การเงิน

หุ้น "ยานแม่" SCBX พร้อมเทรดพรุ่งนี้วันแรก

26 เม.ย. 65
หุ้น "ยานแม่" SCBX  พร้อมเทรดพรุ่งนี้วันแรก

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ประกาศผ่านเว็บไซต์ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอบรับหุ้น บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ชื่อตัวย่อ SCB ให้เข้าซื้อขายเป็นวันแรกพรุ่งนี้ (27 เม.ย.) ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน กําหนดใช้ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์(SCBB) วันนี้(26 เม.ย.) ปิดตลาดที่ 71 บาทต่อหุ้น เป็นราคาอ้างอิงแทนหุ้นราคาไอพีโอ ตามเกณฑ์คำนวณ ราคาสูงสุด(Ceiling)และราคาต่ำสุด(Floor)

ราคาหุ้น SCBB วันนี้(26 เม.ย.) ปิดที่ 71 บาท ติดลบ 2.74%

 

โดยหุ้น บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) และมีธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ เป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก

 

สำหรับหุ้น SCB จะซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) หมวดธนาคาร จำนวนหุ้นชำระแล้ว 3,367 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 10 บาท มีทุนชำระแล้วทั้งหมด 33,671 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ตามที่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBB) ได้จัดตั้ง "ยานแม่" บมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCB) เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกิจการ และขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหุ้นสามัญของ SCB เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแทน

 

ก่อนหน้าที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ธนาคารไทยพาณิชย์ได้อนุมัติการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจทางการเงิน และแผนปรับโครงสร้างการถือหุ้น โดยจัดตั้ง บมจ. เอสซีบี เอกซ์ เพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทลงทุน (Holding Company)

 

เนื่องจากมีมุมมองว่าในปี 2568 จะมี Decentralized Finance Technology การขยายตัวและการบุกของแพลตฟอร์มระดับโลกเข้าสู่ธุรกิจการเงิน พฤติกรรมของผู้บริโภคหลังโควิด (Post-covid) รวมถึงกฎระเบียบข้อบังคับที่เปลี่ยนไปอย่างมาก จะทำให้รูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model)

 

ในแบบ Intermediaries หรือการเป็นตัวกลางเก็บค่าธรรมเนียมของธนาคารแบบดั้งเดิมจะลดบทบาทลง เพราะจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังใหม่ของผู้บริโภคได้ ความสำคัญของธนาคารต่อผู้บริโภคจะลดลงและจะส่งผลลบต่อการให้มูลค่าอนาคตของนักลงทุนต่อธุรกิจธนาคารแบบดั้งเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

SCBX จะไม่เท่ากับธนาคารในความหมายเดิมอีก แต่จะแปลงสภาพกลายเป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี(Tech company) ทางการเงินที่มีธุรกิจธนาคารที่แข็งแรงขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม และจะขยายเข้าสู่ธุรกิจการเงินส่วนบุคคลที่มีการเติบโตสูงที่ธนาคารไม่สามารถตอบสนองได้

 

โดยการปรับโครงสร้างธุรกิจมาเป็น SCBX ในครั้งนี้ ตามแผนงาน 5 ปี (2564-2568) ตั้งเป้าหมายขึ้นเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาค และจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 200 ล้านราย และ สามารถผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว และผลักดันมูลค่าหลักทรัพย์ในตลาด (Market Cap) หรือมูลค่ากิจการ ของ SCBX เพิ่มขึ้นแตะ 1 ล้านล้านบาท

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT