รัสเซียส่งยิงโดรน 400 ลำใส่ยูเครน สหรัฐฯ-ยุโรป ลั่นจะส่งอาวุธช่วยต้าน
รัสเซียยกระดับโจมตีทั้งคืน
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวว่า การโจมตีครั้งล่าสุดของรัสเซีย พบว่ากองทัพรัสเซียได้ส่งโดรนสังหารทั้งหมด 400 ลำ และยิงขีปนาวุธต่อเนื่องตลอดทั้งคืนมากถึง 18 ลูก เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 26 คน สถานทูตวาติกันในกรุงเคียฟได้รับความเสียหายเล็กน้อยจากการโจมตีของรัสเซีย โดยระบุในแถลงการณ์ว่า อาร์ชบิชอปวิสวัลดาส คุลโบคาส ทูตวาติกันประจำยูเครน เห็นโดรนบินวนรอบบริเวณสถานทูตและได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ได้โจมตีเป้าหมาย "อุตสาหกรรมทหาร" ในกรุงเคียฟ รวมถึงสนามบินทหารด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีพลเรือน แม้ว่าหลายเมืองในยูเครนถูกโจมตีเป็นประจำในช่วงสงคราม และมีผู้เสียชีวิตหลายพันคน
นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก เซอร์เกย์ ซอบยานิน เปิดเผยว่า ยูเครนก็โจมตีรัสเซียเช่นกัน แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียได้ยิงโดรนของยูเครนตก 4 ลำ ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของรัสเซีย สนามบิน 3 แห่งในกรุงมอสโก ได้แก่ โดโมเดโดโว วนูโคโว และจูคอฟสกี ได้ระงับการให้บริการเป็นการชั่วคราว แต่กลับมาให้บริการอีกครั้งในภายหลัง หน่วยงานการบินของรัสเซียกล่าว นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังระบุ ว่ามีโดรน 14 ลำถูกยิงตกเหนือเขตบรีอันสค์ และอีก 8 ลำเหนือเขตเบลโกรอด ซึ่งอยู่ติดกับยูเครน และในแถลงการณ์ฉบับบสุดท้ายในคืนที่ผ่านมา ระบุว่า โดรนทั้งหมด 26 ลำจากยูเครนถูกทำลายเหนือเขตเคิร์สค์และบรีอันสค์
สหประชาชาติระบุว่า การที่รัสเซียเพิ่มระดับการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธต่อเมืองต่าง ๆ ของยูเครน ทำให้จำนวนพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี สหประชาชาติยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 232 ราย และบาดเจ็บ 1,343 รายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ ซึ่งเป็นยอดรวมผู้เสียชีวิตสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2022
ยูเครนได้แรงหนุนจากสหรัฐฯ - ยุโรป
โดนัลด์ ทรัมป์ อาจกำลังเตรียมส่งอาวุธไปยังยูเครนโดยใช้อำนาจเบิกจ่ายอาวุธของประธานาธิบดี (PDA)ซึ่งเป็นดุลยพินิจที่โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยใช้เพื่อเร่งส่งอาวุธให้กองกำลังเคียฟ แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ทีมงานของทรัมป์จะระบุอาวุธจากคลังแสงของสหรัฐฯ เพื่อส่งไปยังยูเครนภายใต้อำนาจเบิกจ่ายอาวุธ (PDA) โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า อาวุธชุดนี้อาจมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีอำนาจเบิกจ่ายอาวุธ (PDA) เหลืออยู่อีก 3,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับยูเครน
สัปดาห์นี้ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐฯ จะส่งอาวุธไปช่วยยูเครนป้องกันตนเองจากการรุกคืบของรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งถือ เป็นการกลับลำอย่างชัดเจน หลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ภายใต้การนำของพีท เฮกเซธ พยายามระงับการส่งอาวุธของสหรัฐฯ ให้แก่ยูเครน ทั้งนี้ ยูเครนให้ความสำคัญสูงสุดกับระบบขีปนาวุธสกัดกั้นแพทริออตและปืนใหญ่จรวดเคลื่อนที่ GMLRS ซึ่งอาจรวมอยู่ในชุดอุปกรณ์นี้ อาวุธเหล่านี้อาจพร้อมส่งมอบในแนวหน้าภายในไม่กี่วัน เนื่องจากมีคลังอาวุธอยู่ในยุโรป
ในฝั่งของยุโรปก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์แห่งอังกฤษ และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เรียกร้องให้เพิ่มแรงกดดันในรูปแบบของมาตรการคว่ำบาตรมอสโกครั้งใหม่ เพื่อให้เกิดการหยุดยิงในยูเครน นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศยังประกาศว่า อังกฤษและฝรั่งเศสจะเพิ่มกำลังพลในกองกำลังผสมร่วม (CJEF) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อกว่าทศวรรษก่อน จาก 10,000 นาย เป็น 50,000 นาย
เคียร์ สตาร์เมอร์ ยังกล่าวอีกว่า แผนการจัดตั้งกองกำลังรักษาสันติภาพหลังการหยุดยิงสำหรับยูเครนนั้นพร้อมแล้ว และระบุว่า "เราควรเปลี่ยนงานของเราในการเตรียมความพร้อมสู่สันติภาพ มาเป็นการทำให้เกิดขึ้นจริงโดยการบีบให้ปูตินร่วมเจรจา... แรงกดดันที่ประสานกันนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลง"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนีแห่งอิตาลี ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน และวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ลินด์ซีย์ เกรแฮม และริชาร์ด บลูเมนธาล ได้เข้าร่วมการประชุมจากกรุงโรม ขณะที่ผู้นำยุโรปท่านอื่น ๆ ได้เดินทางมาจากที่อื่น ๆ ในคำกล่าวของเขา เซเลนสกีกล่าวว่า "เป็นที่ชัดเจนสำหรับพันธมิตรทุกฝ่ายว่ารัสเซียกำลังขัดขวางความพยายามสร้างสันติภาพทั้งหมด" พร้อมกับเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรมอสโกครั้งใหม่
