Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
นี่แค่ครึ่งปี!ความเสี่ยงเพียบ 3 Scenarioเศรษฐกิจไทยเมื่อสงครามยืดเยื้อ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

นี่แค่ครึ่งปี!ความเสี่ยงเพียบ 3 Scenarioเศรษฐกิจไทยเมื่อสงครามยืดเยื้อ

18 มิ.ย. 68
10:34 น.
แชร์

เรากำลังจะผ่านครึ่งแรกของปี 2568 ไปแบบแทบไม่ได้หายใจหายคอกันเลย เศรษฐกิจโลกที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นจากโควิด ยังไม่ทันเดินเต็มฝีเท้า ก็โดนถาโถมด้วยปัญหา “สงครามการค้า” ที่ยังไม่จบง่ายๆ แม้มีข่าวว่ารัฐบาลไทยกำลังจะได้เจรจาการค้ากับสหรัฐฯก็ตาม และล่าสุดสงครามในตะวันออกกลาง ก็กำลังลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

เรากำลังพูดถึง ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ที่เริ่มดุเดือดและซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ และมันไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองต่างประเทศธรรมดา ๆ แต่ส่งแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะต่อเศรษฐกิจไทยที่กำลังอ่อนแออยู่แล้ว ทั้งจากปัญหาภายในและภายนอก

ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล. InnovestX บริษัทการเงินการลงทุนในกลุ่ม SCBX ได้ออกบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจพูดถึง 3 ฉากทัศน์ (Scenario) ของเศรษฐกิจไทย หากสถานการณ์สงครามส่อแววยืดเยื้อ 

ฉากที่ 1:สถานการณ์ฐาน โอกาสเกิด 50%

กรณีนี้ความขัดแย้งคลี่คลายเร็วพอสมควร อิหร่านอาจแค่ “ตอบกลับพอเป็นพิธี” แล้วกลับมาเจรจาบนโต๊ะพูดคุย ราคาน้ำมันก็จะลดฮวบลงมาอยู่ราว ๆ 60–65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ภายใน 1 เดือน

ส่วนเศรษฐกิจไทยในภาพนี้จะขยายตัวได้ 1.4% หรือมากกว่า ฟังดูพอไหว ? แต่ก็ต้องบอกว่ามันคือ “แค่รอด” ไม่ใช่ “โตแรง” ส่งออกยังติดลบอยู่ แต่ติดลบน้อยลง -0.5-3%  การท่องเที่ยวยังไปต่อได้ และมีโอกาสให้ธปท.ลดดอกเบี้ยได้ 

ฉากที่ 2: สถานการณ์อึมครึม โอกาสเกิด  40%

สถานการณ์ที่ดูจะเป็นไปได้สูงสุดตอนนี้ คือ เกิดการปะทะกันเป็นระยะ เแต่ควบคุมได้ ยังไม่บานปลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ความตึงเครียดยังอยู่แบบประคองไว้ ลักษณะเช่นนี้ราคาน้ำมันคงที่ระหว่าง 70–90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ซ้ำร้าย เจรจาการค้าไทย–สหรัฐ อาจไม่ทันเส้นตาย 9 กรกฎาคม แปลว่ากรณีนี้แรงหนุนส่งออกก็หายไปอีก

เศรษฐกิจไทยในภาพนี้ขยายตัวแค่ 1.2% เท่านั้น และสิ่งที่น่ากังวลคือ ความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่เป็นระลอก ๆ จนสร้างแรงกดดันต่อการฟื้นตัวทุกด้าน ทั้งการบริโภค การลงทุน และท่องเที่ยว ธปท.อาจเผชิญภาวะลำบากในการตัดสินนโยบายดอกเบี้ย 

ฉากที่ 3: สถานการณ์เลวร้ายสุดขีด โอกาสเกิด: 10% (แต่น่ากลัวที่สุด)

นั่นคือ เกิดสงครามเต็มรูปแบบและขยายวง - ถ้าอิหร่านของขึ้นขั้นสุด ตอบโต้ด้วยการ ปิดช่องแคบฮอร์มุซ หรือ โจมตี Kharg Island  ซึ่งช่องแคบฮอร์มุซเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญของโลก (คิดเป็น 21% ของน้ำมันทั่วโลก)  เกมนี้จะกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคทันที และสหรัฐฯ ก็อาจโดนดึงเข้ามาเต็มตัว

ราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แบบไม่ต้องสงสัย ตลาดหุ้นผันผวนหนัก ห่วงโซ่อุปทานโลกปั่นป่วน ค่าขนส่งแพงขึ้น ของมาช้า เศรษฐกิจทั่วโลกก็จะยิ่งชะลอลง เงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งสู่ระดับ 4% หรือสูงกว่านั้นในสหรัฐฯ หลายประเทศเสี่ยงเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

สำหรับไทย ภาพนี้คือฝันร้าย เพราะเศรษฐกิจโตได้แค่ 1% เท่านั้น แถมธนาคารแห่งประเทศไทยอาจไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ เพราะเงินเฟ้อพุ่งจากราคาพลังงาน จะกระตุ้นเศรษฐกิจก็ลำบาก จะคุมเงินเฟ้อก็หนักใจ

ทำไมสถานการณ์นี้น่าห่วง... และไม่น่าจะจบง่าย ๆ?

หลายคนอาจคิดว่าเรื่องตะวันออกกลางเป็น “ดราม่าซ้ำ ๆ” ที่มีมาตลอดอยู่แล้ว แต่รอบนี้ต่างออกไป เพราะสิ่งที่อิสราเอลทำไม่ใช่แค่ “ตอบโต้เล็กน้อย” หรือ “ปะทะชายแดน” แบบที่เคยเห็น แต่เป็นการโจมตีเชิงยุทธศาสตร์อย่างหนักหน่วง

1.อิสราเอลเปิดเกมก่อน ด้วยการยิงถล่ม “ฐานนิวเคลียร์นาทานซ” ในเมืองอิสฟาฮาน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอิหร่าน และที่น่าตกใจกว่าคือ พวกเขาสังหาร “Mohamad Bagheri” หัวหน้าคณะเสนาธิการทหารอิหร่าน พร้อมผู้นำกองทัพระดับสูงอีกหลายคนในคราวเดียว  นี่ไม่ใช่การยิงขู่ แต่มันคือ “การส่งสารว่า อิสราเอลจัดหนัก”และการโจมตีฐานนิวเคลียร์ คือ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ 

อิหร่านจึงจำเป็นต้องตอบโต้ เพราะในภูมิภาคนี้ การไม่ตอบโต้คือการแสดงความอ่อนแอ และอาจทำให้สูญเสียอิทธิพลในหมู่พันธมิตรที่อยู่ใต้ร่มเงาของเตหะราน อิหร่านจึงส่งโดรนกว่า 100 ลำ แม้จะถูกอิสราเอลยิงสกัดหมด แต่มันคือ “การส่งสัญญาณ” ว่า เกมนี้ยังไม่จบง่าย ๆ และอิหร่านกำลังหาจังหวะตีคืนให้จมยิ่งกว่าเดิม

2.เนทันยาฮูก็ไม่อ้อมค้อม นายกฯ อิสราเอลประกาศจุดยืนชัดว่า จะไม่ยอมให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์โดยเด็ดขาด และเชื่อว่าอิหร่านกำลังเร่งโครงการนิวเคลียร์อยู่จริง ๆ ดังนั้นไม่ว่าจะเจรจาหรือไม่ อิสราเอลก็พร้อมลงมือก่อน เพราะมองว่านี่คือ “ภัยคุกคามอยู่ในกำมือ” ไม่ใช่เรื่องในอนาคต

3.ปัญหาคือโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านมันไม่ธรรมดา ไม่ใช่แค่โรงงานตั้งอยู่กลางทะเลทรายให้ยิงง่าย ๆ แต่เป็นโครงการที่ซ่อนอยู่ในที่ลึกใต้ภูเขา เช่น ที่ฟอร์โดว หรือในโครงสร้างใต้ดินที่สร้างลึกหลายสิบถึงร้อยเมตร  แปลว่า แม้จะโดนโจมตี ก็อาจยังฟื้นตัวได้ และวนกลับมาเป็นภัยคุกคามอีกครั้ง นี่จึงไม่ใช่เกมที่ใครชนะได้ในหมัดเดียว

4.อิหร่านเองก็อยู่ในจุดที่ไม่ตอบโต้ไม่ได้ เพราะผู้นำสูงสุดออกมาประกาศ “จะลงโทษอย่างรุนแรง” ถ้าแค่เงียบหายไป จะกระทบทั้งศักดิ์ศรี ความน่าเชื่อถือ และอาจทำให้พันธมิตรในภูมิภาคเปลี่ยนข้าง นั่นแปลว่าการตอบโต้จะต้องเกิดแน่ แค่จะเกิด “เมื่อไร และแบบไหน” เท่านั้น

5.สิ่งที่ทำให้เกมนี้ยืดเยื้อที่สุดคือ... สหรัฐอเมริกา แม้สหรัฐจะไม่ได้ยิงเอง แต่ทุกคนรู้ว่าอิสราเอลกับสหรัฐคือ “พันธมิตรเหนียวแน่น” การที่ทรัมป์ (ในฐานะประธานาธิบดีหรือผู้มีอิทธิพลการเมืองตอนนี้) ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนอิสราเอล ก็ทำให้อิหร่านลังเลว่า... จะตอบโต้ใครก่อนดี?

6.ทางเลือกที่จำกัดของอิหร่าน 

  • ถ้าโจมตีอิสราเอลแรงเกินไป = สหรัฐอาจเข้าร่วม
  • ถ้าตีพันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาค = ยืดเยื้อแต่ไม่จบ
  • ถ้าไม่ตีเลย = เสียหน้า เสียศักดิ์ศรี

อิหร่านจึงต้องเดินเกมแบบ “เอาคืนพอเจ็บ แต่ไม่ลากไปถึงจุดเดือดสุด”

แล้วเศรษฐกิจไทยเอายังไงดี?

เราอาจอยู่ห่างจากสนามรบจริง ๆ เป็นพันไมล์ แต่ในโลกของการค้า การพึ่งพาน้ำมัน และห่วงโซ่อุปทาน ไม่มีใครอยู่ไกลได้จริง เพราะน้ำมันแพงขึ้น = ค่าครองชีพพุ่ง ขนส่งสินค้าแพงขึ้น ของก็ขายยาก ท่องเที่ยวก็โดนหางเลข

สถานการณ์นี้ไทยอยู่ใน “เกมที่เรามีส่วนได้ส่วนเสีย” และผลลัพธ์ก็อาจส่งถึงเศรษฐกิจไทยเร็วกว่าที่คิด ดังนั้นครึ่งปีหลังของ 2568 นี้ ไม่ได้แค่เฝ้าดู “ใครจะชนะ” แต่เราต้องคิดให้หนักว่า “จะเอาตัวรอดจากสงครามที่ตัวเองไม่ได้เริ่มต้น” ยังไง เพราะขณะนี้ศึกในศึกนอกถามโถมเราเหลือเกิน 
.
ชมการวิเคราะห์เศรษฐกิจในมิติต่างๆจาก ดร.ปิยศักดิ์ ในรายการ SPOTLIGHT BizTalk

แชร์
นี่แค่ครึ่งปี!ความเสี่ยงเพียบ 3 Scenarioเศรษฐกิจไทยเมื่อสงครามยืดเยื้อ