Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เจรจาจีน-สหรัฐฯ ที่สวีเดนยังไร้ข้อสรุป ลุ้นทรัมป์ต่อเส้นตาย 12 ส.ค.
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เจรจาจีน-สหรัฐฯ ที่สวีเดนยังไร้ข้อสรุป ลุ้นทรัมป์ต่อเส้นตาย 12 ส.ค.

30 ก.ค. 68
15:34 น.
แชร์

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และจีนเห็นพ้องเมื่อวันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2025 ว่าจะผลักดันการขยายระยะเวลาการระงับการขึ้นภาษีนำเข้าออกไปอีก 90 วัน หลังเสร็จสิ้นการเจรจาเป็นเวลา 2 วันที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดความตึงเครียดจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจของโลก

แม้จะยังไม่มีข้อตกลงอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งสองฝ่ายต่างประเมินว่าการหารือเป็นไปอย่าง “สร้างสรรค์” และมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ความคืบหน้าเพิ่มเติมในอนาคต โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สกอตต์ เบสเซนต์ ระบุว่า แม้บรรยากาศในการเจรจาจะเป็นบวก แต่การขยายเวลาการระงับภาษียังคงต้องรอการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่มาตรการปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 12 สิงหาคม

เบสเซนต์เตือนว่า หากไม่มีการขยายเวลา อัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอาจกลับมาเพิ่มขึ้นสูงถึง 145% พร้อมระบุว่า “การเจรจาดำเนินไปในทิศทางที่ดี เพียงแต่ยังไม่มีการอนุมัติอย่างเป็นทางการ”

เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าจะเข้าพบประธานาธิบดีทรัมป์ในวันพุธหลังเดินทางกลับถึงกรุงวอชิงตัน ด้านผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เจมีสัน เกรียร์ ระบุว่า การขยายเวลาการระงับภาษีออกไปอีก 90 วัน เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่อยู่ระหว่างการพิจารณา

“เราเจรจากันอย่างสร้างสรรค์แน่นอน และจะรายงานผลลัพธ์ในเชิงบวกกลับไป แต่ในเรื่องการขยายเวลาการระงับภาษีนั้น ท่านประธานาธิบดีจะเป็นผู้ตัดสินใจ” เกรียร์กล่าว ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีสวีเดนในกรุงสตอกโฮล์ม

ด้านหลี่ เฉิงกัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจา กล่าวว่าการหารือครั้งนี้เป็นไปอย่าง “ลึกซึ้ง ตรงไปตรงมา และสร้างสรรค์” พร้อมยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายจะยังคงรักษาช่องทางสื่อสารใกล้ชิดเพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างยั่งยืน เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าให้มั่นคงและยั่งยืน

เมื่อเดือนพฤษภาคม ทั้งสองฝ่ายได้วางกรอบข้อตกลงเบื้องต้น โดยสหรัฐฯ ลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจาก 125% เหลือ 10% ขณะที่จีนผ่อนคลายมาตรการตอบโต้ รวมถึงลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ และผ่อนปรนข้อจำกัดด้านการส่งออกแร่หายาก (rare earths)

การเจรจาที่สตอกโฮล์มครั้งนี้ นับเป็นรอบที่สามต่อจากการหารือในเจนีวาและลอนดอน และถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในช่วงก่อนเส้นตายวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งอาจเป็นจุดตัดสินว่าทั้งสองฝ่ายจะหลีกเลี่ยงการกลับไปสู่สงครามภาษีเต็มรูปแบบได้หรือไม่

จีนเน้นเสถียรภาพ - สหรัฐฯ กดดันปฏิรูปเชิงโครงสร้าง

หลี่ เฉิงกัง รองรัฐมนตรีพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า จีนและสหรัฐฯ ต่างตระหนักดีว่าความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มั่นคงนั้นเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสหรัฐฯ และจีน โดยยืนยันว่า “ทั้งสองฝ่ายจะยังคงสื่อสารอย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนมุมมองทางเศรษฐกิจอย่างทันท่วงที และร่วมกันผลักดันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้พัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

นอกจากนี้ สถานีข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ความร่วมมือระหว่างสองประเทศไม่เพียงสร้างประโยชน์ซึ่งกันและกัน แต่ยังช่วยสนับสนุนเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก โดยระบุว่า “หากจีนและสหรัฐฯ ร่วมมือกัน ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ แต่หากเกิดการเผชิญหน้า ทั้งสองก็จะได้รับผลกระทบ”

อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังคงผลักดันให้จีนเปลี่ยนผ่านจากโมเดลเศรษฐกิจแบบรัฐนำและเน้นการส่งออก ไปสู่โมเดลที่เน้นการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สินค้าสหรัฐฯ เข้าสู่ตลาดจีนได้มากขึ้น เบสเซนท์กล่าวว่า “การมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับเจ้าหน้าที่จีน ก่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น เราเริ่มเข้าใจวาระและจุดยืนของพวกเขาได้ชัดเจนขึ้น”

จีนถือไพ่แร่หายาก - สหรัฐฯ กดดันพันธมิตรยุโรป

การเจรจาระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่กรุงสตอกโฮล์มมีขึ้นไม่นานหลังจากที่สหรัฐฯ ทำข้อตกลงการค้าฉบับใหญ่กับสหภาพยุโรป โดยกำหนดภาษี 15% สำหรับสินค้าส่งออกส่วนใหญ่จากยุโรปเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ข้อตกลงดังกล่าวช่วยผ่อนคลายความกังวลของหลายประเทศในยุโรป

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวกลับจุดกระแสวิพากษ์ในหลายประเทศ ฝรั่งเศสประณามว่าเป็นการ “ยอมจำนน” ต่อแรงกดดันจากวอชิงตัน ขณะที่เยอรมนีเตือนว่าข้อตกลงนี้อาจสร้าง “ความเสียหายอย่างรุนแรง” ต่อเศรษฐกิจของยุโรปโดยรวม

ในทางกลับกัน จีนยังถือไพ่ต่อรองสำคัญด้วยการควบคุมตลาดแร่หายากและแม่เหล็ก ซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง การผลิตยานยนต์ และยุทโธปกรณ์ทางทหาร ไซรัส เดอ ลา รูเบีย นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารพาณิชย์ฮัมบูร์ก ระบุว่า “จีนรู้ดีว่าตนมีอำนาจต่อรองสูง ซึ่งเห็นได้จากการยกระดับความตึงเครียดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา”

ต่างจากจีน ประเทศในยุโรปยังคงต้องพึ่งพาสหรัฐฯ ในด้านความมั่นคง และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้อียูไม่สามารถตอบโต้เชิงรุกเหมือนจีนได้

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ และจีนได้เจรจาในเจนีวาและลอนดอนช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน โดยมุ่งลดภาษีตอบโต้ระดับสูงระหว่างกัน และฟื้นการส่งออกแร่หายากจากจีน รวมถึงสินค้าไฮเทคจากฝั่งสหรัฐฯ เช่น ชิป H20 ของ Nvidia ที่ถูกสั่งระงับ

นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังกล่าวหาจีนว่าใช้นโยบายรัฐนำและเน้นการส่งออก เพื่อทุ่มตลาดโลกด้วยสินค้าราคาถูก ส่วนจีนมองว่าการควบคุมการส่งออกด้านเทคโนโลยีของวอชิงตัน เป็นความพยายามชะลอการเติบโตของจีนโดยตรง

ในอีกด้านหนึ่ง รัฐมนตรีอุตสาหกรรมจีนได้พบปะกับผู้แทนธุรกิจสหรัฐฯ รวมถึง Apple ที่กรุงปักกิ่ง โดยยืนยันว่ารัฐบาลจีนจะสนับสนุนการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจในจีน

กล่าวโดยสรุป แม้จะยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนจากการเจรจาในครั้งนี้ แต่ท่าทีของทั้งสองฝ่ายบ่งชี้ถึงความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งรอบใหม่ และอาจปูทางสู่การพบปะระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ภายในสิ้นปีนี้ แม้ประเด็นดังกล่าวจะยังไม่ถูกหยิบยกอย่างเป็นทางการก็ตาม

ที่มา: Reuters, Nikkei Asia

แชร์
เจรจาจีน-สหรัฐฯ ที่สวีเดนยังไร้ข้อสรุป ลุ้นทรัมป์ต่อเส้นตาย 12 ส.ค.