Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กัมพูชาละเมิดอะไรบ้าง? หลังถล่มโรงพยาบาล-สังหารพลเรือน
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

กัมพูชาละเมิดอะไรบ้าง? หลังถล่มโรงพยาบาล-สังหารพลเรือน

25 ก.ค. 68
12:13 น.
แชร์

Spotlight ชวนย้อนดูการกระทำสำคัญของกัมพูชาที่ทำให้ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ดำเนินมาถึงจุดที่ชีวิตทหารและพลเรือนต้องดับสูญเมื่อวานนี้ หลังกองทัพกัมพูชา เปิดฉากยิงฐานปฏิบัติการของไทยใกล้ปราสาทตาเมือนธม และยังสั่งยิงจรวด  BM-21  ใส่โรงพยาบาลพนมดงรัก รวมถึงยิงปืนใหญ่ ทำให้กระสุนตกที่ปั๊มน้ำมันในอ.กันทรลักษณ์  รัฐบาลกัมพูชาทำอะไรบ้างที่เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

  • ขุดสนามเพลาะ จัดกำลังพลเข้าสามเหลี่ยมมรกต

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีรายงานและภาพถ่ายเผยแพร่ในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ว่า ทหารกัมพูชาได้ดัดแปลงภูมิประเทศและสร้างฐานที่มั่นด้วยการขุดสนามเพลาะ พร้อมเสริมกำลังพลเพิ่มเติมประมาณ 100 นาย บริเวณเนิน 745 ในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ชัดเจนเรื่องเขตแดน 

ในกรณีที่เป็นพื้นที่พิพาท หรือ พื้นที่ทับซ้อน (Disputed Area / Overlapping Claims Area) ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจนตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งพื้นที่สามเหลี่ยมมรกตและแนวชายแดนอีกหลายจุดระหว่างไทยและกัมพูชาก็ถือเป็นพื้นที่พิพาทด้วย ไทยและกัมพูชาต้องงดเว้นการกระทำใด ๆ ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพเดิมของพื้นที่นั้น ๆ โดยฝ่ายเดียว มิเช่นนั้นจะถือเป็นการกระทำที่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ในพื้นที่พิพาท (Unilateral Alteration of Status Quo in Disputed Territory)

การกระทำฝ่ายเดียวของกัมพูชา นับว่าขัดต่อหลักการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี และอาจถูกตีความว่าเป็นการพยายามสร้างข้อเท็จจริงใหม่บนพื้นดิน (facts on the ground) เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการอ้างสิทธิ์ในอนาคต

  • ปล่อยคลิปเสียงผู้นำไทย

จากกรณีการปล่อยคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร กับฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ที่กำลังเจรจาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเนื้อหาการพูดคุยเป็นประเด็นที่อ่อนไหว เช่น การเคลื่อนไหวของทหารไทยอย่างแม่ทัพภาคที่ 2 หรือการแก้ไขปัญหาชายแดนที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนปกติ หรือเป็นการยอมอ่อนข้อให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งถูกเผยแพร่โดยฮุน เซน ไม่ได้เป็นการผิดมารยาททางการทูตเท่านั้น แต่เข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วย 

ผลลัพธ์ของการปล่อยคลิปเสียง ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และรัฐบาลไทยตกอยู่ในความไม่มั่นคง การกระทำของฮุน เซนจึงเข้าข่าย “การแทรกแซงกิจการภายใน” (Intervention in domestic affairs) เป็นหลักการสำคัญในกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับหลักอธิปไตยของรัฐ ซึ่งมีบัญญัติอยู่ในกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญ โดยเฉพาะ “กฎบัตรสหประชาชาติ” (United Nations Charter) ที่ระบุไว้ว่า แต่ละประเทศจะต้องยึดหลักการไม่แทรกแซงระหว่างกัน

  • วางกับระเบิดใหม่ ทำทหารไทยขาขาด

เหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดที่ถูกลอบวางขึ้นใหม่ เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 68 ในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เป็นเหตุให้พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาซ้ายขาด และอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 68 จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บขาขวาขาด ระหว่างออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทางกองทัพบกยืนยันว่ากับระเบิดเหล่านี้เ็นระเบิดใหม่อย่างแน่นอน เพราะทั้งสองเส้นทางลาดตระเวนเป็นเส้นทางที่ทหารปฏิบัติการเป็นประจำและไม่มีระเบิดเก่าหลงเหลือตามที่กัมพูชาอ้าง

การวางกับระเบิดใหม่โดยกัมพูชา ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละเมิดอนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty/Mine Ban Treaty) ที่ควบคุมเรื่องกับระเบิด ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นภาคีของอนุสัญญานี้ ซึ่งระบุไว้ว่าห้ามใช้ ผลิต ถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล นอกจากนี้ ยังมีพันธกรณีในการเก็บกู้ กำหนดให้ประเทศภาคีต้องดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้งหมดในเขตอำนาจของตนภายใน 10 ปี หากสามารถพิสูจน์ได้ว่ากับระเบิดที่ทหารไทยเหยียบนั้นมาจากฝั่งกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการวางใหม่หรือเป็นของเก่าที่ยังไม่เก็บกู้ ก็ถือว่ากัมพูชาได้ละเมิดพันธกรณีนี้

  • เปิดฉากยิงฐานทัพไทย

เช้าวานนี้ (24 กรกฎาคม 68) กัมพูชาเปิดฉากยิงฐานปรฏิบัติการของกองทัพไทย ห่างจากปราสาทตาเมือนธมไปประมาณ 200 เมตร นับเป็นเสียงปืนนัดแรกที่ดังขึ้น และทำให้ทหารไทยในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทั้ง ๆ ที่ทหารชายแดนไทยมีการส่งสัญญานเตือนการล้ำเขตแดนด้วยวาจา เพื่อเป็นการหลักเลี่ยงความรุนแรง แต่ทหารกัมพูชา 6 นายติดอาวุธครบมือได้ติดตั้งอาวุธที่บริเวณลวดหนามกั้นเขตแดน ก่อนจะเริ่มยิงปะทะเข้ามาในฝั่งไทย  นับเป็นนการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง 

การที่กัมพูชาเริ่มโจมตีด้วยอาวุธสงครามใส่ฐานปฏิบัติการของไทย ถือเป็นการใช้กำลังที่ขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ เป็นหลักการสำคัญที่ห้ามรัฐสมาชิกใช้กำลังหรือข่มขู่ที่จะใช้กำลังต่อต้านบูรณภาพแห่งดินแดนหรือความเป็นอิสระทางการเมืองของรัฐใด ๆ นอกจากนี้ยังเข้าข่ายการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน (Violation of Sovereignty and Territorial Integrity) เพราะการที่กองทัพกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงเข้ามาในดินแดนไทย ถือเป็นการรุกล้ำและละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างชัดเจน

  • ถล่มโรงพยาบาลพนมดงรัก

ต่อมากองทัพกัมพูชาได้สั่งยิงจรวด BM-21 ทำให้จรวดตกลงที่โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ที่มีผู้ป่วย แพทย์ และพยาบาลอยู่ภายในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก และเกิดขึ้นในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังลำเลียงทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะเข้ามาส่งโรงพยาบาล ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยต้องเร่งอพยพหนีตายกันอย่างจ้าละหวั่น

การโจมตีโรงพยาบาลถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law - IHL) หรือที่เรียกว่ากฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อนุสัญญาเจนีวา (Geneva Conventions) ซึ่งกำหนดให้โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เป็นเป้าหมายที่ได้รับการคุ้มครองอย่างชัดเจนในสถานการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธ การโจมตีเป้าหมายพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานด้านมนุษยธรรมเช่นโรงพยาบาล ถือเป็น อาชญากรรมสงคราม

กระทรวงสาธารณสุขของไทยได้ออกมาประณามการกระทำของกัมพูชาว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

  • สังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์

กัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 (ซึ่งเป็นอาวุธปืนใหญ่หลายลำกล้อง) ตกใส่พื้นที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาบ้านผือ ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ระสุนได้ตกใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่ออาคารและโครงสร้างของปั๊มน้ำมัน มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ อย่างน้อย 7-8 ราย และมีผู้บาดเจ็บ ประมาณ 13-14 ราย ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งรวมถึงนักเรียนและประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้น

กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law - IHL) กำหนดให้คู่ขัดแย้งต้องแยกแยะอย่างชัดเจนระหว่าง เป้าหมายทางทหาร (Military Objectives) และ พลเรือนหรือวัตถุพลเรือน (Civilians and Civilian Objects) ปั๊มน้ำมันและร้านสะดวกซื้อเป็นสถานที่ที่ใช้โดยพลเรือน ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร การโจมตีสถานที่เหล่านี้โดยเจตนาหรือโดยไม่เลือกปฏิบัติ ถือเป็นการละเมิดหลักการแยกแยะอย่างร้ายแรง

ที่สำคัญคือกัมพูชาเลือกใช้การโจมตีด้วยอาวุธที่ไม่สามารถกำหนดเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ อย่างจรวด BM-21 ซึ่งเป็นอาวุธที่อาจมีรัศมีทำลายล้างกว้างและควบคุมทิศทางได้ยากในพื้นที่ที่มีพลเรือนอยู่ ถือว่าเข้าข่ายการโจมตีแบบไม่เลือกปฏิบัติ


แชร์
กัมพูชาละเมิดอะไรบ้าง? หลังถล่มโรงพยาบาล-สังหารพลเรือน