positioning

บางจากชี้กำไร6ด.แรกปีนี้วูบ 66.8% จับตา!ครึ่งปีหลังค่ากลั่นขยับสูง

9 ส.ค. 66
บางจากชี้กำไร6ด.แรกปีนี้วูบ 66.8% จับตา!ครึ่งปีหลังค่ากลั่นขยับสูง
บางจากเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 148,403 ล้านบาท มี EBITDA 17,620 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,199 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,633 ล้านบาท เป็นผลจากราคาพลังงานปรับลดลง คาดกำไรครึ่งปีหลังนี้ส่อแววดี มาจากราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นดันค่าการกลั่นขยับขึ้น

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 ว่าบริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 148,403 ล้านบาท คิดเป็น EBITDA 17,620 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,199 ล้านบาท ลดลง66.8%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,633 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในครึ่งแรกของปี 2566 อยู่ที่ 78.92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจาก 102.17 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในครึ่งปีแรกของปี 2565 และมี Inventory Loss จำนวน 2,952 ล้านบาท

สาเหตุที่ราคาพลังงานปรับลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ทำให้กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันได้รับปัจจัยกดดันด้วย ส่วนการลงทุนในส่วนอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ อาทิ การเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนเพิ่มเติมในนอร์เวย์ของ OKEA จาก Wintershall Dea และการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติสองแห่งในสหรัฐอเมริกา ช่วยหนุนการขยายธุรกิจและเพิ่มรายได้โดยรวม

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA รวม 5,402 ล้านบาท จากค่าการกลั่นพื้นฐาน (Operating GRM) ปรับลดลงจาก 15.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในครึ่งแรกของปี 2565 มาอยู่ที่ 8.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สาเหตุหลักมาจาก Crack Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ปรับลดลงตามภาวะตลาดโลก โดยในครึ่งแรกของปีมีการรับรู้ Inventory Loss 3.23 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลหรือเทียบเท่า 2,443 ล้านบาทตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและให้บริการ 68,023 ล้านบาท EBITDA 6,628 ล้านบาท มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 458 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,276 ล้านบาท

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2566 คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้นจากสภาวะอุปทานในตลาดดึงตัวและอุปสงค์น้ำมันจากจีนที่ฟื้นตัว ทั้งนี้ คาดว่าในไตรมาส 3 ของปี 2566 ค่าการกลั่นของโรงกลั่นประเภท Cracking ที่สิงคโปร์มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ของปีตามปัจจัยหนุนจากตลาดน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น
กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA รวม 1,290 ล้านบาท โดยค่าการตลาดรวมสุทธิต่อหน่วยปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถปรับราคาขายปลีกให้สอดคล้องกับต้นทุนน้ำมันได้มากขึ้น ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเติบโตสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 อยู่ที่ 3,191 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการฟื้นตัวของน้ำมันอากาศยาน รวมถึงการผลักดันยอดจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า มี EBITDA รวม 1,841 ล้านบาท โดยหลักเป็นผลจากการทยอยสิ้นสุด Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ และการรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาว ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการหยุดผลิตไฟฟ้าเพื่อเตรียมขายไฟฟ้าไปยังการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมเวียดนาม ทั้งนี้ BCPG ได้มีการประกาศเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 4 โครงการในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เพิ่มกำลังการผลิตจาก 390.7 เมกะวัตต์เป็น 968.7 เมกะวัตต์

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มี EBITDA รวม 245 ล้านบาท โดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซลมีกำไรขั้นต้นปรับลดลงจากราคาขายไบโอดีเซล กลีเซอรีนดิบและกลีเซอรีนบริสุทธ์ที่อ่อนตัว ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลมีรายได้จากการขายและกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากราคาขายเอทานอลเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Value Products (HVP) มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับการดูแลและส่งเสริมสุขภาพภายใต้แบรนด์ B nature+

กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มี EBITDA รวม 9,115 ล้านบาท ปริมาณจำหน่ายของ OKEA เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 93 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณการจำหน่ายมากกว่ากำลังการผลิตตามสัญญาอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 1 ของปี 2566 และการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งแรกของปี 2566 จากแหล่งผลิตที่รับโอนกิจการมาจาก Wintershall Dea ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565
ทั้งนี้ ตามที่บริษัทฯ ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นในบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จากบริษัท ExxonMobil Asia Holding Pte. Ltd. ขณะนี้บริษัทฯ ได้รับความเห็นชอบแบบมีเงื่อนไขจากสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าให้รวมธุรกิจเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อพิจารณาแนวทางในการดำเนินการรวมธุรกิจ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งเมื่อการทำธุรกรรมเสร็จสิ้นจะเป็นการช่วยเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจน้ำมันให้กับกลุ่มบริษัทบางจาก ในขณะเดียวกันก็จะส่งผลดีต่อประเทศ ทั้งการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน การเข้าถึงพลังงาน และส่งต่อประโยชน์สู่ทั้งคู่ค้าและผู้บริโภค

Powered By : Positioning

advertisement

SPOTLIGHT