ถ้าย้อนอดีตที่ผ่านมา กองทัพกัมพูชาถือว่าค่อนข้างล้าหลัง ทั้งในเรื่องกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ ดังนั้นในการทหาร กัมพูชาจึงจำเป็นต้องพึ่งพา “จีน” อยู่มาก แต่สำหรับสถานการณ์ความตึงเครียดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จีนยืนยันว่าอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม จีนไม่ได้ส่งอาวุธใหม่ให้กัมพูชาใช้รบกับไทยอย่างแน่นอน
กองทัพของกัมพูชายังถือว่าตามหลังไทยอยู่มาก โดยรายงานของสถาบันเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ (IISS) ชี้ว่า กองทัพกัมพูชาเพิ่งจะตั้งขึ้นในปี 1993 หลังจากการรวมตัวของกองกำลังรัฐบาลคอมมิวนิสต์กับกองกำลังต่อต้านที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ 2 กลุ่ม
ขณะที่พันธมิตรด้านกลาโหมระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดของกัมพูชาคือจีนและเวียดนาม แม้ว่าจะเคยพึ่งพาอาวุธจากรัสเซียเป็นหลัก แต่จีนได้กลายเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ทางทหารรายสำคัญ
รัฐบาลจีนยังได้พัฒนาฐานทัพเรือในกัมพูชาอีกด้วย โดยนักวิเคราะห์นานาชาติชี้ว่า ฐานทัพเรือเรียม ซึ่งตั้งอยู่ริมอ่าวไทย มีศักยภาพรองรับเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนได้
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กัมพูชาและจีนได้จัดการซ้อมรบร่วม “มังกรทอง” ครั้งที่ 7 ซึ่งถือเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุด โดยมีการฝึกซ้อมยิงจริงรวมอยู่ด้วย
รายงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์จากเว็บไซต์ภาษาอังกฤษของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ระบุเอาไว้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพจีนและกัมพูชาคาดว่าจะ “ก้าวไปสู่ระดับใหม่และเกิดพัฒนาการใหม่” ภายในปีนี้
ขณะที่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 เครื่องยิงจรวด BM-21 ของกัมพูชาถูกถอนกลับจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดการปะทะรอบใหม่กับกองทัพไทยในจังหวัดพระวิหาร
โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน พันเอกอาวุโสอู๋ เชียน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในเดือนกุมภาพันธ์ว่า“จีนและกัมพูชาเป็นมิตรแท้เหล็กกล้า เราสนับสนุนกันเสมอ กองทัพของทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และภราดรภาพที่มั่นคงดุจหินผา”
ด้านกัมพูชาเองก็จำเป็นต้องพึ่งพาการสนับสนุนดังกล่าว เนื่องจากรายงานของ IISS ระบุว่า ขณะนี้กัมพูชายังไม่มีขีดความสามารถในการออกแบบหรือผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ด้วยตนเอง”
พ.อ.ศิวัตม์ รัตนอนันต์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก และรักษาราชการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ได้เข้าหารือข้อราชการเพื่อประสานงานเรื่องสำคัญเร่งด่วนกับ สำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศ (Office of International Military Cooperation) กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ณ ห้องรับรอง อาคารสำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศฯ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี พ.อ.พิเศษเซิ่ง เวย รองผู้อำนวยการกองเอเชีย สำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศฯ เป็นผู้แทนในการหารือ โดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก และรักษาราชการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ได้ใช้โอกาสนี้รายงานข้อเท็จจริง และหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณแนวชายแดนไทย - กัมพูชา พร้อมทั้งได้ส่งมอบเอกสารรายงาน The Royal Thai Army Reports a Clash Incident on Thailand - Cambodia border ให้กับฝ่ายจีนอย่างเป็นทางการด้วย
ทั้งนี้ ฝ่ายจีน ได้ขอให้ช่วยสื่อสารทำความเข้าใจกับฝ่ายไทย ว่า "นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความตึงเครียดขึ้นบริเวณแนวชายแดนไทย - กัมพูชา จีนไม่เคยสนับสนุนยุทโธปกรณ์ใดๆ ให้กับกองทัพกัมพูชา เพื่อให้มาใช้โจมตีไทย ยุทโธปกรณ์จีน ที่มีประจำการในกองทัพกัมพูชาล้วนเป็นผลมาจากการดำเนินงานความร่วมมือในอดีตทั้งสิ้น อย่าหลงเชื่อข่าวปลอมที่ถูกสร้างขึ้น โดยผู้ไม่หวังดี"