ข่าวเศรษฐกิจ

สรุปดราม่ากางเกงช้าง Soft Power ไทย ดังไกลระดับโลก แต่กลับ Made in China

8 ก.พ. 67
สรุปดราม่ากางเกงช้าง Soft Power ไทย  ดังไกลระดับโลก แต่กลับ Made in China

istock-1843944148

ทำไม่กางเกงช้างถึงฮิต?

ในช่วงปีที่ผ่านมา หนึ่งใน Soft Power ที่มาแรงถูกตาต้องใจทั้งชาวไทยและต่างชาติ นั่นก็คือ กางเกงช้าง กางเกงลำลองผ้านุ่ม ใส่สบาย แมตช์กับเสื้อยืดชิวๆ ก็ได้ลุคสุดเก๋ได้ไม่ยาก  

ความฮิตในครั้งนี้ ถูกปลุกกระแสจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ยังไม่รู้ขนมธรรมเนียม ประเพณีสำหรับการแต่งกายที่มิดชิดหากเข้าเยี่ยมชมตามสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง และสถานที่ราชการต่างๆ ที่ จึงจำเป็นต้องซื้อ กางเกงช้าง ที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายในบริเวณนั้น เพื่อสวมทับให้ดูสุภาพ  

นอกจากนี้ ‘กางเกงช้าง’ ยังมีกระแสมาแรงบนโลกออนไลน์โดยเฉพาะ TikTok นักท่องเที่ยวหลายคนได้เลือกใส่กางเกงช้าง และอัดคลิปวีดีโอขณะท่องเที่ยวในประเทศไทย ทำให้สร้างกระแสที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง และสำหรับคนที่ไม่เคยมาไทย แต่เห็นกางเกงช้างจากภาพถ่ายของเพื่อนที่สวมใส่ ก็อยากได้บ้าง จนกลายเป็นกระแสปากต่อต่อปาก  "เมื่อคุณไปตามจุดท่องเที่ยวในเมืองไทย คุณจะเจอนักท่องเที่ยวใส่กางเกงช้างอยู่ทั่วบริเวณ" ทำให้กางเกงช้างเป็นของฝากแฟชั้นไอเทมสุดคลูหากเดินทางมายังประเทศไทย  

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้กางเกงช้างฮิต คือ ไอดอลชื่อดังจากเกาหลีหรือศิลปินคนดังจากต่างประเทศหลายๆ คน เช่น เตนล์ (Ten) จากวง NCT/WayV หนุ่มไทยที่ไปเดบิวต์ที่เกาหลี, แบมแบม GOT7, มาร์ค GOT7,แจ็คสัน หวัง GOT 7 หรือ จุนฮเว ikon

w644(2)

ททท. จัดการแข่งใส่กางเกงช้างเยอะที่สุดใน 1 นาที 

จากกระแสความร้อนแรงของกางเกงช้าง ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แถลงเปิดตัวโครงการ "THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS CHALLENGE” เป็นนำเสนอ Soft Power 5F ของไทย ได้แก่ Food (อาหาร) Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) Film (ภาพยนตร์) Fight (มวยไทย) และ Festival (เทศกาลประเพณีไทย) เพื่อขานรับนโยบาย Soft Power เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เมื่อช่วงกลางเดือน ม.ค.67 ที่ผ่านมา

โดยการแข่งขัน 5 หัวข้อที่สุดของโลกจะเป็นการเลือกเอาสินค้าท่องเที่ยวและ Soft Power ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติมานำเสนอ และจัดขึ้นระหว่าง 21-27ก.พ.67  ณ พาร์คพารากอน สยามพารากอน

1.ใส่นวมต่อยลูกโป่งแตกมากที่สุดใน 1 นาที 

2.ใส่กางเกงช้างเยอะที่สุดใน 1 นาที 

3.กินสตรีทฟู้ด (ปาท่องโก๋) มากที่สุดใน 1 นาที 

4.ใส่หน้ากาก (หน้ากากผีตาโขน) ได้มากที่สุดใน 1 นาที 

5.กินป๊อบคอร์นได้เยอะที่สุดใน 1 นาที 

post_thumbnail_20240129110453

กางเกงช้าง Soft Power ไทยแต่สุดท้าย Made in China

กางเกงช้าง เอกลักษณ์ของประเทศไทย แต่แท้จริงแล้วสินค้าเหล่านี้เกินเกือบ 70% ที่วางขายอยู่ในท้องตลาด ไม่ได้ผลิตโดยฝีมือชาวไทยแต่กลับเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศจีนหรือประเทศเพื่อนบ้านในราคาต่ำ เพื่อนำมาขายให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกต่อหนึ่ง  

เนื่องจากราคาต้นทุนการผลิตที่จีนถูกกว่าสินค้าในไทยมาก ถึงคุณภาพจะด้อยกว่า แต่นักท่องเที่ยวเองกลับไม่ได้สนใจที่มาหรือคุณภาพ พวกเขาสนใจเรื่องของราคาเป็นหลัก

ส่วนกางเกงช้างที่ติดป้าย Made in Thailand นั้นก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง แต่เป็นสินค้าที่ผลิตจากโรงงานในต่างจังหวัด และมีราคาสูงกว่าท้องตลาดปกติ ทำให้พ่อค้า-แม่ค้าส่วนมากเลือกที่จะขายกางเกงช้างที่นำเข้าจากประเทศจีนมากกว่าประเทศไทย

istock-615819062_1

จีน ผลิตกางเกงช้างได้ในราคา 30 บาท

เพจลุยจีน ได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องหลังราคากางเกงช้างที่แสนถูกจากโรงงานจีนโดยเว็บไซต์ขายสินค้า 1688 ได้มีการขายส่งกางเกงช้าง 大象裤ตัวละ 6 หยวน (30 บาท) ส่วนพ่อค้าแม่ค้าไทยก็รับ แล้วมาขายในราคาที่แพงขึ้น เช่น ขาสั้นเริ่ม 65 บาท ขายาวเริ่ม 75 บาท บางที่ขายแบบทีละ 2 ตัว 3 ตัว 150 บ้าง 199 บ้าง

425663858_908326344082503_850

นอกจากนี้ เพจลุยจีน ยังได้เสนอความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อให้กางเกงช้างไทยดังไปไกลทั่วโลก เช่น

  • สู้ต้นทุนยังไงก็ไม่ชนะ

หากเราจะสู้กางเกงช้างที่ผลิตจากจีน ประเทศไทยคงไม่สามารถสู้ด้วยราคาสินค้าได้ แค่ต้องสู้ด้วยคุณภาพสินค้าที่ดี ใส่สบาย ใส่ได้นาน คุ้มราคา แต่ทางภาครัฐก็ออกนโยบายควบคุมราคาสินค้าไม่ให้ราคาโดดจนเกินไป เช่นเดียวกันกับ ออกแบบลายผ้า กางเกงช้างไทยต้องออกแบบให้มีความปราณีต สวยงาม และมีเรื่องเล่าภายใต้การออกแบบ หากลูกค้าได้ลองใส่ไปนานๆ ก็จะเกิดการบอกเล่าปากต่อปากถึงความคุ้มค่าเอง แล้วนานๆไปจะแยกกลุ่มลูกค้าเองว่ากลุ่มไหนชอบ "ของถูก" กลุ่มไหนชอบ "ของดี"

425676797_908326374082500_924

  • มอง painpoint ของกางเกงช้างให้กระจ่าง

กางเกงช้าง ต้องไม่ใช่แค่เสื้อผ้าที่ไม่ใช่ใส่แค่ในประเทศไทย แต่นักท่องเที่ยวที่ซื้อ จะต้องสามารถเอากลับไปใส่โชว์ทีบ้านเค้า หรือการออกแบบกางเกงช้างให้มีความหนาเทียบเท่ากับกางเกงวอร์ม ของดีมีคุณภาพจากเมืองไทยที่ใส่ได้ทุกประเทศทุกโอกาส และทุกอากาศ

พร้อมกับแนะนำให้ กระทรวงพาณิชย์เข้ามาดูเรื่องกำแพงภาษี และ เครื่องหมาย Thai Select เช่น ผู้ผลิตเจ้าไหนทำแล้วคุณภาพดีก็จะมีเครื่องหมายนี้บนท๊กสินค้า เพื่อรับรองคุณภาพ ส่วนโรงงานไหนปลอมตรานี้ ก็ต้องมีมาตราการลงโทษตามกฎหมาย

s4mdfbl0ziqtf8kkbkq2-o

กางเกงลายช้างควรจดลิขสิทธิ์สินค้า กั้นสินค้าต่างชาติ

นาย เศรษฐา ทวีสิน ได้มีการพูดถึงกางเกงช้างไทยในประเทศจีน ว่าเป็นเรื่องของความรวดเร็วทางการค้า ที่ไหนมีโอกาส ก็ต้องเร่งฉกฉวยกันไป ดังนั้น เราต้องเร่งดูเรื่องลิขสิทธิ์ “ถ้าเราช้าก็จะมีคนเอาไปทำก่อน เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนอย่างนึง ที่เราจะต้องไปพูดคุยกัน”
ด้าน ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ คอนเฟิร์มว่า กางเกงลายช้าง”และ กางเกงลายแมวมีการ จดลิขสิทธิ์” เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของไทยแล้ว แต่ที่เห็น กางเกงช้างก๊อบ made in China” จากการสำรวจตลาดแล้วพบว่า มีการทำให้ผิดเพี้ยน หรือมีรูปแบบที่แตกต่างออกไป ซึ่งต้องไปพิจารณาต่อว่า กฎหมายจะครอบคลุมได้มากแค่ไหน

หลังจากที่รัฐบาลไทย กำลังจะกระตุ้นท่องท่องเที่ยวไทยผ่าน Soft Power โดยการเร่งกระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาไทย แต่หากจะรักษาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าหรือสินค้าไทยที่จะได้อานิสงส์จากนโยบายซอต์พาวเวอร์ของรัฐบาล อย่างสงกรานต์ ที่จะมีเสื้อผ้าและของที่เกี่ยวข้องออกมามากมาย ซึ่งเป็นดีไซน์ของไทย ก็ควรใช้โอกาสนี้ออกมาตรการเข้มงวด เพื่อการป้องกันการนำเข้าสินค้าทะลักจากชายแดน และรัฐควรเร่งจดลิขสิทธิ์สินค้าต่างๆ เพื่อปกป้องความคิดสร้างสรรค์ของไทย

ทำให้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีการแนะนำผู้ประกอบการกางเกงลายช้างของไทย ให้มีการสร้างลวดลายสินค้าที่เป็นลิขสิทธิ์ของตนเอง หาเอกลักษณ์ และตั้งราคาเหมาะสมให้เหมาะสม ควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ เพื่อให้เกิดการจดจำและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ผู้ประกอบการ ควรสร้างสรรค์ลวดลายช้างใหม่ๆ

ผู้ประกอบการ ควรผลิตสร้างสรรค์ลวดลายช้างใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันแล้ว ยังได้รับความคุ้มครองอีกด้วยโดยเจ้าของลิขสิทธิ์นำไปต่อยอดใช้ประโยชน์และสร้างรายได้

ดังนั้น ผู้สร้างสรรค์จึงควรนำลวดลายที่ออกแบบไว้มาแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมายหากพบการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้น รวมทั้งใช้เป็นหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการเจรจาเพื่อขยายโอกาสทางการค้า

อย่างไรก็ดี การดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน นอกจากคุณภาพของสินค้าแล้ว ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามเรื่องการสร้างแบรนด์ เพื่อใช้โปรโมตสินค้าให้ผู้บริโภคจดจำแยกแยะได้สะดวกมากขึ้น จึงสนับสนุนให้พัฒนาแบรนด์หรือเครื่องหมายการค้ามาจดทะเบียนกับกรมฯ เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอีกหลายมิติ รวมถึงการทำการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ ซึ่งกรมฯ มีบริการให้คำปรึกษาเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาแบบครบวงจร เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการก่อนเดินหน้าทำธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อรับบริการได้ที่ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Advisory Center : IPAC) หรือโทรสายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา 1368

 7e9e222e81a6d50d371dafbdc3ab9

 

 

 

 

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT