คนไทย ‘ถอยห่างทีวี - หนีหา TikTok’ สื่อเปลี่ยนไป ธุรกิจต้องตามให้ทัน

TikTok ยังคงเติบโตอย่างร้อนแรงในประเทศไทย ขณะที่สื่อดั้งเดิมอย่าง ‘วิทยุ-และทีวี’ ประสบปัญหามีผู้ชมลดลงอย่างต่อเนื่อง พฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนแปลงไปของคนไทยไม่เพียงส่งผลต่อผู้ที่อยู่ในธุรกิจสื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสให้กับการเข้าถึงผู้โภคของธุรกิจที่ต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคอีกด้วย

 

ยอด TikTok เข้าถึงคนไทยเพิ่ม แต่คนไทยดูทีวี - ฟังวิทยุลดลง

 

Kantar บริษัทวิจัยชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกและที่ปรึกษาทางการตลาดระดับโลก ได้เปิดเผยข้อมูลการเสพสื่อของผู้บริโภคชาวไทย โดยมีข้อมูลด้านการบริโภคสื่อที่น่าสนใจดังนี้

สถิติด้านการเข้าถึงผู้บริโภคของสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media Penetration) ของแต่ละแพลตฟอร์มยอดฮิตในประเทศไทย พบว่า แต่ละโซเชียลมีเดียยอดฮิตของไทย มีความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่ TikTok สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้เพิ่มจากเดิมกว่า 2 เท่า จาก 20% เป็น 48% แม้ยังห่างจากผู้นำนตลาดอย่าง Line และ Facebook ที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้กว่า 90% แต่ก็ถือเป็นการเติบโตที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

 

สถิติการเข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นดังนี้

• Line
  97% (ปี 2023) vs 97% (ปี 2022)
  
• Facebook
  90% (ปี 2023) vs 91% (ปี 2022)
  
• YouTube
  87% (ปี 2023) vs 89% (ปี 2022)
  
• FB Messenger
  84% (ปี 2023) vs 79% (ปี 2022)
  
• TikTok
  48% (ปี 2023) vs 20% (ปี 2022)
  
• IG
  25% (ปี 2023) vs 23% (ปี 2022)

โดยจากสถิติเผยว่า คนไทยใช้ TikTok เฉลี่ยน้อยกว่า 30 นาทีต่อวัน ส่วนคอนเทนต์ที่นิยมดูบนโซเชียลมีเดียสูงสุดนั้น เป็นคอนเทนต์ที่ดูแลแล้วผ่อนคลาย (Satisfying/Calming Video) มากสุด รองลงมา คือ คอนเทนต์สัตว์เลี้ยงและเด็กน่ารัก

 

นอกจากนี้ Kantar ยังเผยสถิติเกี่ยวกับสื่อดังเดิม ได้แก่ วิทยุและโทรทัศน์ ว่ามีคนไทยที่ไม่ได้ดูทีวี และฟังวิทยุเลยภายใน 3 เดือนที่ผ่านมา มีสถิติเป็นเท่าใด ผลปรากฏว่า

•  มีสัดส่วนคนไทยที่ไม่ได้ดูทีวีในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา
  
  19% (ปี 2023) vs 11% (ปี 2022)
  
• และมีสัดส่วนคนไทยที่ไม่ได้ฟังวิทยุในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา
  
  68% (ปี 2023) vs 58% (ปี 2022)

 

หากเทียบกับปีก่อนหน้านี้ จะพบว่า มีผู้ที่ไม่ได้ดูทีวี และฟังวิทยุเลยในรอบ 3 เดือน เพิ่มขึ้นราว 10% สถิติดังกล่าว ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ธุรกิจวิทยุและโทรทัศน์กำลังเผชิญความท้าทายอย่างหนัก จากทั้งผู้ชมที่ถูกแย่งความสนใจไปยังสื่ออื่นๆ และเม็ดเงินโฆษณาที่ถูกดึงออกไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่เป็นศูนย์รวมความสนใจของผู้คนมากกว่า

 

ปี 2023 ยังเป็นปีทองของ TikTok และยังร้อนแรงเพิ่มขึ้นในหมู่ชาวไทย

 

TikTok ไม่ใช่เพียงมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังกลายเป็น ‘แพลตฟอร์มโปรด’ ของคนไทยจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ข้อมูลจาก Digital 2023: Thailand ที่รวบรวมโดย We are social เผยว่า TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มขวัญใจคนไทยจำนวนเพิ่มมากขึ้น จากอันดับที่ 3 ในปี 2022 ขึ้นสู่อันดับที่ 2 ได้ในปีนี้ เบียดแซง LINE เป็นรองเพียง Facebook เท่านั้น

สถิติแอปขวัญใจคนไทย 5 อันดับแรกจาก We are social

•  ปี 2023
  
  1. Facebook 37.3%
  2. TikTok 21.3%
  3. LINE 16.1%
  4. Instagram 8.6%
  5. FB Messsenger 5.9%
  
• ปี 2022
  
  1. Facebook 40.8%
  2. LINE 15.8%
  3. TikTok 15.7%
  4. Instagram 10.4%
  5. FB Messsenger 6.4%

 

ในแง่ของการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อการโฆษณานั้น หากเทียบกับแพลตฟอร์มรุ่นพี่อื่นๆ พบว่า จำนวนผู้ใช้งานที่โฆษณาบนแพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงได้ (Potential Reach) เทียบกับประชากรบนโลกอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในประเทศไทย ในปี 2023 เป็นดังนี้

•  Facebook
  การเข้าถึงผู้ชม 48.10 ล้านคน
  เทียบกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดแล้วคิดเป็น 78.6%
  มีสัดส่วนเป็นเพศหญิง 51.0%
  มีสัดส่วนเป็นเพศชาย 49.0%
   
  
• YouTube
  การเข้าถึงผู้ชม 43.90 ล้านคน
  เทียบกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดแล้วคิดเป็น 71.7%
  มีสัดส่วนเป็นเพศหญิง 52.0%
  มีสัดส่วนเป็นเพศชาย 48.0%
   
  
• TikTok
  การเข้าถึงผู้ชม 40.28 ล้านคน
  เทียบกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดแล้วคิดเป็น 65.8%
  มีสัดส่วนเป็นเพศหญิง 60.0%
  มีสัดส่วนเป็นเพศชาย 40.0%

 

จากสถิติจะเห็นได้ว่า ความสามารถของการยิงโฆษณาบน TikTok สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้ในระดับมากกว่า 40 ล้านคน ไม่ยิ่งย่อนไปกว่าแพลตฟอร์มรุ่นพี่อย่าง Facebook และ YouTube โดยมีสัดส่วนผู้หญิงต่อผู้ชายบนแพลตฟอร์มสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ
 

จากสถิติที่นำมาเสนอนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร้อนแรงของ TikTok แพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้นที่ไม่ได้โดดเด่น แค่การเป็นแพลตฟอร์มที่มอบความบันเทิงให้กับผู้ใช้งานชาวไทย และชาวโลกเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพที่น่าสนใจในการเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการโฆษณา และการสร้าง Engagement กับลูกค้าผ่านคอนเทนต์สร้างสรรค์ในรูปแบบคลิปสั้นได้อีกด้วย

 

นอกจากฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ TikTok ที่ทยอยเพิ่มขึ้นมาเพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้กับทั้งผู้ใช้ และธุรกิจ อย่าง TikTok Live, TikTok Shop แล้ว สิ่งที่แบรนด์และธุรกิจพึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ ข่าวจากฝั่งสหรัฐ ที่ TikTok ถูกตั้งคำถามเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้า ซึ่งอาจสร้างความสั่นสะเทือน และความตื่นตัวมาถึงประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ และอาจส่งผลต่อการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มคลิปสั้นอันแสนร้อนแรงแพลตฟอร์มนี้ก็เป็นได้

 

ที่มา : Kantar, We are social