึงทหารในสงครามเกาหลีคือ เดนิส คาร์รีย์ส และปีเตอร์ มิชูด หลานสาวและหลานชายของอัลฟอนส์ โนเอล เรเน มิชูด ทหารแคนาดาที่มาร่วมรบในสงครามเกาหลี
ทั้งสองกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีสมาชิกครอบครัวพวกเขาเดินทางมาเยี่ยมหลุมศพอาคนสุดท้อง และเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ครอบครัว
“เราไม่ควรลืม [สงคราม] เด็ดขาด เพราะถ้าเราลืม เราก็อาจทำมันซ้ำอีก นี่แหละสิ่งสำคัญที่สุด เพราะสงครามคือสิ่งเลวร้ายมาก มีคนกว่า 2.3 ล้านตายในสงครามนี้ ลองคิดดูสิ มีครอบครัวกว่า 2.3 ล้านครอบครัวเสียคนที่รักไป"
ทั้งสองถ่ายรูปภาพหน้าหลุมศพของอา เพื่อส่งให้ครอบครัวที่แคนาดาได้เห็นเป็นครั้งแรก