positioning

“ บางจาก”เร่งพิจารณาคำสั่งกขค. ลั่นไม่ล้มดีลควบรวมเอสโซ่แน่นอน

25 ก.ค. 66
“ บางจาก”เร่งพิจารณาคำสั่งกขค. ลั่นไม่ล้มดีลควบรวมเอสโซ่แน่นอน
“ชัยวัฒน์”บิ๊กบางจาก ขอเวลาพิจารณาคำสั่งกขค. เงื่อนไขอนุมัติให้บางจากควบรวมเอสโซ่ ก่อนตัดสินใจสรุปยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ยันยังอยู่ในช่วงไทม์ไลน์ที่กำหนดปิดดีลเอสโซ่ภายในปลายปีนี้ ยันไม่ล้มดีลควบรวมเอสโซ่แน่นอน

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณา 6เงื่อนไขอย่างละเอียดตามที่คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.) ได้กำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขประกอบการอนุญาตให้รวมธุรกิจ ระหว่าง BCP และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ ESSO เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรวมธุรกิจ โดยBCPได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมวิเคราะห์คำสั่งและปรึกษาหารือก่อนจะมีข้อสรุป ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง

หากบริษัทไม่เห็นด้วยกับคำสั่งและเงื่อนไขของกขค. ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองภายใน 60วันนับจากวันที่ได้รับคำสั่ง ซึ่งก็ยังอยู่ในช่วงกำหนดเวลาที่บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าดีลซื้อเอสโซ่จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส4 ปีนี้ ยืนยันว่าไม่ล้มดีลซื้อESSOแน่นอน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) พิจารณาคำขออนุญาตรวมธุรกิจระหว่างบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP)และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) โดยคำนึงถึงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามมาตรา 52 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 แล้ว เห็นว่าการรวมธุรกิจดังกล่าวมีความจำเป็นตามควรทางธุรกิจและเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม การรวมธุรกิจดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมทั้งห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการรวมธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างตลาดโรงกลั่นน้ำมัน ตลาดการค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และตลาดการค้าปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมผ่านสถานีบริการ ทำให้การกระจุกตัวของตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ถึงระดับที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง จึงเห็นควรอนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่างบางจาก และ เอสโซ่

สำหรับเงื่อนไขที่กขค.กำหนดมี 6 ข้อ คือ 1.
ห้ามมิให้บางจากฯ เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของหน่วยงานภาครัฐ เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เว้นแต่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น

2.ให้บางจากฯจัดซื้อน้ำมันดิบจากคู่ค้ารายใดรายหนึ่งไม่เกินกว่าร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันดิบจากรายใดรายหนึ่งมากเกินไป ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความมั่นคงทางพลังงาน เว้นแต่เป็นการจัดซื้อน้ำมันดิบจากผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการของบางจาก

3.ให้บางจาก คงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างลูกค้าในตลาดค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ได้ทำไว้กับบริษัท เอสโซ่ จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขในสัญญาเดิม
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลง ต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้าในตลาดค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมรายนั้นด้วย#8195;
4ให้บางจาก คงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบธุรกิจสถานีบริการภายนอกของแบรนด์ ESSO ที่ได้ทำไว้กับบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขในสัญญาเดิม
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลง ต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ประกอบธุรกิจสถานีบริการภายนอกของแบรนด์ ESSO รายนั้นด้วยหากผู้ประกอบธุรกิจสถานีบริการภายนอกของแบรนด์ ESSO มีข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ว่าได้รับผลกระทบจากการรวมธุรกิจดังกล่าวสามารถใช้เป็นเหตุผลในการบอกเลิกสัญญาได้ โดยต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ

5.ให้บางจาก จัดทำแผนการพัฒนานวัตกรรม
ด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจพลังงานสีเขียว โดยต้องดำเนินโครงการไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมา และต้องมีงบประมาณในการดำเนินโครงการที่เกี่ยวกับการส่งเสริมพลังงานสีเขียวและการจัดการสิ่งแวดล้อม ไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ

6.ให้บางจาก จัดทำแผนการส่งผ่านประโยชน์ที่ได้รับจากการรวมธุรกิจไปสู่ผู้บริโภคและสังคม โดยต้องดำเนินโครงการไม่น้อยกว่าในปีที่ผ่านมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ เพื่อเป็นหลักประกันการส่งผ่านประโยชน์ไปยังผู้บริโภคและสังคม ซึ่งรวมถึง
ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ด้วย พร้อมทั้งจัดทำแนวทางปฏิบัติ กรอบเวลาดำเนินการ ตัวชี้วัด และให้ปฏิบัติตามแผนการดังกล่าว โดยให้จัดทำแผนการดำเนินงานเสนอต่อคณะกรรมการการแข่งขัน
ทางการค้าภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ บางจากฯจะดำเนินการซื้อหุ้น 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของเอสโซ่จาก ExxonMobil ภายหลังจากได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นก็จะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้น ESSO ที่เหลือทั้งหมดภายใน 25-45 วัน มั่นใจว่าการทำธุรกรรมจะสิ้นสุดหรือจบดีลภายในสิ้นปี 2566

ส่วนราคาซื้อขายหุ้นสุดท้ายคงต้องรองบการเงินของ ESSO ในไตรมาส 2/2566 แล้วเข้าสูตรในการคำนวณออกมาเป็นราคาเสนอซื้อหุ้น ESSO เชื่อว่าราคาสุดท้ายจะอยู่ในช่วงที่ 8-9 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาเสนอซื้อหุ้น ESSO จาก ExxonMobil และใช้ในการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ ซื้อหุ้นESSOคืนจากรายย่อย คิดเป็นมูลค่ากิจการ 5.5หมื่นล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนในการซื้อหุ้น ESSO นั้นมาจากกระแสเงินสดและการกู้ยืมจากสถาบันการเงินด้วย

Powered By : Positioning

advertisement

SPOTLIGHT