การเงิน

ทองคำจะแตะ 40,000 บาทหรือไม่? ไปต่อ หรือ พอก่อน

7 มี.ค. 65
ทองคำจะแตะ 40,000 บาทหรือไม่?  ไปต่อ หรือ พอก่อน

ราคาทองคำในประเทศวันนี้ทะลุ 30,000 บาท ได้อย่างรวดเร็ว YLG แนะซื้อขายทำกำไรในช่วงสั้นระยะนี้

 

 

สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทองในประดทศวันที่ 7 มีนาคม 2565  ทั้งวันปรับราคา 10  ครั้ง รวมเพิ่มขึ้น 600 บาทต่อบาททองคำ

  

ทองคำแท่ง                     รับซื้อ    30,800.00         ขายออก  30,900.00        

ทองรูปพรรณ                  รับซื้อ    30,244.20          ขายออก   31,400.00       

หน่วยเป็นบาทต่อบาททองคำ

ราคา Gold Spot อยู่ที่ 1,998.50ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เงินบาทอยู่ที่ 32.94 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

 

screenshot2565-03-07at18. 

บทวิเคราะห์ ภาคค่ำ จาก YLG

 

ราคาทองคำ ระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบ 1,969.91-2,000.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 37.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ ส่วนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียกระตุ้นราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ให้พุ่งสูงขึ้นจนก่อให้เกิดความกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจทั่วโลกและยิ่งกระตุ้นเงินเฟ้อ

 

นอกจากนี้ ในวันนี้ราคาทองคำมีปัจจัยช่วยหนุนเพิ่มจากหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ของยูเครน เผยว่า  กองกำลังทหารของรัสเซียยิงถล่มสถาบันคาร์คอฟเพื่อการวิจัยฟิสิกส์และเทคโนโลยี (Kharkov Institute of Physics and Technology) ที่ตั้งอยู่เมืองคาร์คิฟทางภาคตะวันออกยูเครน ซึ่งได้สร้างความเสียหายอาคารหลายหลัง

 

ประกอบกับราคาบิตคอยน์ร่วงหลุดจากระดับ 38,000 ดอลลาร์ช่วงเช้านี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังคงเป็นปัจจัยกดดันให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง สำหรับวันนี้แนะนำให้นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งยุโรป ยุโรปเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนจาก Sentix ทั้งนี้แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้น โดยบริเวณแนวรับโซน 1,975-1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารยืนเหนือโซนดังกล่าวได้แนะนำเข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้น โดยรอขายทำกำไรในโซน แนวต้าน 2,014-2,031 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้ถือต่อ

 

ด้าน นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ มีมุมมองต่อทองคำว่า ทางด้านปัจจัยทางเทคนิค ราคาทองคำ ได้ทะลุกรอบราคาแนวโน้ม Sideway ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วออกมาได้ หากราคาไม่ลงมาต่ำกว่าระดับ 1,840 ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังถือว่าเป็นเพียงแค่การย่อตัวเพื่อที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 2,077 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีโอกาสที่จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ จึงมองว่าควรมีทองคำติดอยู่ในพอร์ตในปีนี้ โดยผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ปรับตัวขึ้น 7.8% ขณะที่ "น้ำมัน" เป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนมากที่สุดตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ปรับตัวขึ้นกว่า 50% แล้ว

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT