วันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้จะเดินทางออกต่างจังหวัดใช้บริการรถโดยสารหมวด 2 และ 3 โปรดทราบว่าหลายเส้นทางมีการปรับราคาขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา สาเหตุจากต้นทุนราคาน้ำมันสูงขึ้น โดยรัฐมนตรีฯคมนาคม ยอมรับ ต้องอนุญาตให้ขึ้นค่าโดยสาร หากหยุดวิ่งยิ่งกระทบประชาชนเดินทางกลับบ้าน แนะใช้บริการ บขส.ยังราคาเท่าเดิม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังจาก ผู้ประกอบการรถโดยสารไปต่างจังหวัดปรับขึ้นค่าโดยสารว่า เป็นผลมาจากการเจรจาที่ตอนแรกผู้ประกอบการจะขึ้นกิโลเมตรละ 10 สตางค์ แต่เราให้ขึ้นได้แค่อัตรา 5 สตางค์ต่อกิโลเมตร ซึ่งถือว่า เป็นอัตราที่ปรับขึ้นแล้วเท่าทุน ผู้ประกอบการสามารถดำเนินกิจการได้ โดยไม่ได้มีกำไรเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งเราก็ต้องเห็นใจรถผู้ร่วมบริการด้วย เพราะราคาน้ำมันมันก็ปรับสูงขึ้น แต่หากวันใดที่ราคาพลังงานหรือองค์ประกอบเรื่องของค่าโดยสารลดลงเราก็จะปรับราคาค่าโดยสารลงเหมือนกัน
“ขณะที่แนวคิดหลักของเรา คือ ต้องมีรถให้บริการ หากไม่ให้เขาขึ้นราคาเขา ก็อาจจะหยุดวิ่งซึ่งอาจจะเป็นปัญหามากกว่านี้ ดังนั้นจึงต้องเห็นใจและเข้าใจทางฝ่ายผู้ประกอบการด้วย อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้มอบให้ทางผู้จัดการ บขส อธิบดีกรมขนส่ง และรองปลัดกระทรวงคมนาคม ลงไปดูการให้บริการ เพราะเมื่อมีการปรับราคาขึ้นแล้ว การบริการต้องมีคุณภาพ โดยบางพื้นที่ยังไม่ได้ปรับราคาขึ้น เช่น ภาคใต้ แต่หากรับค่าโดยสารไม่ไหวต้องหันมาใช้บริการ บขส.โดยยังคงอัตราค่าโดยสารเดิม
ข้อมูลจาก MGR Online สำรวจค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด พบว่า
เส้นทางภาคเหนือ
เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ปรับขึ้นจากเดิม 529-823 บาท เป็น 594-924 บาท หรือเพิ่มขึ้น 65-101 บาท
เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงราย แยกเป็นไปทางกำแพงเพชร ปรับขึ้นจากเดิม 725 บาท เป็น 813 บาท เพิ่มขึ้น 88 บาท ส่วนไปทางพิษณุโลก ปรับขึ้นจากเดิม 590-918 บาท เป็น 662-1,030 บาท เพิ่มขึ้น 72-112 บาท
เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางยอดนิยมอย่างสาย 21 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ทุกบริษัทปรับขึ้นจากเดิม 209 บาท เป็น 232 บาท เพิ่มขึ้น 23 บาท แต่บางบริษัท เช่น แอร์โคราชพัฒนา มีตั๋วไป-กลับ ราคา 438 บาท ตกเที่ยวละ 219 บาท และตั๋วชุด 10 ใบ 2,100 บาท ตกเที่ยวละ 210 บาท เหมาะสำหรับคนที่เดินทางเป็นประจำ นอกจากนี้ เส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น ปรับขึ้นจากเดิม 397-529 บาท เป็น 443-591 บาท เพิ่มขึ้น 46-62 บาท เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ปรับขึ้นจากเดิม 536-714 บาท เป็น 601-801 บาท เพิ่มขึ้น 65-87 บาท
เส้นทางภาคใต้
พบว่าบางบริษัท เช่น ลิกไนต์ทัวร์ และนครศรีร่มเย็นทัวร์ ขอตรึงราคาค่าโดยสารเดิมถึง 31 ก.ค. 2565 เพื่อช่วยเหลือประชาชน ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ เพิ่มขึ้นจากเดิม 698-815 บาท เป็น 785-916 บาท เพิ่มขึ้น 87-101 บาท เส้นทางกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี เพิ่มขึ้นจากเดิม 499-776 บาท เป็น 558-868 บาท เพิ่มขึ้น 59-92 บาท เส้นทางกรุงเทพฯ-ยะลา เพิ่มขึ้นจากเดิม 794 บาท เป็น 891 บาท เพิ่มขึ้น 97 บาท และเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตง เพิ่มขึ้นจากเดิม 895 บาท เป็น 1,006 บาท เพิ่มขึ้น 111 บาท
เส้นทางภาคกลาง ภาคตะวันออก
พบว่า บริษัท รถรุ่งเรือง จำกัด (พัทยา) แจ้งปรับราคาขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. จากเดิม 119 บาท เป็น 131 บาท เพิ่มขึ้น 15 บาท ทั้งจากสถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งเอกมัย และจุดจอดบางนา ส่วนรถมินิบัสและรถตู้พบว่าได้ทยอยปรับค่าโดยสารไปบ้างแล้ว เช่น รถมินิบัส เส้นทางกรุงเทพฯ-นครปฐม ขึ้นค่าโดยสารตามระยะทาง สูงสุด 50 บาท รถมินิบัส เส้นทางกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ปรับขึ้นราคา 10 บาท โดยหากขึ้นจากสถานีขนส่งสายใต้ จากเดิม 100 บาท เป็น 110 บาท และจากสถานีขนส่งหมอชิต จากเดิม 120 บาท เป็น 130 บาท
อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ประกาศว่าจะตรึงราคาค่าโดยสารในอัตราเดิมไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพใหแก่ประชาชน ผู้ใช้บริการสามารถจองตั๋วล่วงหน้าผ่านช่องทางการจำหน่ายตั๋วของ บขส. เช่น Application E-Ticket, เว็บไซต์ บขส. www.transport.co.th เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว บขส., เคาน์เตอร์เซอร์วิส และตัวแทนจำหน่ายตั๋วของ บขส.ทั่วประเทศ