อินไซต์เศรษฐกิจ

เปิดใจ 3 ยักษ์ใหญ่อสังหาฯ ต้นทุนก่อสร้างพุ่ง!ราคาบ้านจ่อปรับขึ้น

16 มี.ค. 65
เปิดใจ 3 ยักษ์ใหญ่อสังหาฯ  ต้นทุนก่อสร้างพุ่ง!ราคาบ้านจ่อปรับขึ้น

902591

 

"แสนสิริ" เตรียมขึ้นราคาบ้านตามต้นทุนก่อสร้างที่เพิ่ม

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว "SPOTLIGHT" ยอมรับว่าแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เร่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อภาพรวมของต้นทุนการทำธุรกิจรวมทั้งหมด ทั้งราคาของวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

เพราะมีสาเหตุเกิดจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นซึ่งมีผลกระทบต่อต้นทุนพลังงานที่ใช้ในการผลิตและขนส่งวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างให้ปรับขึ้นตามไปด้วย โดยประเมินว่าจะส่งให้ผลต้นทุนของภาพรวมอุตสหกรรมอสังริมทรัพย์จะปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 3-5%

 

อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงปลายปี 2564 บริษัทแสนสิริได้เริ่มทยอยทำสัญญาล็อคราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างกับซัพพลายเออร์ไว้ล่วงหน้าเฉลี่ยประมาณ 3- 6 เดือน เนื่องจากเริ่มเห็นแนวโน้มสัญญาณของราคาวัสดุอุปกรณ์มีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทยังสามารถบริหารต้นทุนในการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีแรกได้ แต่สัญญาล็อคราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างสัญญาดังกล่าวกำลังจะทยอยครบในช่วงกลางปีนี้

 

ดังนั้นส่งผลให้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้บริษัทมีโอกาสจะเริ่มทยอยปรับขึ้นราคาขายโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมใหม่เฉลี่ยประมาณ 3-5% เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและค่าขนส่งที่ปรับตัวเพิ่ม โดยยังไม่ยังนับรวมผลกระทบของค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่ในอนาคตมีโอกาสจะปรับตัวเพิ่มด้วย ทั้งนี้ต้นทุนในการก่อสร้างโครงการของบริษัทแบ่งเป็นต้นทุนค่าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างสัดส่วนประมาณ 70% และที่เหลือเป็นต้นทุนค่าแรงอีกประมาณ 30%

 

"ประเด็นต้นทุนที่ขึ้นตอนนี้ไม่ใช่แค่เหล็กอย่างเดียวที่ราคาขึ้น แต่มาจากราคาน้ำมันสูงขึ้นทำให้วัสดุก่อสร้างทั้งหมดที่ใช้พลังงานในการผลิตหรือการขนส่งทั้งหมดมีราคาขึ้นตามไปด้วย สุดท้ายกระทบกับต้นทุนให้ขึ้นแน่นอน ทำให้บริษัทจะขึ้นราคาขายบ้านช่วงครึ่งปีหลัง 3-5% ตามต้นทุนที่ขยับขึ้น" นายอุทัย กล่าว

 

สำหรับแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในช่วงครึ่งหลังปีนี้เชื่อว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก โดยประเมินว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนมีโอกาสจะจบภายใน 1 เดือน ส่งผลให้คาดว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากผลกระทบดังกล่าวมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงสู่ภาวะปกติทำให้ต้นทุนสินค้ามีโอกาสลดลง รวมถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และภาคการท่องเที่ยวที่ทยอยเปิดผ่อนคลายมาตรการควบคุมเพิ่มมากขึ้นเป็นปัจจัยบวกให้กำลังซื้อทยอยฟื้นตัวและประชาชนมีความเชื่อมั่นที่จะใช้จ่ายมากขึ้น

 

ด้านแผนธุรกิจของบริษัทแสนสิริในปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ประมาณ 35,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ได้อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท อีกทั้งในปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการใหม่จำนวน 46 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 50,000 ล้านบาท ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่เปิดโครงการใหม่ไปเพียงมูลค่า 7,000 ล้านบาท

 

ขณะที่รายได้รวมปีนี้ยังคงเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 35,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนมีรายได้ประมาณ 30,000 ล้านบาท เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนจากภาพรวมของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่อั้นมา 2 ปีจะกลับมาซื้อในปีนี้หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มมีทิศทางดีที่ขึ้น

 

ส่วนกรณีที่มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลประกาศออกกำหนดให้มีการลดค่าการจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% และค่าจดทะเบียนจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% โดยมีผลเริ่มใช้ในวันนี้เป็นวันแรกถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 นี้ นั้น มองว่าเป็นมาตรการที่ดีเพราะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนที่มีกำลังซื้อพร้อมและมีแผนที่ตัดสินใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัยอยู่แล้วสามารถเร่งตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้นเพราะมีค่าใช้จ่ายลดลง

 

 

810950

 

"พฤกษาฯ" เล็งปรับขึ้นราคาบ้านเกิน 5 ล้านบาท


ด้านนายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวกับทีมข่าว "SPOTLIGHT" ว่า ในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีแผนจะพิจารณาปรับขึ้นราคาขายโครงการที่อยู่อาศัยประมาณ 3-5% ในกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยที่มราคาขายเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อสะท้อนต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นจริง

 

โดยกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อและความต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริงอยู่ แต่จะต้องมีการปรับสเป็คกับแบบบ้านใหม่ให้มีมูลค่าคุ้มค่าและตรงกับความต้องการซื้อของลูกค้า

 

ขณะที่ในโครงการกลุ่มราคาต่ำกว่าระดับ 5 ล้านบาทลงมาจะยังคงราคาไว้ที่ระดับเดิมซึ่งกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนประมาณ 60% ของโครงการรวมของบริษัท โดยเน้นกลยุทธ์การปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงการปรับเปลี่ยนออกแบบในโครงการให้เป็นรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้มีต้นทุนการก่อสร้างลดลง โดยวิธีรีเอ็นจิเนียริ่ง

 

แต่ยังคงคุณภาพและรูปโฉมของโครงการให้ยังตรงตามที่ลูกค้าต้องการ และปรับเปลี่ยนการออกแบบสวนสาธารณะในโครงการใหม่ให้มีต้นทุนลดลง เนื่องจากหากมีการปรับขึ้นราคาขายโครงการกลุ่มนี้จะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้าให้ลดลง

 

"ระยะสั้นเราคงตรึงราคาขายบ้านต่อไปได้ถึงกลางปีนี่ ช่วงครึ่งปีหลังคงพิจารณาขึ้นราคาขายกลุ่มราคาบ้านที่เกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป เพราะจริงๆ ตอนนี้ต้นทุนน้ำมันและก่อสร้างขึ้นมา 3-5% ต้องรับยอมรับว่ามีผลกระทบค่อนมากเหมือนกัน โชคดีที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราได้ทำแผนลดต้นทุนลงไปได้ 10%" นายปิยะ กล่าว

 

สำหรับในปี 2565 พฤกษามีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 31 โครงการ มูลค่า 16,300 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายปี 2565 ตั้งเป้าหมายเติบโตมากกว่า 10% จากปีก่อนที่ทำได้ประมาณ 26,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตประมาณ 15% จากปี 2564 มีรายได้ประมาณ 29,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่เปิดตั้งแต่ปีก่อนและมียอดขายที่ดีต่อเนื่องจากปีนี้ รวมถึงโครงการใหม่ที่เปิดเพิ่มในปีนี้ อีกทั้งยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริงที่เติบโต

 

 

444842

 

"ออริจิ้น" ยังไหวไม่ขึ้นราคาบ้าน บริหารต้นทุนได้ 

 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวกับทีมข่าว "SPOTLIGHT" ว่า บริษัทยังไม่มีแผนในการปรับขึ้นราคาขายโครงการที่อยู่อาศัย เนื่องจากยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนควบคุมต้นทุนได้

 

"การก่อสร้างโครงการใช้เวลาระยะยาว เรามองว่าน้ำกับต้นทุนที่ปรับขึ้นจะเป็นสถานการณ์ระยะสั้นๆ มองว่าสงครามคงไม่เกิดยาวนานนัก ตอนนี้ผู้รับเหมาของเรายังบริหารจัดการต้นทุนได้เพราะตอนนี้เตรียมซื้อของที่จะใช้ก่อสร้างไว้หมดแล้ว หากสงครามคลี่คลายต้นทุนก็น่าลดลงตามไปด้วย"

 

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT