positioning

“แมคโดนัลด์” ทุ่ม 500 ล.ลุยปีหน้า ปรับ“สูตร-วัตถุดิบ”ทำเบอร์เกอร์

4 พ.ย. 66
“แมคโดนัลด์” ทุ่ม 500 ล.ลุยปีหน้า ปรับ“สูตร-วัตถุดิบ”ทำเบอร์เกอร์
ผู้จัดการรายวัน 360 – “แมคโดนัลด์” เดินเกมรุกหนัก ตอบรับสถานการณ์จับจ่ายดีขึ้น ปีหน้าทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท ขยายสาขาใหม่เพียบ ส่วนปีนี้ใช้งบกว่า 300 ล้านบาท เพิ่มสาขาใหม่ พร้อมปรับกลยุทธ์ตามนโยบายบริษัทแม่ ปรับสูตรและวิธีการผลิต
นางสาวพัชนีวรรณ ตันประวัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมคิวเอสอาร์หรือฟาสต์ฟู้ดในไทย จากตัวเลขช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีมูลค่ารวมประมาณ 38,000 กว่าล้านบาท โดยแบ่งเป็นเซกเมนต์ไก่ทอดมากที่สุด คือ 21,000 ล้านบาท เซ็กเมนต์พิซซ่ามูลค่า 8,400 ล้านบาท และเซ็กเมนต์เบอร์เกอร์ 7,200 ล้านบาท โดยยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการทำตลาดของรายเก่ารวมทั้งการเข้ามาสู่ตลาดของแบรนด์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ในส่วนของแมคโดนัลด์ ก็ยังมีการลงทุนรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าและสร้างรายได้การเติบโตให้กับองค์กร โดยปี 2566 นี้ ลงทุนประมาณ 300 กว่าล้านบาทในการขยายสาขาใหม่และรีโนเวทสาขาเดิม ซึ่งล่าสุดก็คือการรีโนเวทสาขาเดิมที่เดอะมอลล์บางแค เป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ ซึ่งทางศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแคมีการรีโนเวใหม่เช่นกัน ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขาแมคโดนัลด์รวมประมาณ 227 สาขา
โดยปี2566นี้เปิดไปแล้ว 5 สาขาคือ สุวรรณภูมิโซนที่เปิดใหม่ ลิโด้สยามสแควร์ เดอะมอลล์บางกะปิ วอล์กกิ้งสตรีทพัทยา เดอะมอลล์บางแค ส่วนปีหน้ามีแผนที่จะเปิดไม่ตต่ำกว่า 10 สาขา ใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท โดยจะเน้นไปที่รูปแบบไดร์ฟทรูเป็นหลัก จากปัจจุบันที่มีสาขาแบบไดรืฟทรูแล้ว 83 สาขา

สำหรับภาพรวมของตลาดขณะนี้ นางสาวพัชนีวรรณ กล่าวให้ความเห็นว่า สถานการณ์โดยรวมเริ่มกลับมาดีขึ้น กำลังซื้อเริ่มกระเตื้อง อย่างไรก็ตามพฤติกรรมลูกค้าก็ต้องการความคุ้มค่ามากขึ้น (Value for Money) ซึ่งแมคโดนัลด์ก็มีชุดที่ราคาประหยัดตอบสนอง ขณะที่กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาไม่มากนักประมาณ 60% เท่านั้น ส่วนลูกค้าของแมคโดนัลด์เองขณะนี้กลับมาที่ประมาณ 80% แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด

ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ ตั้งแต่มกราคม ถึง ตุลาคมปีนี้ ของแมคโดนัลด์ แบ่งเป็๋นช่องทาง ร้านอาหาร 60% ช่องทางดีลิเวอรี่ 30% และช่องทางไดร์ฟทรู 10% ขณะที่สัดส่วนรายได้มาจาก กลุ่มเบอร์เกอร์ 52.6% และกลุ่มไก่ทอด 18.4% ที่เหลืออื่นๆ ซึ่งไก่ทอดมีการเติบโตมากถึง 30%
ล่าสุดแมคไทย ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจตามนโยบายของบริษัทแม่ในอเมริกา ด้วยแคมเปญ “ Next Gen Burger ประสบการณ์เบอร์เกอร์ที่ดีที่สุด” ได้เริ่มที่อเมริกาที่แรก เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา และทยอยปรับเปลี่ยนไปในหลายประเทศแล้ว ในออสเตรเลีย ส่วนในภูมิภาคเอเชีย คือประเทศเกาหลีใต้, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และวันนี้ได้มาที่แมคโดนัลด์ ประเทศไทยแล้ว ภายใต้แนวคิด ‘Many small changes make one big difference’ โดยการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ แมคโดนัลด์ได้ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความอร่อยครั้งใหม่ของ ‘Next Gen Burger’ ให้กับลูกค้า ซึ่งเราได้มีการเปลี่ยนขนมปังใหม่ เปลี่ยนวิธีการย่างเนื้อ , เสิร์ฟร้อนๆ ชีสเยิ้มๆ เพื่อให้ เบอร์เกอร์ทุกชิ้นอร่อยกว่าที่เคย – Hotter, Juicier, Tastier”ประกอบด้วย
1. Softer Glazed Bun : ขนมปังแบบใหม่ นุ่มขึ้น มันวาวขึ้น ขนมปังปรับสูตรใหม่ ให้เนื้อสัมผัสนุ่มเด้งกว่าเดิม เคลือบด้านบนจนเป็นมันวาว มีสีสันสวยงาม Golden-Brown น่าทานยิ่งขึ้น เสิร์ฟร้อนๆ เพื่อประสบการณ์ความอร่อยที่ดีที่สุดของเบอร์เกอร์

2. Grilled Master : เนื้อ 100% นำเข้าจากออสเตรเลีย ชุ่มฉ่ำขึ้นด้วยวิธีย่างเนื้อแบบใหม่ เปลี่ยนวิธีกริลเนื้อให้ชุ่มฉ่ำขึ้น ด้วยการกริลเนื้อพร้อมกับหัวหอม เพิ่มความชุ่มฉ่ำ ล็อครสชาติความอร่อยเต็มรสให้กับเนื้อทุกชิ้น

3. Cheese Tempering : เชดด้าชีส นำเข้าจากนิวซีแลนด์ เสิร์ฟที่อุณหภูมิที่เหมาะสม เข้ากับเบอร์เกอร์อย่างลงตัวเปลี่ยนวิธีการเตรียมชีส ด้วยการนำมาพักไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 16 – 19 องศา เพื่อให้ชีสละลายในระดับที่เหมาะสม ให้มั่นใจได้ว่าเบอร์เกอร์ทุกชิ้นที่เสิร์ฟจะมีชีสเยิ้มๆ ละลายเข้าเนื้ออย่างลงตัว

4. Fresh Vegetable : ผักใหม่ สด กรอบ ในเบอร์เกอร์ทุกชิ้นที่เสิร์ฟ เปลี่ยนขั้นตอนการเตรียมผัก โดยลดระยะเวลาการเก็บผักให้สั้นลงถึง 60% เพื่อให้ผักยังคงความสดใหม่ และมีเนื้อสัมผัสที่กรอบฉ่ำทุกคำ

5. Sauce : อร่อยลงตัวกว่าเดิม เพิ่มปริมาณซอสทั่วทั้งชิ้น เพิ่มปริมาณของซอสบิกแมคสูตรเฉพาะของแมคโดนัลด์ ให้เพิ่มขึ้นถึง 50% เพื่อให้ได้รสชาติอร่อยกลมกล่อมของซอสในทุกคำ

Powered By : Positioning

advertisement

SPOTLIGHT