เมื่อวันอังคารที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทนายความของผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามและเมียนมา กล่าวหาว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งลูกความของพวกเขาไปยังซูดานใต้ และเป็นการละเมิดคำสั่งศาล
คำร้องดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของคดีที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวผู้อพยพไปยังประเทศที่สาม หลังรัฐบาลทรัมป์เดินหน้าผลักดันแผนการเนรเทศครั้งใหญ่
ตามข้อมูลจากทนายความซึ่งยื่นคำร้องเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาระบุว่า มีผู้อพยพอย่างน้อยสิบสองคนถูกส่งตัวไปซูดานใต้แบบกะทันหันในสัปดาห์นี้ โดยบางคนไม่ได้รับแจ้งอย่างเหมาะสมหรือไม่มีโอกาสในการคัดค้านการถูกส่งตัวไปยังประเทศที่สามแต่อย่างใด
แจ็กเกอลีน บราวน์ หนึ่งในทีมทนายความที่ยื่นคำร้อง อธิบายเหตุการณ์ก่อนที่ลูกความของเธอ N.M. ซึ่งเป็นชาวพม่าและพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก ถูกส่งตัวออกนอกประเทศ โดยลูกความของเธอได้รับแจ้งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แจ้งว่าจะถูกส่งตัวไปยังซูดานใต้โดยไม่มีล่าม ทำให้ทีมทนายเกิดความกังวล บราวน์ได้วางแผนนัดพบลูกความผ่านวิดีโอในเช้าวันอังคาร แต่เมื่อเธอตรวจสอบระบบออนไลน์ก็พบว่าเขาหายไปจากระบบควบคุมตัวแล้ว
บราวน์ให้การต่อศาลว่า เมื่อเวลา เวลา 8:27 น. ตามเวลาแปซิฟิก เจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมตัวพอร์ตไอซาเบลแจ้งว่า N.M. ถูกส่งตัวออกไปแล้วเมื่อเช้า เธอจึงส่งอีเมลถามว่าเขาถูกส่งไปประเทศใด และได้รับคำตอบในเวลา 8:36 น. ว่าซูดานใต้
ทนายความยังระบุด้วยว่า ผู้อพยพชาวเวียดนามรายหนึ่งก็ดูเหมือนจะเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกัน และเชื่อว่ายังมีสมาชิกในกลุ่มเดียวกันอีกอย่างน้อย 10 คนที่อยู่บนเที่ยวบินเดียวกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไบรอัน เมอร์ฟี ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐ ออกคำสั่งห้ามรัฐบาลทรัมป์ส่งตัวผู้อพยพไปยังประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดของพวกเขา หากไม่มีการแจ้งล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรและให้โอกาสในการคัดค้าน
ดังนั้นทนายความจึงโต้แย้งว่า การส่งตัวผู้อพยพเหล่านั้นไปยังซูดานใต้ครั้งนี้ถือว่าละเมิดคำสั่งศาล และกำลังร้องขอให้ศาลสั่งนำตัวพวกเขากลับมา พร้อมกับสั่งห้ามการส่งตัวไปประเทศที่สามในอนาคต เว้นแต่จะปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของผู้พิพากษาเมอร์ฟี
ด้านผู้พิพากษาไบรอัน เมอร์ฟี ระบุว่า การส่งตัวผู้อพยพดังกล่าวอาจละเมิดคำสั่งของเขาที่ออกเมื่อเดือนก่อน ซึ่งห้ามรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งตัวผู้อพยพไปยังประเทศที่สาม หากยังไม่ได้ให้โอกาส “อย่างมีนัยสำคัญ” ในการคัดค้านการเนรเทศนั้น
ผู้พิพากษาซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนและประจำอยู่ที่เมืองบอสตัน กล่าวกับทนายจากกระทรวงยุติธรรมว่า เขามีเหตุผลชัดเจนที่เชื่อว่าคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของเขาได้ถูกละเมิด
อย่างไรก็ตาม ทนายความจากกระทรวงยุติธรรม เอลิอานิส เปเรซ ระบุว่า หนึ่งในผู้อพยพที่เป็นชาวเมียนมาถูกส่งตัวกลับเมียนมา ไม่ใช่ซูดานใต้
ส่วนผู้อพยพอีกคนซึ่งเป็นชายชาวเวียดนาม เธอปฏิเสธที่จะเปิดเผยปลายทาง โดยอ้างว่าเป็น “ข้อมูลลับ” และกล่าวว่า เขาเคยถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรม
ขณะเดียวกัน ทนายความจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีผู้ต้องหาคดีข่มขืนอย่างน้อยหนึ่งคนอยู่ในเที่ยวบินส่งตัวครั้งนี้ด้วย
ผู้พิพากษาเมอร์ฟีไม่ได้สั่งให้เครื่องบินเดินทางกลับสหรัฐฯ แต่มีคำสั่งให้ผู้อพยพที่ถูกส่งตัวออกไปยังอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล และต้องได้รับ “การปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรม” ระหว่างรอการไต่สวนในวันพุธ
BBC, CNN